แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2568

คนรุ่นใหม่ที่จะสำเร็จ และจะกลายเป็นคนรวยในยุคต่อไป มีหน้าตาเป็นยังไง ?

 คนรุ่นใหม่ที่จะสำเร็จ และจะกลายเป็นคนรวยในยุคต่อไป มีหน้าตาเป็นยังไง ?


1. งานดีๆ ที่ไม่เสี่ยงถูกคนรุ่นก่อนจับจองไปหมดแล้ว …เราถึงเข้าสู่ยุคที่ ‘ไม่มีของดีที่มันไม่เสี่ยง’ 


2. โอกาสของคนรุ่นใหม่จึงต้องวิ่งเข้าหาความเสี่ยง …จากสมัยก่อนที่คนส่วนใหญ่พยายามหาจุดที่ปลอดภัย ซึ่งยุคนี้ไม่มี 


3. เงินในแต่ละรุ่น จะถูกใช้ในจุดที่เขามองว่าสำคัญ …คนแต่ก่อนมองบ้าน ว่าสำคัญ เพราะเป็นรากฐานของครอบครัว …แต่คนยุคนี้ ไม่ได้สนใจครอบครัว แค่เอาตัวเองให้รอดก็ยากแล้ว


4. คนรุ่นใหม่จะซื้อของที่ทำให้เขาดูดีในรุ่นของเขา …เช่น การท่องเที่ยว จ่ายประสบการณ์เหนือสิ่งของ …หรือ ถ้าสิ่งของก็อยากจะได้ของที่ได้ใช้ด้วย โชว์ได้ด้วย ขายต่อก็ได้ 


5. แปลว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้มุ่งหาความรวยสุดโต่งแบบยอมแลกทั้งชีวิตแบบคนสมัยก่อน …คนรุ่นใหม่จะให้ค่ากับการสมดุลย์ของการหาเงินและใช้เงินอย่างฉลาด …พูดง่ายๆ คือ เขาให้ราคาของประสบการณ์ มากกว่าแค่หาเงิน (จริงๆ ลึกๆ เขารู้ว่า เขาหาเงินไม่ได้แบบคนรุ่นก่อนนั่นเอง)


6. เทคโนโลยีส่งผลให้งานต่อไปมีแค่สองแบบ คือ งานที่รายได้สูงมาก กับ งานส่วนใหญ่ที่รายได้ต่ำมาก …แปลว่า คนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จคือ คนที่ Top ในแต่ละอุตสาหกรรม


7. อุตสาหกรรมจะถูกแบ่งย่อยมากขึ้น …ธุรกิจจะเป็นแบบเฉพาะมากขึ้น ลึกมากขึ้น ละเอียดมากขึ้น …พูดง่ายๆ ธุรกิจจะมีความ Luxury มากขึ้นเรื่อยๆ 


ยกตัวอย่าง อุตสาหกรรมกาแฟ …ก็จะมีรายใหญ่ อย่าง Starbucks แต่ก็จะมีรายย่อยที่อยู่ได้แล้วทำได้ดีด้วย สำหรับคนที่หาช่องว่างที่ Special มากกว่า Luxury มากกว่า นั่นเอง


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

ทำไมเวลานี้ถึงเป็นเวลาในการเก็บหุ้นปันผล ในตลาดหุ้นไทย

 ทำไมเวลานี้ถึงเป็นเวลาในการเก็บหุ้นปันผล ในตลาดหุ้นไทย


1. ปันผลเป็นตัวค้ำราคาหุ้น ..ถ้ามีปันผลสูง คนก็พร้อมทยอยเข้ารับ ทำให้ราคาหุ้นถึงจุดที่ลงได้ยาก


2. ราคาเทียบพื้นฐานอยู่ในจุดที่ไม่แพง …ถ้าเทียบราคาหุ้นบ้านเรา ซึ่งมีวัฏจักรวิ่งจากถูกไปแพง แล้ววันนี้วิ่งกลับมาถูกอีกครั้ง จึงอยู่ในจุดที่ราคาไม่แพงนั่นเอง


3. แล้วทำไมราคาหุ้นถึงยังไม่ขึ้น …ก็เพราะเม็ดเงินหรือ Fundflow ไหลออกอย่างต่อเนื่อง …หลักๆ จากส่วนต่างดอกเบี้ย ที่อเมริกาสูงกว่าเรา ทำให้เงินที่ไม่อยากเสี่ยงจึงวิ่งไปหาอเมริกา 


4. แล้วความเสี่ยงของอเมริกาคืออะไร …สั้นๆ คือ Bubble เพราะ เงินพอไหลไปอเมริกา มันก็จะหาที่ลง ซึ่งวันนี้แม้หุ้นอเมริกาแพงแล้วก็เลยแพงต่อ คล้ายๆ Bubble ของราคาสินทรัพย์นั่นเอง


5. แล้ว Bubble อเมริกา จะกลายเป็นวิกฤตฟองสบู่แตกแบบปี 2008 ได้หรือไม่ ? …ต้องบอกว่า ถ้าเราจะเกิดวิกฤตแบบ 2008 ต้องเกิดจาก ธนาคารเจ๊ง แต่วันนี้ไม่ใช่ ยิ่งดอกเบี้ยสูงธนาคารก็ยิ่งได้เปรียบ …ดังนั้นวิกฤตการเงินจะไม่เกิด แต่วิกฤตย่อยๆ จะเกิดแทน (ถ้าจะซื้อหุ้นอเมริกาต้องซื้อเวลาตลาดปรับฐาน ลงแรงๆ เป็นช่วงๆ มากกว่า)


6. หุ้นปันผลไทย แบบไหนถึงน่าทยอยซื้อ …เริ่มจากหุ้นที่หนี้ไม่สูง …รายได้ยังแข็งแรง และมีความสามารถในการปันผลเป็นตัวเงินไม่ลดลง ก็ค่อยๆ ทยอยเข้าเก็บได้ 


7. ต้องเผื่อเงินซื้อเวลาตลาดไทยเกิดวิกฤตหรือไม่ …ผมว่า อย่างน้อยเราควรเหลือเงินสด 10-20 % ของพอร์ต เผื่อเอาไว้ …หากตลาดไทยเกิดวิกฤต ก็จะเป็นโอกาสเก็บหุ้นที่ดีที่สุด


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2568

ทำไมสินทรัพย์ที่ทำให้คนแต่ละ Gen ร่ำรวย ถึงไม่เหมือนกัน ..แล้วสินทรัพย์แห่งยุคตัวต่อไป คืออะไร ?

 ทำไมสินทรัพย์ที่ทำให้คนแต่ละ Gen ร่ำรวย ถึงไม่เหมือนกัน ..แล้วสินทรัพย์แห่งยุคตัวต่อไป คืออะไร ?


1. ‘ที่ดิน’ ทำให้ Gen Baby Boom รวย …ในยุคนั้นที่ดินมีราคาถูกและมีมากมาย …คนที่รวยคือคนส่วนน้อยที่ซื้อที่ดินเก็บแล้วทนถือนานมาก …พอเมืองขยาย ที่ดอนราคาขึ้น คนส่วนน้อยเหล่านี้ก็ร่ำรวย


2. ’หุ้น’ ทำให้ Gen X รวย …ในยุคก่อนหุ้นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในยุคก่อน มองว่าเป็นการพนัน …คนส่วนใหญ่ก็แค่ซื้อขายเก็งกำไร …คนที่รวยคือคนส่วนน้อยที่ ซื้อแล้วทนถือยาว ..พวกนี้คือ VI นั่นแหละ …จากนั้นหุ้นไทยก็ขึ้นเป็นสิบเท่า ร้อยเท่า คนเหล่านี้ก็รวย


3. ’Bitcoin’ ทำให้ Gen Y รวย …ยุคของ Gen Y ทั้งที่ดิน และหุ้น ถูกๆ ที่จะซื้อแล้วขึ้นเป็นร้อยๆ เท่า มันไม่มีแล้ว ….คนส่วนน้อยที่ซื้อ Bitcoin แล้วถือยาว HODL …ก็รวยขึ้นจากราคา Bitcoin ที่ขึ้นเป็นร้อยๆ เท่า 


4. สินทรัพย์ตัวต่อไป คุณคิดว่าคืออะไร ที่ หนึ่ง คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย (คือมันยังไม่เป็น Mass) ..สอง มันต้องมี Value หรือ คุณค่าที่แท้จริง 


…ที่ดิน ใช้อยู่อาศัย , หุ้น ใช้สร้างความเป็นเจ้าของ และให้อิสระ คือ ให้เงินทำงาน , Bitcoin ใช้ในการ รักษามูลค่า และ เคลื่อนย้ายได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด (ทองคำ ดิจิตอลนั่นเอง) …แล้วอะไรล่ะ สิ่งต่อไป ?


5. แปลว่าความร่ำรวย ไม่ได้เกิดจากแค่การทำงานหนัก …แต่มันเกิดจากการที่เรากล้าลงเงิน ลงทุนใน Idea ที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ จากนั้น อดทนถือมันนานเพียงพอที่มันจะสร้างผลตอบแทนให้เราอย่างมหาศาล 


6. ถามต่อว่า Idea อะไรที่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการยอมรับ แต่มี Value และประโยชน์ที่แท้จริง บ้าง ? 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2568

หุ้นกลุ่มอสังหาไทย ยังลงทุนได้ไหม เห็นปันผลสูงมาก ?

 หุ้นกลุ่มอสังหาไทย ยังลงทุนได้ไหม เห็นปันผลสูงมาก ?


1. ปันผล อสังหา ส่วนใหญ่สูงมาก หลายๆ ตัว 10% ขึ้น นั่นแปลว่า ถ้าเขาปันผลได้แบบนี้ เราซื้อแล้วถือไม่ถึง 10 ปี ก็คืนทุน ไม่ต้องขายหุ้นก็ได้ …LH 10% , SIRI 11% , PSH 14% , SC 9% , ORI 13% , AP 9% , SPALI 8% 


2. (มุมการแข่งขัน) ตัวเล็กๆ จะตาย และหายไป …มันเป็น Last Man Standing …พวกที่อยู่นอกตลาดเจ๊งไปหมด …สุดท้ายใครอยู่รอด ก็จะสบาย เพราะ คู่แข่งก่อนหน้านี้ตายไป


3. หุ้นอสังหาหลายๆตัว ต่ำ Book แปลว่า เราซื้อหุ้นได้ถูกกว่า สินทรัพย์ที่บริษัทมี …พูดง่ายๆ ว่า ซื้อราคาต่ำ Book ก็คือ ซื้อต่ำกว่าทุนเจ้าของ 


4. รัฐบาลนี้ เอื้อกลุ่มอสังหาแน่นอน …อันนี้ไม่ขอพูดเหตุผล ให้ไปคิดกันเอาเอง ..555


5. ปัญหาหลักของอสังหาไทยวันนี้ จริงๆ ดีกว่า จีน หรือ เวียดนาม …ของเรานี่คนพร้อมซื้อนะ ราคาก็ไม่ได้แพงเหมือนประเทศอื่นๆ แต่หลักๆ วันนี้คือ แบงค์ไม่ยอมปล่อยกู้ …ถ้าแบงค์ปล่อยวันไหน บอกเลย อสังหาพุ่งกระฉูด!!


6. ความเสี่ยง คือ หนี้ของบริษัท เพราะ กลุ่มนี้กู้เยอะ …ถ้าดอกเบี้ยขึ้น ซวยยกแพง (โดยเฉพาะตัวที่หนี้หนักๆ)


7. สรุป ลงได้ไหม …ตอบเลย ได้ …แต่กระจายคละกันหน่อย (ลงแบบเป็นพอร์ตน่ะ) ค่อยๆ ทยอยซื้อก็ได้ …เอาเป็นว่า กลุ่มอสังหาเป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มนึงที่ผมสนใจ เพราะ ในระยะยาว อสังหาไทย ผมว่ายังไปได้ เพราะ ราคาเราเทียบเพื่อนบ้าน เราไม่แพง ค่าครองชีพก็ไม่สูง ประเทศเราน่าอยู่ …แล้วด้วยกลุ่มนี้ปันผลดี มันสามารถสร้าง Passive Income ให้พอร์ตเราได้ในระยะยาว


ก็ประมาณนี้ คือ หุ้นไทยขาขึ้นรอบหน้า อสังหาเป็นกลุ่มนึงที่ต้องมีน่ะ


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2568

6 เรื่อง Stupid that make you Rich !!

 6 เรื่อง Stupid that make you Rich !!


1. ‘Start a Business’ …เริ่มจากปัญหาที่เราอยากจะแก้ …ถ้ามือใหม่เริ่มจากแก้ปัญหาเล็กๆ 


2. ’ลงทุนในสิ่งที่เสี่ยง ในเวลาที่คนอื่นไม่กล้าลง’ …สำคัญที่ต้องลงในเวลาที่คนอื่นไม่กล้าลง …เพราะถ้าลงในเวลาที่คนอื่นก็กล้า มันจะเป็นหายนะแทน


3. ’ซื้อสินทรัพย์ ในเวลาที่คนอื่นกลัว แล้วอยู่ให้นานที่สุด‘ …สำคัญที่ต้องแยกแยะให้ออกว่า อะไรคือ สินทรัพย์ …อะไรคือขยะ ?


4. ‘ลงทุนในระบบที่ดี’ …สำคัญคือ ต้องรู้ว่าอะไรคือระบบที่ดี …ระบบที่ดีจะสามารถสร้างเงินให้เรา โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปยุ่ง 


5. ’หางานที่เป็น Sweet Spot ของเรา’ …งานที่เป็น Sweet Spot คือ จุดที่เราออกแรงน้อย แต่ทำเงิน สร้างผลลัพธ์ให้เราเยอะ (จุดที่เราได้เปรียบ นอกนั้นคือ จุดที่เราไม่ได้เปรียบ)


6. ‘ลงทุนในคน’ ..การลงทุนใน Start up หรือ ธุรกิจที่เราไม่ได้ทำเอง จริงๆ ไม่ใช่การลงทุนในธุรกิจ แต่มันคือการลงทุนในคน …สำคัญที่การอ่านคนให้ขาด ….‘เก่งจริง/ไว้ใจได้/มีวินัยในสิ่งที่ทำ’ (ต้องให้คนทำงาน ได้มากกว่าเรานะ มันถึงจะยั่งยืน)


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

7 ข้อคิด ของปัญหาที่นักลงทุนต้องผ่านให้ได้

 7 ข้อคิด ของปัญหาที่นักลงทุนต้องผ่านให้ได้


1. ‘ทุกปัญหามีอายุของมัน‘ …ปัญหาทุกอย่างมีอายุ มีเวลาของมัน …พอเวลาผ่านไป ปัญหาก็จะผ่านไปเช่นกัน …ใช่!! อย่าไปจับจด หมกมุ่น มากจนเกินไป


2. ’การแก้ปัญหาให้ใช้เวลาส่วนใหญ่ศึกษาที่ต้นเหตุของปัญหา‘ …90% ศึกษาปัญหา แล้วอีก 10% แก้ปัญหา


3. ‘หลายๆ ครั้งที่ปัญหาเป็นจุดเริ่มของโอกาส‘ …ธุรกิจทำเงินส่วนใหญ่ เกิดจากการแก้ปัญหาให้กับผู้คน


4. ‘บางทีเราก็แยกไม่ออกว่า จริงๆ มันไม่ใช่ปัญหาของเรา’ …เออ เราเข้ามายุ่งทำไมวะ ? …จริงๆ มันไม่ใช่ปัญหาของเรา


5. ‘ถ้าเราเข้าใจข้อ 1 และ 2 เราอาจไม่ต้องแก้ปัญหาเลยก็ได้‘ …ปัญหาบางอย่างไม่ได้ต้องการการแก้ไข แต่ต้องการให้เราเข้าใจก็พอ …เพราะสุดท้ายปัญหานั้นมันจะแก้ได้ด้วยตัวของมันเอง


6. ‘ขนาดของปัญหา ต้องเหมาะสมกับขนาดของคนแก้ปัญหา‘ …ปัญหาใหญ่เล็กไม่สำคัญเท่ากับ ขนาดของปัญหากับขนาดของคนแก้มันต้องสมดุลย์กัน


7. ‘การสร้างวินัย ทำให้ปัญหาหลายๆ อย่างหมดไปอย่างมหัศจรรย์’ ….คนมีวินัยทำงานจะไม่อับจน , คนมีวินัยออกกำลังกายจะไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพ , คนมีวินัยลงทุนจะรวยในที่สุด


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ