วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
นักศึกษาก็ควรเข้าใจหุ้น
เราใช้ 2 ข้อ วางคนให้เหนือดวง
'นี่ปัญหาเงินล้านเลยนะ ..น้องๆ อยากรู้ว่า ทำไมบางคนทำงานหนักแต่ไม่สำเร็จ ไม่รวย สักที ?'
คนส่วนใหญ่ก็ปลอบใจกันไปว่า 'คงดวงไม่ดี ไม่มีโชค' - เอาจริงๆ นะ ไม่ใช่เลย
อันนี้มันเป็นเรื่องของ ทำงานหนักถูกที่หรือเปล่า ?
เช่น จะขุดหาน้ำมัน ถ้าไปขุดที่สวนหลังบ้าน ขุดเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เจอหรอกน้ำมัน เพราะน้ำมันมันไม่ได้อยู่ที่สวนหลังบ้าน
แต่กลับกันถ้าเข้าใจว่า เอาสวนหลังบ้าน ที่ดินดี อากาศดี อย่างบ้านเรา เอามาปลูกผัก ทำสวน อันนี้รวยได้
สิ่งสำคัญมันต้องรู้ว่า
หนึ่ง : ในจุดที่เรายืน ต้นทุนที่เรามี อะไรคือโอกาส
---------------------------------------
แล้วอีกคำถามเงินล้าน คือ 'คุณถนัดอะไร?'
มนุษย์มีเยอะแยะ แต่เชื่อไหม ไม่มีใครเหมือนกันเลย ..แต่พอเข้าโรงเรียน เขาเอาทุกคนมาใส่บล็อคแล้วบอกว่า ต้องเรียนเหมือนกัน คิดเหมือนกัน แล้วทำแบบนี้เท่านั้น จะได้สอบผ่าน
..มันขัดธรรมชาติมนุษย์สุดๆ
สิ่งที่ต้องถามคือ 'เราถนัดอะไร ? ..ถ้ายังตอบไม่ได้ ทำงานหนักก็ไม่ได้ช่วย มันต้องค้นหาตัวเองอย่างหนักให้เจอก่อน'
------------------------------------
คนฉลาดจะตอบ 2 คำถาม ให้ได้ก่อน จากนั้นก็ลุยทำงานหนัก ..พอมันทำถูกทาง ชีวิตมันก็ดี แค่นี้แหละ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร
หนึ่ง : 'ด้วยต้นทุนที่เรามี ทำอะไรได้เปรียบ ?'
สอง : 'ถนัดอะไร ?'
เออ!! ..แล้วถ้าข้อ 1 มันขัดกับข้อ 2 จะทำอย่างไร ? ...คือ 'ต้นทุนที่เรามี มันขัดกับสิ่งที่เราถนัดจะเลือกอะไร?'
------------------------------------
ง่ายมาก ก็เลือกข้อ 1 ก่อน ..แต่เราแค่ทำข้อ 1 เพื่อสร้างฐาน เก็บเงิน สร้างตัว ..โดยที่เรามีเป้าหมายคือ ข้อ 2
ก็ที่ผมสอนคนเรื่องการลงทุน คือ
1. สร้างเงิน ให้การลงทุนพาเราหลุดบ่วงชีวิต
แล้ว
2. ทำสิ่งที่ชีวิตดี ได้อย่างไร้กังวล
- ทำทีละข้อ ..เชื่อซิ ..คนเราวางแผนให้เหนือดวงได้ 'ถ้าเอาจริง!!'
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ยุคนี้ยิ่งจ่ายภาษี กลับยิ่งรวย
'ยิ่งจ่ายภาษี ทำไมถึงยิ่งรวย ?' ...เรื่องนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด คิดว่าคนรวยต้องหลบภาษี แล้วหาเงินให้มากๆ
จริงๆ ตรงข้ามเลย
เพราะ
1. คนรวยในโลกนี้ ส่วนใหญ่รวยจากสินทรัพย์ ไม่ได้รวยจากรายได้ ...ดังนั้น คน 80% ที่ก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างหาเงิน เลยไม่รวยสักที ..เหนื่อยเท่าไหร่ ทำหนักแค่ไหนก็ไม่รวย - เออ!! ก็มันผิดวิธีไง 'คนรวยเขารวยจากสินทรัพย์ ไม่ใช่รวยจากรายได้' (Asset not Income)
2. บริษัทยิ่งจ่ายภาษีมาก ก็ยิ่งรวยมาก ..บริษัทที่รวยมากคือ บริษัทที่เข้าตลาดหุ้น ซึ่งต้องทำบัญชีเล่มเดียว (ไม่ใช่ทำ 2 บัญชี แบบธุรกิจส่วนใหญ่ คือ เล่มนึงไว้จ่ายภาษี ทำให้ขาดทุนจะได้หลบภาษี ..อีกเล่มคือเล่มจริง มีฉันเท่านั้นที่รู้) ...ใช่!! เจ้าของบริษัทส่วนใหญ่ ก็ทำตรงข้ามคือ เลือกที่จะหลบภาษี เพราะไม่เข้าใจเกมของทุนนิยม
ยิ่งคุณเอาของดี บริษัทดี กำไรดีเข้าตลาด ..เจ้าของยิ่งรวยหลายเท่าทวีคูณ
สรุป 'ยิ่งเก็บ ยิ่งเสีย ..แต่ยิ่งจ่าย กับยิ่งได้ หลายเท่ากว่า'
(เศรษฐีถึงมีจำนวนน้อย เพราะ 1.เราถูกสอนผิด ความรู้ที่จะรวย เขาใช้ตำราอีกเล่ม 2.ทำใจไม่ได้ แบ่งไม่ได้ ก็พวกรู้แต่ทำไม่ได้ก็เยอะนะ)
---------------------------------------
อธิบายให้ฟังว่า ทำไมบริษัทยิ่งจ่ายภาษียิ่งรวย
1. เข้าตลาดหุ้นได้ เท่ากับว่า แหล่งระดมทุนไม่จำกัดแค่ธนาคาร ..สามารถระดมทุนได้มากกว่า ถูกกว่า หลากหลายกว่า (เทียบได้ว่า บริษัทในตลาดหุ้นอยู่ในเกมที่เงินไม่จำกัด / ในขณะที่บริษัทนอกตลาด เงินจำกัดเท่าที่ธนาคารจะให้เท่านั้น 'ซึ่งมันไม่เคยพอ..จริงไหม?')
2. การจ่ายภาษี ทำให้กล้าจ้างมืออาชีพ ..เพราะค่าจ้างหักค่าใช้จ่ายได้ ..ไม่แปลกที่บริษัทในตลาดหุ้น ยอมจ่ายเงินค่าจ้างมืออาชีพราคาแพง ย่อมมีคน มีนักรบที่เก่งกว่า (บริษัทครอบครัว พยายามจ่ายค่าจ้างให้ถูก จะได้ไม่เสียภาษี ..ไม่มีทางหาคนเก่งมาช่วย - ก็เหนื่อยทั้งชีวิต!!)
3. กำไรทุกบาทของบริษัทที่จ่ายภาษีตรง ในตลาดหุ้น ..มันไปคูณในราคาหุ้นเป็นสิบๆ เท่า - พูดง่ายๆ บริษัทหลบภาษีนอกตลาด ไม่เคยมีมูลค่าในราคาหุ้น เพราะไม่มีใครยอมจ่ายให้ธุรกิจที่ไม่โปร่งใส ...แต่ธุรกิจในตลาดหุ้น มี P/E เป็นสิบๆเท่า ก็คือ ทุกบาทที่กำไรหลังหักภาษี คือ 'ตัวคูณสิบๆเท่าความรวย ในมูลค่ากิจการ'
....เจ้าของบริษัทในตลาดจึงทำทุกอย่างเพื่อโชว์กำไรไง (ขนาดจ่ายส่วย ติดสินบน ยังเอาเงินตัวเองจ่ายเลย 'ฮาไหมล่ะ?')
นี่แค่เบื้องต้น เพียงอยากจะเล่าสู่กันฟังว่า
- โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ..ไม่มีใครได้อะไร โดยที่เขาไม่ยอมเสียอะไร ...สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตคนเราได้จริง คือ 'ความรู้'
- ยุคนี้ความรู้แค่มาทำงาน มันไม่สามารถรวยได้แล้ว ..คนรู้แค่นี้จึงมีชีวิตที่น่าสงสาร 'ทำงานหนักแต่ไม่เคยรวย'
- ความรู้ที่เปลี่ยนชีวิต คือ 'ความรู้มาสร้างงาน'
- โลกเปลี่ยนไปแล้ว ต้องพัฒนาความรู้ จาก 'ความรู้เพื่อหางานทำ' มาเป็น 'ความรู้ที่สร้างงาน'
ลองไปคิดดูเรื่องภาษี
'ยุคนี้คนจ่ายภาษี กลับยิ่งรวย' (แปลก แต่จริง)
..เปลี่ยนความรู้ให้ทัน ก่อนที่โลกมันจะเปลี่ยนเรา
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
บทเรียนการลงทุนจากเวียดนามครับ
เวียดนาม บทเรียนการลงทุน ที่น่าสนใจ ..weekend ที่ผ่านมา เราพาทีม The Stock Master 5 ไปดูตลาดหุ้นและการลงทุนในเวียดนาม - ประเทศที่ใครๆ ก็พูดว่า ในที่สุดจะแซงเมืองไทย
..จริงหรือเปล่า ?
- เวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์ การเมืองนึ่ง ประชากรเยอะคือ 95 ล้านคน ..แต่ประชากรส่วนใหญ่ยังยากจน รายได้เฉลี่ยน้อยกว่าคนไทยประมาณ 3 เท่า
- แต่คนรวยเวียดนาม 'รวยมาก' ทำให้นึกถึงประเทศไทย ย้อนไปสมัยที่ดอกเบี้ยเงินฝาก 10% สมัยนั้น ธุรกิจที่สำคัญต้องเกี่ยวกับอสังหา ..บริษัทที่ใหญ่สมัยนั้นก็ BLAND 'เมืองทองไง' ..วันนี้ราคายังไม่เคยกลับไปที่จุดนั้นอีกเลย
- วันนี้ถนนเส้นหลักของเวียดนาม (ที่ตั้งธนาคารกรุงเทพสาขาเวียดนาม) ราคาที่ดินแพงกว่า สีลม ..มันจะคุ้มทำธุรกิจหรือ ? - คิดง่ายๆ ร้านอาหารแถวนั้น ผลัดกันเจ็ง
- เงินเดือนเริ่มต้นคนที่นี่ ประมาณ หมื่นบาท แต่ค่าครองชีพ อาหารการกินแพงมาก ..อยู่ไม่ง่าย ต้องปากกัดตีนถีบสุดๆ
- วันนี้บ้านเรากำลังมุ่งสู่สังคมคนแก่ แต่เวียดนามจะเข้าสู่สังคมคนทำงาน เพราะ ประชากรส่วนใหญ่อายุน้อย
- ตลาดหุ้นที่เวียดนามไม่คึกคัก เพราะคนส่วนใหญ่เลือกที่จะเอาเงินไปทำธุรกิจ ..ไม่ได้มีเงินเหลือมาลงทุนแบบบ้านเรา
- คิดง่ายๆ ฝากธนาคารก็ได้ 7% คนเลยไม่สนมาลงทุนตลาดหุ้น ..ต่างจากบ้านเราที่ฝากธนาคารแทบไม่ได้อะไร ..ถ้าเลือกผมยัง Focus การลงทุนในบ้านเราดีกว่าในช่วงนี้
- การเทรดหุ้นไม่ต้องคิด เพราะ ซื้อวันนี้กว่าจะได้หุ้นอีก 3 วัน แปลว่า กว่าจะได้หุ้นก็ไม่รู้ราคามันไปไหนแล้ว !! ...ไม่มี Margin ต้องใช้เงินสด และวางล่วงหน้า 1 วัน ..มีโบรคมีเป็นร้อยราย แต่ที่มีการซื้อขายจริงจังแค่ครึ่งเดียว
- สิ่งที่น่ากลัวในเวียดนามคือ ค่าเงิน ..วันนี้เพิ่งเริ่มดีขึ้น สมัยก่อน ไม่สามารถรักษาระดับเงินเฟ้อ คนเวียดนามเลยหนีไปถือ ทองคำกับดอลลาร์แทน ..วันนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น - แต่ความไม่แน่นอนนี่แหละความเสี่ยง
- 'เส้นสาย ใกล้ทหาร' สำคัญ เหมือนเมืองไทยสมัยก่อน
- ใครคิดร่วมทุนกับนักธุรกิจเวียดนาม ต้องคิดให้ดี เพราะ ส่วนใหญ่เจ๊ง !! ....คนที่กะจะเอาของไปขาย ต้องคิดดีๆ เพราะตลาดปราบเซียน ...ธุรกิจที่อยู่ได้จริงๆ ต้องคิดไปตั้งรกราก ล้มลุกเรียนรู้แล้วค่อยๆ เติบ ...สรุป ไม่มีทางลัดทำธุรกิจรวยเร็วในเวียดนาม
- เล่ห์เหลี่ยมธุรกิจ และ กลโกง เป็นเรื่องที่ควรศึกษา เพราะนี่คือสิ่งที่ นักธุรกิจกลัว
- สิ่งที่ขยายได้ในเวียดนาม คือ สินเชื่อส่วนบุคคล เพราะ วันนี้ยังเป็นสังคมเงินสด คนไม่ไว้ใจกัน
---------------------------------------
สรุปแล้ว ผมได้อะไร ?
1. ได้เรียนรู้ว่าทุกประเทศกำลังวิ่งไปตามกระแสทุนนิยม ..คือ คนที่เข้าใจทุนจะเข้าใจพัฒนาการของธุรกิจทุกประเทศ เพราะมัน 'เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป' คล้ายๆ กัน ...นักลงทุนพอจะเก็ง Cycle และลงทุนตามรอบได้
2. Globalize วันนี้ไม่ work แล้ว ..ธุรกิจที่สำเร็จต้อง Localize คือ เชี่ยวชาญและเข้าใจตลาด เข้าใจคนในประเทศนั้นจริงๆ
3. ตลาดหุ้นเป็นกลไก เปิดประเทศ ..เพราะทำให้ธุรกิจยอมจ่ายภาษี แล้วจ้างมืออาชีพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขยาย และโต - คนที่เข้าใจกลไกตลาดหุ้นได้เร็ว จึงกลายเป็นเศรษฐีใหม่
4. เวียดนามเดินตามไทยในอดีต ทั้งธุรกิจและตลาดหุ้น ..cycle ของตลาดก็น่าจะคล้ายๆ กัน ..ปั่นอสังหา-ธุรกิจเล็กขยายยาก-ค่าจ้างโตช้ากว่าค่าเช่าอสังหา ทำงานแค่จ่ายค่าเช่าให้คนรวยยิ่งรวย-ค่าครองชีพสูง ทำให้คนจนไม่สามารถยกระดับฐานะได้-รัฐบาลไม่มีเงิน เพราะภาษีเก็บจากคนรวยไม่ได้ ส่วนคนชั้นกลางก็ยังไม่โต
เวียดนามโตเร็ว น่าศึกษา และเรียนรู้ ..แต่ในเรื่องการสร้างตัวและลงทุน ณ เวลานี้ ..ผมยังมองประเทศไทย มีศักยภาพสูงกว่า
โอกาสประเทศไทย อยู่ที่ บริษัทตั้งเป้าเข้าตลาดหุ้น ..ใช้บัญชีเล่มเดียว จ่ายภาษีเต็ม เพราะ นักธุรกิจใหญ่รวยจากการจ่ายภาษี ไม่ใช่หลบภาษี (อันนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจตรงข้ามเลย) ..แค่บัญชีเล่มเดียว แล้วไปโตในตลาดหุ้น GDP กระโดดแน่นอน win-win สุดๆ
....ใช่!! ไทยเรามีโอกาสแฝงอีกเยอะครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
รู้หรือไม่ ออมหุ้นเฉยๆ แต่ได้ดอกเบี้ยเพิ่มทำไง
วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ค่าจ้างที่ไม่แฟร์ นั่งห้องแอร์แต่ได้เงินเยอะ
เล่นหวยยังไงให้รวย
'เล่นหวยยังไงให้รวย ?' ...ง่ายมากครับ เล่นหวยยังไงก็รวยครับ แต่ไม่ใช่คนเล่นรวย ..คนออกดิรวย ..(ขำ)
- รวยจากหวยชาเขียว ..เปรี้ยง !! เปิดฝาลุ้นล้าน แต่ต้องมีคนเปิด 1 ล้านฝา ก็ขายได้ละ 20 ล้าน ก็แจก 1 ล้าน ..รวยดี ..555
- หวยปกติ ไม่ต้องพูดถึง ถ้าไม่กำไร รัฐบาลเปิดเสรีไปแล้วอ่ะ
- วันนี้ฮากว่านั้น ทุกธุรกิจเริ่มเอาแนวคิดหวยไปใช้ ...ซื้อสินค้าฉัน ลุ้นทองคำ 1 ล้าน
ใช้บริการกด ลุ้น บ้าน ทีวี ตู้เย็น
- เอาเป็นว่า 'ลุ้นได้ไม่ได้ห้าม' แต่อย่าไปทุ่ม อย่าใช้เงินเยอะ
เอาเงินเอาเวลา ไปวางแผน ลงทุนให้รวยดีกว่าครับ
จุดไป ...ไม่รวยด้วยโชค ให้รวยด้วยการวางแผน
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
เปลี่ยนเรา ไม่เปลี่ยนโลก เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว
'เจอใครๆ เขาก็อยากเปลี่ยนโลกนะ' ..ผมว่าไม่ต้องเปลี่ยนหรอก เพราะมันเปลี่ยนไปแล้ว
ถามใหม่ดีกว่า 'เราเข้าใจหรือเปล่า ว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว เพียงแต่หลายๆ คนยังไม่เปลี่ยนเท่านั้นเอง'
- วันนี้การติดต่อสื่อสาร เร็ว ถูก ครอบคลุมเกือบทุกที่ ..แม้กระทั่งโทรต่างประเทศ ที่เคยแพงมาก ..วันนี้ฟรี
- นั่งแท๊กซี่ในเมือง ไม่ต้องเรียกแท๊กซี่ กด App ..โหแต่ละค่าย แจกโปรแข่งกัน เกือบนั่งฟรี ..555
- บริษัทใหญ่เดี๋ยวนี้ประหยัดค่าโฆษณาลดลงสิบเท่า เอามาลง Facebook ..ผลกลับดีกว่าเดิม
- ดาราเดี๋ยวนี้ไม่ต้องจ้างมาเป็นพรีเซนเตอร์ ..เจ้าของโฆษณาเอง ..เฮ้ย น่าเชื่อถือกว่า
- นักร้องไม่ต้องมีค่าย ..จัดการเอง รายได้หลักคือโชว์ตัว เพลงไม่มีใครจ่ายเงินซื้อซีดีอีกต่อไป
- สื่อวันนี้กระทบหนัก เพราะ ทุกคนผันตัวมาเป็นสื่อ ..หลายๆ สินค้า จ่ายค่า endorses ให้คนเหล่านี้ช่วยขายของ ..คุ้มเกินคุ้ม เพราะยุคนี้ คนเชื่อเพื่อนมากกว่า
- Startup แข่งกัน เอาของมาลดราคา ส่งถึงบ้าน ..ถูกแบบไม่เดินห้างละ ..ถ้าไม่ได้เดท จะไปเดินทำไมอีก
- เที่ยวต่างประเทศที่ถูกมาก ..ป.5 นี่เริ่มเดินทางเองละ แม่เจ้า !! ...ยุคเรา ป.5 นี่เดินห้าง แม่ยังห้ามเลย
- ธุรกิจ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครรอเรียนจบ ช้าไป ..เด็กเขาหาเงินกันตั้งแต่อยู่โรงเรียน ...เจอเด็กหนุ่มสาว เดี๋ยวนี้แนะนำตัว ..ผม CEO ... เจสสส !!
- พนักงานออฟฟิศเดี๋ยวนี้ ขายตรงหมด ..มีอาชีพเสริมหมด แทบไม่มีแล้วทำงานอย่างเดียว
- ร้านกาแฟนี่มีคนนั่งทั้งวัน ..ทำไร ..co-working space ทำงานครับ หาเงิน เล่นหุ้น ...ขอโทษนะ ผม นักลงทุนอิสระ ..เท่ห์ว่ะ
- อยากทำอะไร วันนี้มีสอนออนไลน์ เรียนปั๊บ เปลี่ยนอาชีพเลย ..เฮ้ย ในอดีตต้อง 4 ปี กลับไปเอาใบปริญญา เดี๋ยวนี้ไม่ต้อง ..เรียนพิเศษแล้วหาเงินเลย
- คนรุ่น gen x ทำงาน ประมาณ 3 อาชีพก่อนเกษียณ ...เด็กรุ่นนี้ ทำงาน 7 อาชีพ แล้วไม่มีเกษียณ
- รุ่นก่อนทำงานหนักหวังให้องค์กรดูแล ..คนรุ่นนี้สร้างพอร์ตการลงทุน แล้วดูแลตัวเอง
- ยุคก่อนขายฝัน สามารถอยู่ได้ไม่ต้องทำงาน ...ยุคนี้มันทำได้จริง อยู่ที่วางแผน ..ปั้นพอร์ต Passive เอาแค่เกินค่าใช้จ่าย ...คนรุ่นใหม่จำนวนมาก เป็นแบบนั้น ทำงานที่อยากทำ ..ไม่ทำงานประจำ ...แต่มีรายได้ประจำ และมี Project พิเศษ
มิติการใช้ชีวิต มันมีทางเลือกมากขึ้น
คนแต่ก่อน หยุดทำงานไม่ได้ อดตายแน่นอน เลยมีความฝันว่า อยากเกษียณให้เร็ว
แต่คนรุ่นนี้ วางแผนการลงทุนดี นี่ 10 ปี ก็มี Passive แล้ว ..เรื่องหยุดทำงานหรือเกษียณกลายเป็นสิ่งล้าสมัย
มันกลายเป็นเป้าหมายชีวิต คือ 'เลิกทำงานที่ไม่ชอบ มาสู่การทำงานที่รัก นั่นคือเป้าหมาย'
'โลกเปลี่ยนไปแล้ว ทำความเข้าใจมันดี แล้วเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีขึ้น รวยขึ้น สบายขึ้น ดีกว่า'
- เปลี่ยนเรา ไม่เปลี่ยนโลก เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว !!
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
(รูปไม่เกี่ยว ..ถ่ายท่าบังคับ มาตรฐานการโพสท่า)
ลดอีโก้ลง จึงฉลาดมากขึ้น
'เมื่ออีโก้ลดลง เราเรียนรู้เพิ่มขึ้น
- เมื่อลดความอิจฉา จึงทำให้เราเก่งขึ้น
- การเหยียบคนอื่น ไม่ได้ทำให้เราสูงขึ้น แต่มันทำให้เราดูแย่ลง
- การใช้ชีวิตในสายตาคนอื่น เพื่อให้คนอื่นมองดี มันทำให้ชีวิตแพง
- การใช้ชีวิตในสายตาของตัวเราเอง มันทำให้เรามีความสุขมากขึ้น แถมเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น'
วันนี้ขอให้คุณรวยขึ้น และเรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นทุกวันนะครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
อยากทำธุรกิจยุคนี้ต้องสมดุลย์ความติสและกระเป๋าเงิน
บทเรียนของคนรุ่นใหม่ที่อยากทำธุรกิจเลย จาก 'a day' ...ผู้ก่อตั้ง-นักธุรกิจ-นายทุน-เงิน-และ Passion
เราคงเคยได้รู้เรื่องของ Steve Jobs ที่ครั้งนึง เขาเคยโดนไล่ออกจาก Apple บริษัทที่เขาก่อตั้งมากับมือในโรงรถ ..สงสัยไหม คนก่อตั้งโดนไล่ออกได้อย่างไร ?
วันนี้ พี่โหน่ง ก็ลาออกแบบไม่เต็มใจ จาก a day บริษัทที่เขาก่อตั้งมากับมือเมื่อ 16 ปีก่อน ..เริ่มจาก Crowdfunding รุ่นแรกๆ ของประเทศไทย สมัยที่ยังใช้ จดหมาย ในการระดมเงิน (ยุคนั้นไม่มีครับ Internet) ..เขียนจดหมายครับ ระดมทุน Crowdfunding ..ยอมรับเลยว่า พี่โหน่ง แกเป็นคนที่หัวคิดล้ำสมัย และ เป็นทั้งนักเขียน นักธุรกิจที่เก่งคนนึงของประเทศเลยทีเดียว
แต่ !!..
'แต่นี่คือ โลกทุนนิยม' ...มันเป็นโลกที่คนยุคนี้ ต้องรู้เท่าทัน เพราะ มันขับเคลื่อนด้วย
หนึ่ง 'เงิน' และ สอง 'คน'
(เงิน มันวิ่ง หาเงินก้อนใหญ่ ..ส่วนคน มันวิ่งหาคนที่มีอำนาจ) ..โคตรโหด แต่เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน
- การทำธุรกิจทุกอย่าง ต้องใช้เงิน ..องค์กรการกุศลยังต้องใช้เงิน ถึงต้องมีการระดมทุน
- ผู้ที่กุมเงิน คนนั้นกุมอำนาจในการตัดสินใจ ซึ่งในระบบธุรกิจ เขาใช้เรื่อง 'หุ้น' ในการกุมอำนาจในการตัดสินใจ ..คือ ในบริษัท ใครกุมหุ้นข้างมาก คนนั้นได้สิทธิในการบริหารธุรกิจ
- เจ้าของที่เริ่มธุรกิจส่วนใหญ่ไม่ได้มีทุนของตัวเอง ..ตรงนี้แหละ ที่เจ้าของ ต้องไปหา แหล่งเงินทุน ซึ่งก็มีตั้งแต่ Crowdfunding 'ระดมทุนจากรายย่อยกันเอง แบบไม่เป็นทางการ' ..จาก 'Angels' ขอเงินจากคนที่มีเงินแล้วอยากลงทุนส่วนตัวในธุรกิจ ..ไปจน Venture Capital (คือ เพิ่มระดับของความเป็นทางการในการระดมทุน) ..ถ้าขั้นสุดก็คือ ระดมทุนจากประชาชน ก็คือ การ IPO เข้าตลาดหุ้น (แบบที่เราเป็น เถ้าแก่น้อย หรือ After You ระดมทุน IPO นั่นเอง)
- สิ่งที่อยากจะชี้คือ 'การจะเริ่มธุรกิจ เราควรเข้าใจเกมการเงิน มิเช่นนั้นเราอาจตกเป็นเหยื่อ หรือ แม้กระทั่งเสียธุรกิจที่ตัวเองก่อตั้งมา ตกเป็นของคนอื่น'
- จุดพลาดจะอยู่ที่ 'การขยายธุรกิจ' แล้วต้องใช้เงิน (ก็ทุกคนต้องเจอนั่นแหละ ยกเว้นคนทำธุรกิจแล้วไม่อยากโต) ...ต้องระวังเรื่องการขยาย หากขยายเร็วเกิน สร้างค่าใช้จ่าย เกินรายได้เยอะๆ นั่นแหละ ที่ปัญหาจะเริ่มเกิด
- 'โลกทุนนิยม' การเปิดบริษัทก็เหมือนเราเข้าสู่สมรภูมิการค้า ..เงินก็คือ 'กระสุน' ...อย่ายิงมั่ว แล้วอย่ายิงหมด
- นักธุรกิจรุ่นใหม่ ควรรู้จักศิลปะ การบริหารกระสุนให้ดี (คนรุ่นใหม่มีจุดอ่อนตรงนี้เยอะ ยิ่งมั่ว ยิงไปก่อน ต้องระวัง)
ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพื่อจะเตือนคนรุ่นใหม่ว่า นอกจาก Passion ที่ผมเชื่อว่า ทุกคนมีกันล้น เราต้องเข้าใจเรื่องการบริหารเงินให้รายรับ ต้องมากกว่ารายจ่าย - นั่นแปลว่า 'สิ่งที่คุณทำ ต้องทำเงิน ..พูดง่ายๆ สินค้าหรือบริการ ต้องแก้ปัญหาและสร้างประโยชน์ จนคนยอมที่จ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการของเรา'
เฮ้ย!! เบสิคมันแค่นี้เอง ..คือ Passion กับ Business (ติสเกิน ก็ไม่ได้เงิน ..ธุรกิจเกิน ก็ไม่โต) มันต้องสมดุลย์
ก็หมั่นศึกษาและเพิ่มประสบการณ์กันต่อไปครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
http://www.nationtv.tv/main/content/entertainment/378535311/
วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
5 องค์ประกอบ การปั้นดิน ให้ไปถึงดวงดาว
'นิยามของความหรูหรา' ..ได้ใช้ ได้เก็บ ได้เงิน ดีป่ะ ?
นักลงทุน มักพูดว่า คนรวยต้องแยกแยะ ระหว่างสิ่งที่เป็น Asset กับ ขยะ แล้วเลือกถือ Asset - 'นั่นคือ แนวทางรวย'
ส่วนนักธุรกิจยุคนี้ ...ใช้การเปลี่ยนขยะเป็น Asset แล้วสอนให้คนสะสมมัน วิธีนี้มาใหม่ แรงกว่า
ถ้าคุณรองเท้า ซื้อเต็มบ้าน สุดท้ายคือขยะ ..แต่รองเท้าบางยี่ห้อ สร้างให้คนแย่งกันซื้อ แย่งกันปั่นราคา และ ทำให้เป็นของสะสม
เคล็ดลับก็คือ
1. สิ่งนั้นต้องมีจำนวนจำกัด (ต้องผลิตน้อยกว่าความต้องการ)
2. ต้องแพง (เพราะไม่มีใครสะสมของถูก)
3. ต้อง Exclusive ...ทุกวันนี้ขนาด ธุรกิจการศึกษา ยังทำเป็น Exclusive Club เลย (ลูกเทพเท่านั้น ที่ได้สิทธินี้)
4. สร้างกำไรให้นักสะสม (ถ้า Wine ยังสะสมได้ ...เหล้ายา ดองไทย ต้องมาคิดต่อยอดแล้ว) ..คนที่ทำให้ ขยะเป็นทอง ต้องมีนักสะสม
5. แสดงตัวตนของคนที่ใช้มัน
ถ้าทำครบ 5 ข้อ ...ไปหยิบอะไรมาก็ได้ คุณก็ปั้นให้คนยอมจ่ายแพงได้
เราน่าจะมาคุยกันว่า SME ไทย ขาดอะไรถึงจะไปได้ถึงดวงดาว ?
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สินค้าแข่งกันฟรี คนยุคนี้สบายจัง
ปิรามิดอาชีพ จุดเกิดของคนรุ่นใหม่
'เรื่อง ปิรามิดของอาชีพ' ...ทุกอาชีพมีสามเหลี่ยม
วันนี้แค่คุยกับเด็กว่า โตขึ้นจะทำอาชีพอะไร ..ก็คุยกันแทบไม่รู้เรื่อง
ฝรั่งเขาทำวิจัยว่า คนยุคนี้ จะต้องเปลี่ยนงานโดยเฉลี่ย 7 ครั้ง และใน 4 ครั้ง จะเป็นอาชีพที่วันนี้เรายังไม่รู้จักเลย ...งง !!
ใช่!! เมื่ออาชีพมันไม่แน่นอน เราต้องหันกลับมาสร้าง 'การเงิน' ของเราให้แน่นอน ...พวกผม อาศัยการลงทุนที่สร้างเงินแบบ Passive ซึ่งการวางแผนการเงินให้มั่นคง จะช่วยให้เรารู้สึกมีความกล้าที่จะรับกับการเปลี่ยนแปลง - ดังนั้น คนที่วางการลงทุนระยะยาวให้พอร์ตสร้างปันผลแบบ Passive จะกล้าเสี่ยงลองทำอาชีพใหม่ๆ ก็จะมีแนวโน้มที่จะสำเร็จมากขึ้นนั่นเองครับ
ที่คุยกันเรื่อง 'ปิรามิดของอาชีพ' จะเห็นได้ว่า ต่อไป อาชีพ คือ อะไรก็ได้ที่ทำแล้วแก้ปัญหาให้คน นี่ก็เรียกเป็นอาชีพได้แล้ว
ซึ่งถ้าเราสังเกตดีๆ จะพบ 'ปิรามิดอาชีพ' คือ ใครทำอะไรได้ดีในยุคนี้ คุณแทบจะกินรวบตลาด ..ดู Market Share ของธุรกิจแบบคนรุ่นใหม่ มักจะกินส่วนแบ่งตลาดที่ตัวเองเลือกเกิน 50% - ตัว Market Share นี่แหละ ที่เราใช้จำแนกว่า ธุรกิจอันนี้เป็นธุรกิจรุ่นเก่า หรือ ธุรกิจรุ่นใหม่
ข้อแนะนำ ก็คือ วันนี้อย่าพยายามไปทำอาชีพตามใคร อย่าไปหาอาชีพยอดฮิต เพราะนั่นคือ Red Ocean ที่โอกาสแย่สูง
- เราต้องไปหาโอกาส จากการแก้ปัญหา สิ่งใหม่ๆ เริ่มที่ปัญหาเล็กๆ ...พูดง่ายๆ ยุคนี้เห็นปัญหาปั๊บ ก็เจอเลยโอกาสของอาชีพใหม่
ถ้าเจอแล้วต้องรีบเดินเกมให้เร็ว
โจทย์ที่สำคัญคือ ถ้าคุณมาถูกทาง คุณต้องกินส่วนแบ่งตลาดใหญ่เกิน 50% ในปัญหาเล็กๆ ตรงนั้น
นี่แหละ 'ปิรามิดอาชีพ' หาให้เจอ ..มันคือโอกาสของคนรุ่นใหม่ ในทุกสิ่งที่ทำ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
หนึ่งในเครื่องมือจดบันทึกการลงทุนที่เยี่ยมมากเพื่อรายย่อย
วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
Mindset ที่ดี ชนะทุกกลยุทธ์ในการลงทุน
สตาร์ทเครื่องเรื่องการลงทุน - มนุษย์เงินเดือนจะเริ่มเป็นเจ้าของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเงินน้อยได้หรือไม่ ?
ตอบเลยว่าได้ ...'สงสัยไหมว่า ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ๆ ในตลาดหุ้นได้ด้วยเงินเริ่มต้น แค่หลักพัน หลักหมื่น แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ ก็ไม่ทำ ...พอเข้าตลาดหุ้นก็เข้ามาเล่นแบบรายย่อย คือ แค่ซื้อมาขายไป เก็งกำไรไปวันๆ ?'
- คนที่ถือหุ้น มีโอกาสได้ 2 อย่าง คือ มูลค่าหุ้นที่โตไปเรื่อยๆ เหมือนเจ้าของ แต่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ถือ กลับมองแค่ผลตอบแทนระยะสั้น แค่ 5% - 10% ก็เอาแล้ว
- ซึ่งถ้าเลือกถือเป็นเจ้าของ ไม่ขายหุ้น ถือเฉยๆ ก็ได้ทั้งปันผล และ มูลค่าหุ้นเพิ่มไปเรื่อยๆ
- ความแปลกที่เจอคือ คนส่วนใหญ่ชอบมองแค่ผลตอบแทนสั้น ...ทนถือหุ้น แค่เวลาที่ขาดทุน แต่เวลากำไรไม่กล้าถือทนรวย ...ทั้งๆ ที่หุ้นรอบใหญ่แต่ละรอบ สามารถขึ้นได้ 3-5 เด้ง หรือ บางตัวขึ้นเกิน 10 เด้ง หากทนถือยาว
- คนส่วนใหญ่เลือกซื้อหุ้นตอนที่ข่าวดี พูดง่ายๆ ชอบซื้อแพง ...พอให้ศึกษา การอ่านงบ ก็ไม่สนใจจะเรียนรู้ (แปลกจริงๆ)
- สถิติของตลาดหุ้นก็มีให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การถือหุ้น 5 ปีขึ้นไป สามารถกำไรง่ายกว่า แถมได้มากกว่า
- การเริ่มการลงทุนที่ถูกต้อง ควรเริ่มจาก Mindset ที่ถูกต้อง ...เวลาที่คนส่วนใหญ่กลัวมักเป็นจังหวะที่หุ้นหลายๆ ตัวราคาถูก ..ซึ่งเราจะเห็นโอกาส เมื่อเราศึกษาการอ่านพื้นฐาน แล้วอดทนรอซื้อได้
- การถือหุ้นแล้วไม่ขาย หลายคนมองว่า น่ากลัว แต่ความจริง มันก็ไม่ต่างจากเราซื้อที่ดินทำเลดี ยิ่งถือนาน มูลค่าย่อมเพิ่ม แถมได้ปันผลที่เติบโตไปเรื่อยๆ
ถ้าเราวางแผนการลงทุนระยะยาวถูกต้อง ภายใน 10 ปี ผลตอบแทนการลงทุน แทบจะเรียกได้ว่า คืนทุนทั้งหมดที่ลงไป
ไม่แปลก คนที่เข้าตลาดหุ้น ยิ่งลงทุนนานยิ่งรวย
Mindset ที่ดี ชนะ ทุกกลยุทธ์ในการลงทุน
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ท้าทายความคิด ต้องแกะที่คน
อยากมีธุรกิจ ต้องกุมหัวใจถูกค้า ..เพราะแค่รู้จัก มันน้อยไปละ !!
หนังสือเล่มนี้ใกล้เสร็จแล้ว ..รวมตัว คนหลายวงการ เพื่อความเข้าใจวิธีหาเงินใหม่ ที่เริ่มจากการเข้าใจสีของตัวเอง
เคยสังเกตไหม
- คนรุ่น Baby boomer เวลาซื้อของ เน้นของถูกเป็นหลัก ...ยุคนั้นใครเป็นเจ้าของโรงงานก็รวย
- คนรุ่น Gen X เน้นของดีแต่คุ้ม ...คนที่เป็นเจ้าของ Brand น่ะรวย ..พวกโรงงานรับจ้างผลิตรวยน้อยลง
- คนรุ่น Gen Y ชอบของดี และต้องแพง ...เพราะเขาไม่ได้ซื้อสินค้าเพื่อบริโภค แต่เป็นยุคที่ซื้อสินค้าเพื่อแสดงตัวตน ...ยุคนี้แค่ Brand ไม่พอ ..Brand ต้อง 'เป็นคนดี เข้าถึงได้' ..ธุรกิจยักษ์ใหญ่ เริ่มหนาว บางธุรกิจถึงกับเจ๊งไปเลย เพราะไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า
- ผู้กำหนดตลาด คือ 'คน' ..การอ่านคน จึงสำคัญที่สุด
- การวิเคราะห์เศรษฐกิจ เราต้องวิเคราะห์คน ..อย่าง Trump อย่าไปฟังนโยบาย เพราะเขาเปลี่ยนตลอด ..ต้องอ่านที่ตัวเขา ...นักธุรกิจมาเล่นการเมือง เขาก็ทำการเมืองให้เป็นธุรกิจ เลียนแบบบ้านเรา ...ง่ายๆ ย้อนไปดูเมืองไทยว่า จุดเปลี่ยนการเมืองไทย ตลาดหุ้นเป็นยังไง ...ลดภาษีแล้วหุ้นเป็นไง ...แล้วการแตกแยก แบ่งพวก บ้านเราจบอย่างไร - อ่านคนก็วิเคราะห์ไม่ยาก !!
- ยิ่งความเปลี่ยนแปลงมีมากแค่ไหน เรายิ่งต้องกลับมาอ่านคน
ไว้เดี๋ยว อ่านหนังสือเล่มนี้กันเต็มๆ
ระดมสมอง จาก นักธุรกิจ นักลงทุน เทรดเดอร์ และ นักจิตวิทยา !!! ....แกะทุกมุมมอง การเปลี่ยนแปลง
- Generation / สีของคน / เศรษฐกิจ ...เพื่อให้เราเข้าใจวิถีการทำงาน และการหาเงินในโลกยุคใหม่
เร็วๆนี้ !!!
วางแผน ปลายกุมภาพันธ์ !!
หนังสือ แปลก ลึก และ ท้าทายวิธีคิดของสังคม การเงิน และ ธุรกิจ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 ข้อ โลกเปลี่ยน มันจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน ? 1. ‘ของแพงจะขายดีขึ้น ของถูกจะขายแย่ลง‘ …ของแพงคู่แข่งน้อย เพราะสร้างยาก ต้องสร้าง Brand …ส่วน...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
5 ข้อ ชวนคุย Generation และการเปลี่ยนแปลง วิธีคิดและการใช้ชีวิต เราแบ่งมนุษย์เป็นหลายแบบ ถ้าแบ่งตามภูมิศาสตร์ คนแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน …แต...
-
6 ข้อดี ของสงครามการค้าระหว่าง จีนกับอเมริกา ต่อเศรษฐกิจไทย …เรารู้กันอยู่แล้วว่า สงครามอะไรก็ตาม มันไม่ดี …งั้นเราลองมา Explore ข้อดี เผื่...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
6 ข้อ ทำไม ‘นักธุรกิจที่เก่ง‘ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการเป็นนักลงทุน …เราเห็นนักธุรกิจที่เก่ง พอมาเล่นหุ้น …เฮ้ย!! เสียตังค์หนักเลย …งั้นล...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...