วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553
การสร้างรายได้ของประเทศ--"ซื้อ PTT วันนี้อีก 10 ปีรวยเละ"
เปรียบเทียบ GDP ประเทศไทย ตอนนี้ 508 billions(อันดับ 23 ของโลก) เงินสำรอง 143 billions(อันดับ 12 ของโลก)นั่นแสดงถึงโอกาสในประเทศไทยที่ได้จากการส่งออก และการลงทุน ซึ่ง จุดนี้ส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตของประเทศ
--(จากตาราง)จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน GDP ของจีน แซงญี่ปุ่น ขึ้นมาเป็น อันดับ 2 ของโลกแล้ว (แต่GDP ต่อหัว)ของจีนยังน้อยกว่าไทย(7900 /4900) แต่ถ้ามองในส่วนของอินเดียต่อหัวแค่ 2500 ซึ่งเท่ากับเวียดนาม ..แสดงว่าจีน ยังคงเป็นผู้ช่วยในการผยุงเศรษฐกิจทั้งเอเชีย
จากตัวเลข ผมมองว่าโอกาสที่เราจะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ได้หลายประเด็น ตั้งแต่ที่ตั้ง และก็ ความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเราก้าวไปไกลกว่าเพื่อนบ้านมาก -- ผมมองว่าถ้าเรา set up -- "Sovereign Wealth Fund"(แบ่งจากทุนสำรองมาบริหาร) โอกาสที่เราจะเป็นที่หนึ่งใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้-เป็นไปได้สูง -- ดูรวมๆศักยภาพเราอยู่ต้นๆของเอเชีย แต่กลายเป็นว่า "ตลาดหุ้น"เรากลับรั้งท้าย ไม่ไปไหน
ถ้าเรามองว่า ตลาดหุ้นมัก สะท้อนเศรษฐกิจที่แท้จริงแล้วล่ะก็ -- ผมขอฟันธงเลยว่า "หากการเมืองภายในสงบ" ตลาดหุ้นเราจะพุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ ซึ่งโอกาสที่จะเห็น SET 1500 ไม่ใช่เรื่องยาก (จากนั้น จะเกิด การเข้ามาระดมทุนอย่างต่อเนื่องในตลาด )--ซึ่งแน่นอน ธุรกิจนำตลาดอย่าง PTT ต้องวิ่งนำตลาดอย่างแน่นอน --"ซื้อ PTT วันนี้อีก 10 ปีรวยเละ"
อ้างอิง : Rank ตำแหน่ง Country ประเทศ GDP (purchasing power parity) (Billion $)
1 United States ประเทศสหรัฐอเมริกา 13,820
2 China จีน 6,473
3 Japan ประเทศญี่ปุ่น 4,262
4 India ประเทศอินเดีย 2,816
5 Germany ประเทศเยอรมัน 2,816
6 United Kingdom สหราชอาณาจักร 2,154
7 France ประเทศฝรั่งเศส 2,074
8 Russia Russia 1,985
9 Italy อิตาลี 1,814
10 Brazil ประเทศบราซิล 1,794
11 Mexico ประเทศเม็กซิโก 1,494
12 Spain สเปน 1,337
13 Canada ประเทศแคนาดา 1,263
14 Korea, South เกาหลีใต้ 1,243
15 Turkey ไก่งวง 853.6
16 Indonesia ประเทศอินโดนีเซีย 810.9
17 Australia ออสเตรเลีย 752.2
18 Iran ประเทศอิหร่าน 733
19 Taiwan ไต้หวัน 672.9
20 Netherlands ประเทศเนเธอร์แลนด์ 635.9
21 Poland ประเทศโปแลนด์ 596.7
22 Saudi Arabia ประเทศซาอุดีอาระเบีย 535.1
23 Thailand ประเทศไทย 508.6
ส่วน GDP - per capita
Singapore 48,500 /United States 46,300 /Hong Kong 40,500 /United Kingdom 35,500
/France 32,800 /Taiwan 29,500 /Korea, South 25,800/Malaysia 14,200 /Mexico 13,900
/Brazil 9,400/Thailand 7,900/China 4,900 /Indonesia 3,500 /Philippines 3,100
/India 2,500 /Vietnam 2,500
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
6 ข้อ ใสใส VI รุ่นใหม่ ควรต้องรู้ ขึ้นชื่อว่า ‘นักลงทุนคุณค่า’ ก็แปลว่า เราต้องข้ามผ่าน ’ราคา’(Price) แล้วพุ่งไปที่แก่นของมันคือ ‘มูลค่า’ (...
-
7 ข้อ ที่คนปกติเขาไม่ทำกันในตลาดหุ้น 1. ’หมกมุ่นอยู่ในจุดที่คนอื่นบอกไม่มีอนาคตแล้ว‘ …ตลาดหุ้นไทยไม่มีอนาคตแล้ว ไปตลาดอื่นเถอะ 2. ’ซื้อหุ้น...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ คุณ สุระ ผู้ก่อตั้ง Com7 เจ้าของ ร้านในเครือ Banana IT ..เดี๋ยวนะ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเชียร์หุ้น แต่จะมาเล่ามุ...
-
ในหนังสือ สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ ...มีอยู่บทนึงที่พูดถึง การหาตัวตนของเราให้เหมาะกับงาน ...ซึ่งก็คือ การรู้ว่า "จริตการทำงาน" ขอ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...