แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

โอกาสเก็บหุ้นถูกในตลาด(ยังมี)


ในตอนนี้ตลาดหุ้นขึ้นไปจะแตะ SET 800 จุด เข้ามาทุกที -- ซึ่งผมก็ค่อนข้างยิ้มเพราะPort ผมให้น้ำหนักกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ฝรั่งซื้อซะด้วย เลยยิ้มเป็นธรรมดา แต่ที่ว่า “ค่อนข้างยิ้ม” ก็คือ ไม่ได้ยิ้มเต็มที่ เพราะในใจผมรู้ดีว่า การที่ฝรั่งเข้ามารอบนี้ ผมเชื่อว่าเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามองจากปีที่แล้วที่ฝรั่งเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น เก็บปันผลตลอดปีประมาณอีกกว่า 5% รวมกับอิ่มหนำกับ Capital Gain เกือบ 60% และกว่า 100% (ในหุ้นตัวใหญ่ที่ราคาถูก เช่น IRPC, PTTAR) จากนั้น ฝรั่งก็ทิ้งหุ้นออกไปนอนตีพุง ปลายปี --จะเห็นได้ว่ารอบปีที่แล้วที่ฝรั่งเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น ส่งผลให้ตลาดขึ้นมากว่า 60% ดังนั้น ในปีนี้ก่อนที่ฝรั่งจะออก ผมว่าต้องเห็น ตลาดวิ่งขึ้นไปอีกพอสมควร

อย่างไรก็ตามถ้ามองในตลาดขณะนี้แม้ว่า หุ้นส่วนมากจะเริ่มวิ่งแล้ว แต่หุ้นที่ยังราคาถูกยังมีอีกเยอะ -- ตัวไหนถูกล่ะ -- ครับให้ดูที่ P/BV ให้ต่ำกว่าหรือประมาณ 1 เท่า ประกอบกับ P/E ต่ำ ยิ่งต่ำกว่า 10 เท่า ยิ่งดี

และที่สำคัญ ต้องปันผลไม่ต่ำกว่า 3 – 5 % ถ้าเข้าข่ายที่ผมว่ามา คุณซื้อทิ้งยาวได้เลย (เช่น CFRESH , KK , TCAP , PL , ASP , TTA , BCP , ESSO , THCOM , EGCO , JMART , SIRI ยังมีอีกหลายตัว ที่สำคัญสุดๆเลยผมว่า เงินปันผลต้องให้ เพราะถ้าตัวไหนให้ปันผลดี ผมถือว่ามี Margin of Safety สูง เพราะยังไงคือ ตลาดขึ้นไม่ขึ้น คุณก็รับปันผลไปเนอะๆแล้ว )

อย่างบางตัวผมชอบ แต่ราคาหุ้นตอนนี้ก็ไม่ถูกแล้ว อย่าง ADVANC คือ ปันผลปีนี้ 10 กว่า เปอร์เซ็นต์ แต่ราคาขึ้นไป สามเท่ากว่า ของ Book Value แต่อย่างไรก็ตาม ผมมองว่า ถ้า 3G เกิด ย่อมต้องมีการลงทุนอีกมาก ดังนั้น โอกาสโตของ Book Value ก็มีสูง และยิ่งหุ้น ADVANC โดยปกติเป็นหุ้นที่เล่นกันที่ 4 – 5 เท่าของ Book อยู่แล้ว ดังนั้น หุ้นตัวนี้แม้ไม่เข้าตา Value Investor แต่ผมชอบ เพราะมันยังไปต่อได้อีกเยอะ แถมผมได้ปันผลเรื่อยๆเป็นการลดความเสี่ยง คือถ้าตลาดตกลงไปอีกผม ก็ไม่กลัว ก็เอาปันผลนี่แหละซื้อเพิ่มให้ Port ผมถูกลงไปอีก

ดังนั้นในแนวทางที่ผมลงทุนจะต่างจาก Value Investor นิดหน่อยตรงที่ผมจะเน้น ปันผลมาประกอบด้วย เพราะถือว่า เป็น Room ที่ผมจะได้เงินสด เพื่อลดความเสี่ยงของ Port ลงได้ -- คือ มุมนึง ที่ผมมองก็คือ อย่าง หุ้น PTT หลายคนมองว่าแพงแล้ว แต่ผมว่า ยังถูกอยู่มาก

เพราะจริงๆ PTT จะเป็นหุ้นยอดนิยมคล้ายๆกับ SCC ซึ่งตอนนี้ถ้าดู SCC ตอนนี้ 3 เท่าของ Book ขณะที่ PTT ยังอยู่เท่ากว่าๆ ซึ่งถ้าไม่ติด มาบตราพุต ป่านนี้ PTT ต้องซื้อขายกันที่ไม่ต่ำกว่า 3 เท่าของ book ( ผมคาดว่า Book Value ของ PTT ในอีก 5 ปี จะอยู่ที่ประมาณ 200 บาท ถ้า 3 เท่าของ book ก็คือ 600 บาท

-- ลองคิดซิครับว่า คุณซื้อวันนี้ประมาณ 250 บาท รับปันผลประมาณ 3 – 4 % ต่อปี แล้วไปขายที่ 600 บาท อีกห้าปีข้างหน้า -- คุณลองหาการลงทุนที่ดีกว่านี้มาให้ผมดูหน่อยซิครับ ผมว่ายาก-- ดังนั้น PTT ผมชอบ) ในระยะสั้นผมชอบ PTTAR เพราะถ้ารอบเข้ากับ IRPC ผมว่า Capital Gain จะได้ในเวลาไม่นาน พอรวมกัน ผมก็ขายทิ้ง ได้เงินสด มารอซื้อ ตัวที่ถูกต่อไป

จะเห็นได้ว่า การจัด Port ต้องมีการคิดตลอดเวลา ไม่ใช่คิด เข้าออกจากตลาด แต่เป็นการคิดเปลี่ยนระหว่างหุ้น คือ ถ้าตัวไหนแพงแล้ว ก็ลดความเสี่ยงไปยังตัวที่ถูกกว่า --- ต้องไม่ลืมว่าปีที่แล้วปีนี้ และปีหน้า ยังอยู่ในปีที่น่าซื้อหุ้นอยู่ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่กลัว แสดงว่า ตลาดยังไม่ได้ Peak แปลว่า หุ้นยังขึ้นได้อีก

แต่ถ้าหลังจากปีถัดจากปีหน้าไป ผมว่า เศรษฐกิจ น่าจะเริ่มดีทั่วโลก และเมื่อเวลานั้นมาถึง ผมว่าควรจะเป็นเวลาที่คุณลด Port คือ ทยอยขายตัวที่แพง P/BV สูงๆ ออกไป แล้วก็โยกไปตัวที่ต่ำกว่า แต่ถ้าไม่มี ก็กลับมาที่พันธบัตร หรือ เงินฝาก ซึ่งถ้าเวลาเศรษฐกิจดีๆ เงินฝากก็ย่อมสูงขึ้น อาจเกิน 5%

(ลองนึกให้ดีครับว่า สิ่งที่ผมพูด Make Sense หรือไม่ “จงซื้อหุ้นในเวลาที่คนอื่นกลัว และขายหุ้นในเวลาที่คนอื่นโลภ) (ที่สำคัญสำหรับกฏนี้คือ คุณต้องถือไม่ต่ำกว่า หนึ่งปีขึ้นไป )--ไม่งั้นคุณก็ขายหมูอยู่ดี -- เพราะกลายเป็นว่า คุณซื้อหุ้นในปีที่หุ้นถูก แต่คุณก็ได้ขายไปในปีที่หุ้นยังถูกอยู่ -- ผมถามว่าทำไมคุณไม่ถือต่ออีกนิด แล้วค่อยไปขายในปีที่หุ้นแพง ระหว่างที่คุณถือ คุณก็รับปันผลไปด้วย อย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือครับ

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ