‘คุยกับทอย’ ….
ในโครงการ The Stock Master 11 เราได้เชิญตัวแทนคนรุ่นใหม่ ก็คือ The Toys เพื่อเป็นตัวแทน นักลงทุน Gen Y ….ผมเองในฐานะคนรุ่น Gen X ก็ได้มาคุยหาจุดร่วม จุดต่าง
คนรุ่น Gen X อย่างผมวันนี้ก็อายุ 40 ขึ้น …เป็นรุ่นฟังเพลงจากเทป เช่าวีดีโอจากร้าน ..พ่อแม่โคตรโหด โคตรเข้มงวด …ไม่ต้องมาคุยอะไรความฝัน เรียนให้จบ เรียนให้เก่ง ถ้าเป็นหมอ หรือ วิศวะ นี่คือ ลูกกตัญญู …ชีวิตของคนยุคผม มุ่งสู่สายอาชีพ การเป็น ผู้บริหารใส่สูท คือ ที่สุดของแจ้ (พ่อแม่ยุคนั้น)
จุดเปลี่ยนมันมาในยุคทอย Gen Y เข้ามาทำงานในยุค จุดเปลี่ยน …คือ ’เปลี่ยนจากคนอื่นเป็นคนกำหนด มาเป็นตัวเราเป็นผู้กำหนด’
เดี๋ยวนี้ ‘ใบปริญญา’ แทบไม่มีผลต่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน …Social Media & Online มันเปิดโอกาสในการสร้างอาชีพใหม่ๆ ที่ในอดีตไม่มีทางทำได้
‘คิดง่ายๆ วันนี้ถ้าคุณมี Social แล้วสร้าง Fan Club แบบคนที่รักคุณจริงๆ สัก 1,000 คน …คุณอยู่ได้แล้วนะ มันเป็น Community เป็นชุมชนที่คุณคล้ายๆ ผู้นำชุมชนในเรื่องนั้นๆ แล้วมันก็ต่อยอดไปได้มหาศาล’ …เราถึงเห็น Youtuber หรือ Social Influencer แต่ละคน หาเงินกันง่ายๆ …ยิ่งฐานของกลุ่มใหญ่ Influencer ก็ยิ่งรวยขึ้นไปเรื่อยๆ
ใช่!! มันไม่มี ‘วิชาอะไรที่เรียนจบมาแล้ว สามารถเป็น Influencer’ (ถ้ามีก็น่าจะดี) …
เล่ามาซะยาว เข้าสู่คำถามทอย เลยว่า
‘จากความชอบทางดนตรี (เด็กส่วนใหญ่ก็ชอบ) มันสามารถเปลี่ยนเป็นความรวย ความสำเร็จได้ยังไง ?’
ทอยบอก ‘ผมชอบจริงๆ แบบโคตรชอบดนตรี’
‘เด็กคนอื่นเขาก็ชอบ ??’ (รึเปล่าวะ?)
ความแตกต่างคือ การเข้าประกวด …ทอยเล่าว่า เขาประกวดครั้งแรกแล้วแพ้ …ทำให้กลับมาทบทวน พบว่า เดิมทีเขาก็เก่ง แต่เก่งแบบไม่แคร์โลก คือ ไม่ได้ดูเลยว่า กระแสของเพลงฮิต มันไปทางไหน
พอทอย มาจับกระแส คราวนี้ประกวดครั้งต่อมาก็ชนะเลย …จากนั้นมันก็ชนะเรื่อยๆ
…(ในใจผม ก็คิดว่า เฮ้ย!! ทอย มันตามกระแสอะไรวะ ..มันโคตรจะติสแตก ไม่แคร์โลก แต่คำตอบนี้ทำให้ผมกลับมาประมวลผลใหม่)
…แปลว่า ?!
แปลว่า จริงๆ ทอย ไม่ใช่ไม่แคร์โลก แต่เขาเข้าใจแนวทางของโลกทางดนตรีได้อีก Step คือ รู้ล่วงหน้าแล้ว ว่า What’s Next (Trend)
…ครับ!! น่าจะใช้คำว่า ‘จุดร่วมของคนเก่ง’
คนเก่ง มันมีทุกอาชีพ ทุกอุตสาหกรรม …แล้วถ้าคนธรรมดามองคนเก่ง ก็จะมองว่า ‘มึงติส’ (มึงเพี้ยน) ไม่แคร์โลก แต่จริงๆ ไม่ใช่ …เขาแค่เข้าใจโลกมากกว่าคนอื่น รู้ก่อนคนอื่น มาอะไรจะมา …แล้วเขาไปเล่นอยู่ข้างหน้าแล้ว
ผมถามทอยว่า ใครเป็น Idol ในเรื่องธุรกิจ
ทอยบอก ‘Elon Musk’
‘นั่นไง’ …Elon Musk แม่งล้ำ แล้วก็ดูบ้า …แสดงว่าจริงๆ เขาไม่ได้บ้า เขาแค่รู้ล่วงหน้าคนอื่นอีก Step ก็แค่นั้น
ผมเลยถามทอยต่อว่า ‘แล้วอะไร ที่ทำให้เรารู้ล่วงหน้าว่า อะไรจะมา ?’
ทอยไม่ตอบ (ส่ายหัวไปมา) …ผมว่า เขาคิด และ ประมวลผล แบบเด็กรุ่นใหม่อยู่
‘ปล่อยไหลพี่’
‘อะไรวะ ??!? …กรูเริ่ม งง ละ …555’
โอเค!! ผมแปลให้ละกัน …ในฐานะ ที่ผมก็ได้เจอ คนล้ำๆ มาเยอะ ก็พอจะเข้าใจว่า อะไรเป็น เหตุแห่งความล้ำหน้า
1. ‘หมกมุ่นกับเรื่องนั้นมากพอ นานพอ’ …เมื่อเราทำอะไรนานพอ มันจะเริ่มเก่งพอตัว
2. ‘มองหา Pattern ที่ชัด ในความไม่ชัด’ …ในสิ่งที่วุ่นวาย จริงๆ ถ้าเราสังเกตดีๆ มันจะเจอ Pattern บางอย่างที่มันเกิดซ้ำๆ …มันมีความชัดเจน ในความไม่ชัดอยู่ (แต่คุณต้องผ่านข้อ 1 ก่อน คือ อยู่ในตลาดนานพอ)
3. ‘กล้าที่จะทุ่ม All-in ในสิ่งที่เราเชื่อ’ …การที่เราเจอความชัดเจน ในขณะที่คนอื่นเห็นแต่ความยุ่งเหยิง มันไม่พอแค่นั้น ….มาถึงจุดที่คุณกล้าจะเสี่ยง เพื่อพิสูจน์ไหมว่า สิ่งที่เราเห็นคือของจริง (หรือแค่เราแม่งมโน)
คนระดับโลกอย่าง Elon Musk นั่นคือ เขา All-in ทั้งหมดเลย เพื่อจะพิสูจน์ว่า เขาเห็นชัดเจนไปอีกหนึ่ง Step โดยที่ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์มองไม่เห็น
…เอาจริง ข้อ 3 เป็นสิ่งที่ผมว่า ‘โคตรแห่งความยาก’ เพราะ ผมไม่เคยเชื่อการ All-in ….แต่ถ้าไปดูประวัติของคนประสบความสำเร็จ ก็คือ คนที่เคย All-in มาแล้วทั้งนั้น
การสัมภาษณ์ครั้งนี้ จริงๆ ผมอยากรู้ว่า คนรุ่นใหม่ เขาคิดยังไง …เท่าที่จับประเด็นได้ก็คือ
1. ‘การอยู่ถูกที่ สำคัญกว่าความเก่ง’ …แต่การจะอยู่ถูกที่ มันหมายถึง เราต้องมองให้ออกว่าอะไรคือ Trend …อะไรคือ What’s Next แล้วไปอยู่ตรงนั้นก่อนคนอื่น (นั่นแหละ แปลว่า อยู่ถูกที่)
2. ‘จุดร่วมในการเป็นนักลงทุน’ …คนรุ่นใหม่สนใจในเรื่องการลงทุนเพราะ มันทำให้เขามีอิสระมากขึ้น …เขามองการทำงานว่า มันได้เงิน แต่มันจำกัดอิสระ ยิ่งหาเงินได้เยอะก็ยิ่งเหนื่อย …ดังนั้น การลงทุนจึงเป็นคำตอบ ที่จะค่อยๆ ให้ สิ่งที่ลงทุน ให้ Passive Income และนั่น คือ ความอิสระจริงๆ
เอาล่ะ …มาถึง คำถามสำคัญมาก
‘ช่วยบอกผมหน่อยว่า อะไรคือ What’s Next ? ในตลาดหุ้น’ …ผมจะได้ไปรออยู่ตรงนั้น …555
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม #TheStockMaster11 #หลักทรัพย์บัวหลวง