แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2566

7 ข้อ ที่เศรษฐีพันล้านมีคล้ายๆ กัน

 7 ข้อ ที่เศรษฐีพันล้านมีคล้ายๆ กัน 


…มีเงิน น่ะใช่ …แต่ที่สำคัญกว่า คือ 7 ข้อนี้


1. ‘มีสินทรัพย์ที่ทำงานแทนเขา’ …เศรษฐีที่สร้างตัวด้วยตัวเอง ต้องมีสินทรัพย์ที่ทำให้เขารวย


2. ‘มีเพื่อนที่เป็นเศรษฐีพันล้านเหมือนๆ กัน’ …สภาพแวดล้อมสำคัญมากในการพัฒนาตัวเอง …เราอยากเป็นแบบไหน เราต้องรายล้อมตัวเองด้วยคนแบบนั้น …ง่ายๆ ถ้าเราอยากเป็นนักกีฬา เราก็ต้องอยู่ท่ามกลางคนที่ชอบเล่นกีฬา


3. ‘คิดหาโอกาสลงทุนตลอดเวลา’ …คนส่วนใหญ่คิดหาโอกาสใช้เงิน แต่คนเหล่านี้หาโอกาสลงทุน …หมกมุ่นกับการอยากลงทุนตลอด


4. ‘มี Passion ในเรื่ิองใดเรื่องนึงอย่างจริงจัง’ …ที่ว่า Passion นี่คือ ชอบในสิ่งนั้นมากๆ มีความรู้ลึก รู้จริงในเรื่องนั้น


5. ‘มีความสามารถในการถ่ายทอด’ (Leadership Skill) …การถ่ายทอด การสื่อสาร เป็นทักษะสำคัญมากๆ ในการเป็นผุ้นำ …มันจะทำให้เขาโดดเด่น และ แตกต่างจากคนทั่วไป


6. ‘เรียนรู้จากความผิดพลาดได้ดี’ …คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนต้องผิดพลาดเยอะ …การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดแล้วไปค่อ คือ สิ่งที่จำเป็นมาก ถึงมากที่สุด 


7. ‘ไม่เคยคิดว่าตัวเองรวย’ …คิดว่ายังไม่รวย ก็เลยต้องพัฒนาตัวเอง หาโอกาสต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดนั่นแหละ 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2566

6 ความจริง ที่ยอมรับได้เมื่อเราโตขึ้น เข้าใจโลกการเงินมากขึ้น

 6 ความจริง ที่ยอมรับได้เมื่อเราโตขึ้น เข้าใจโลกการเงินมากขึ้น 


1. ‘เงินไม่ได้วิ่งเข้าหาคนเก่ง แต่เงินวิ่งเข้าหาเงิน’ …ขยันแทบตาย จนมารู้ว่า ต้องเริ่มหาเงินแบบคนมีเงินจึงจะหาเงินได้ง่ายกว่า


2. ‘คนที่เหนือเงิน จะหาเงินง่ายกว่า’ …คนเหนือเงินคือคนที่ วางเงินทำงาน …เข้าใจความเสี่ยง และ กล้าที่จะเสียเงินเวลาลงทุน (กล้าเสีย)


3. ‘ผู้ให้เงิน จะอยู่เหนือผู้รับเงินเสมอ’ …ต้องพยายามไปอยู่ในจุดของผู้ให้เงิน เพราะ นั่นคือ จุดที่ได้เปรียบ 


4. ‘อย่าเสี่ยงในจุดที่คนอื่นเขาเสี่ยงเหมือนกัน’ …จุดที่เราเสี่ยงเหมือนๆ คนอื่น มักจะซวย …เพราะ คนส่วนใหญ่ในโลกการเงินซวยเสมอ


5. ‘ความได้เปรียบทางการเงิน เกิดทุกครั้งในวิกฤต’ …พูดง่ายๆ ทุกๆ วิกฤต คนที่มีเงินจะสามารถคว้าโอกาสที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้นั่นเอง 


6. ‘จุดที่ปลอดภัยที่สุดในโลกการเงิน คือ จุดที่แย่ที่สุด’ …จุดปลอดภัย จะให้ผลตอบแทนแย่ที่สุดในโลกการเงิน 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2566

5 ข้อควรรู้ เมื่อเศรษฐกิจและการเงินเปลี่ยนผู้นำ (The Changing World Order)

 5 ข้อควรรู้ เมื่อเศรษฐกิจและการเงินเปลี่ยนผู้นำ (The Changing World Order)


1. ‘เงินดอลลาร์ เป็นเงินสำรองของโลกที่กำลังถูกท้าทาย’ …ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ถือเงินดอลลาร์เพื่อรักษาความมั่งคั่ง (ตลาดหุ้นอเมริกา มีมูลค่า 55% ของทั้งโลก และมี Volume 64%)


2. ‘ก่อนหน้าอเมริกา เงินอังกฤษเคยเป็นเงินหลัก และก่อนอังกฤษ(Pound) ก็คือ เนเธอร์แลนด์ (Gulider)’ …แปลว่า ไม่มีเงินตราสกุลไหนที่อยู่ได้ตลอดกาล …ซึ่งการเข้าใจตรงนี้ช่วยให้เราเข้าใจโลกการเงินมากขึ้น


3. ‘ประเทศที่มีเงินสกุลหลัก สามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด’ …แต่ปัญหาคือ ยิ่งพิมพ์เงินก็ยิ่งเฟ้อ (มูลค่าลดลง) สุดท้ายเลยต้องขึ้นดอกเบี้ย เพื่อให้เงินไม่กลายเป็นแบงค์กงเต๊ก


4. ‘ทุกครั้งที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น และมีการพิมพ์เงิน ให้เราวิ่งหาสินทรัพย์’ …พูดง่ายๆ คือ จากนี้มูลค่าเงินจะลดลง ให้หาจังหวะซื้อสินทรัพย์ ทั้งหุ้น ที่ดิน ทองคำ ในเวลาที่ตลาดปรับฐาน และถือเอาไว้ให้นาน


5. ‘ให้มองหาโอกาสจากสงครามการค้า และ วิกฤตใหม่ ที่จะทำให้เราเห็นโอกาสในการลงทุนระยะยาว’ …การเปลี่ยนผู้นำ (อเมริกา - จีน) ต้องเจอวิกฤต ระหว่างทาง …ให้มองหาโอกาสการลงทุน


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันเสาร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2566

6 ข้อ มอง Hunger ในแบบนักลงทุน ‘เก่ง กล้า อดทน’

 6 ข้อ มอง Hunger ในแบบนักลงทุน ‘เก่ง กล้า อดทน’


‘เก่ง’ อย่างเดียวไม่พอ ความรู้มันแค่ทำให้เรารู้ว่าตรงไหนโอกาส 


…มันต้อง ‘กล้า’ คือ เมื่อเห็นโอกาส ต้องใส่เต็ม (เพราะในโอกาสมัน โคตรน่ากลัว เลยต้องอาศัยความกล้า ที่จะใส่)


 …และจากนั้น ‘อดทน’ คือ เมื่อเห็นโอกาส กล้าใส่แล้ว ต้อง อดทน ..ทน ..ทน ผ่านความกดดัน เวลา จึงจะไปถึงความสำเร็จ


1. ‘ของถูกคนเลือกซื้อจากคุณภาพ ของแพงคนเลือกซื้อจากความพิเศษ’ …ถ้าจะขายของถูก ต้อง Mass Production ทำต้นทุนต่ำ คุณภาพดี ราคาไม่สูง ขายเยอะๆ …ถ้าจะขายของแพง ต้องพิเศษ แตกต่าง และกระตุ้นแรงปรารถนาของคนซื้อ


2. ‘คนเก่งต้องอยู่ถูกที่ด้วยจึงจะสำเร็จ’ …คนเก่งต้องเลือกสนามที่ตัวเองพิเศษ ถึงจะไปได้เร็ว ไปได้ไกล 


3. ‘ความพิเศษต้องเริ่มตั้งแต่วัตถุดิบ’ …อย่างหุ้น ก็ต้องลงรายละเอียดไปตั้งแต่ต้น ก็คือ สินค้าที่ขาย จุดแตกต่างและ ฐานลูกค้าที่ชัดเจนแข็งแกร่ง


4. ‘ค้นหาและสร้างทีมแห่งความสำเร็จ’ …เก่งคนเดียวมันไปไหนได้ไม่ไกล ต้องมี คู่หู ต้องมีทีม มันจึงจะไปได้ไกล


5. ‘เปลี่ยนต้นแบบให้เป็นคู่แข่ง’ …ถ้าคุณเจ๋งพอ วันนึง IDOL ของคุณ ก็จะกลายเป็นคู่แข่งของเรา …แปลว่า เรายกระดับตัวเองไปได้โคตรไกล


6. ‘ค้นหาจุดที่ใช่ ไม่ใช่จุดสูงสุด’(Optimal) …การเป็นสุดยอด หรือ จุดสูงสุด มันอยู่ได้ไม่นาน และ มันเหนื่อย …เราต้องไปสู่ ‘จุดที่ใช่’ (จุดที่เราอยู่อย่างได้เปรียบ ไม่เหนื่อยแต่ได้ผลลัพธ์คุ้มค่า และ ยืนระยะได้ยาวๆ) 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2566

10 ข้อ เมื่อพ่อสอนลูกเรื่องเงิน

 10 ข้อ เมื่อพ่อสอนลูกเรื่องเงิน 

‘เมื่อเงินเปลี่ยนเรา’ ..หรือเราเปลี่ยนเงิน


…เงินซื้อผมไม่ได้ ฮึม!! ถ้ามันไม่มากพอ …เดี๋ยวนะ ใช่เหรอ ?


1. ‘เงินเหมือนอากาศ ตราบใดที่คุณมีเงิน คุณก็บอกว่ามันไม่สำคัญ แต่เมื่อไหร่ไม่มี มันจะสำคัญทันทีเลย’ …อ้ากกก!! หายใจไม่ออก (ไหนเมื่อกี้มรึงว่าไม่สำคัญฟระ !!) 


2. ‘น้ำไหลลงที่ต่ำ แต่เงินจะวิ่งหาที่สูงเสมอ’ …อะไรสูงๆ เสียวๆ เงินจะไหลเข้าไปที่นั่น จนมันรับไม่ไหวนั่นแหละ (ดอย)


3. ‘เงินเหมือนน้ำ ตัวเราเหมือนภาชนะ’ …ถ้าเราไม่เตรียมภาชนะ ไม่ว่าเงินจะไหลมาหาเราเท่าไหร่ก็ตาม สุดท้ายเราจะเหลือเงินเท่าภาชนะของเราเท่านั้นแหละ …ถ้าอยากได้เงิน ต้องเตรียมภาชนะ และ ขยายมันให้ใหญ่ที่สุด


4. ‘คนเราจะมีเงินประมาณ 10 เท่า ของความสูญเสียเงินที่เราแต่ละคนรับได้’ …แต่คุณจะต้องเสียก่อน ที่จะได้รับมันนะ (โหดสลัด!!)


5. ‘คนส่วนใหญ่ไม่อยากจัดการเงิน เพราะ มันคือการจัดการกับจิตใจของตัวเอง ซึ่งยากที่สุดแล้ว’ …ที่เขาพูดว่า เงิน คือ Mindset นั่นแหละ 


6. ‘คนที่ได้เงินมากเกินกว่าที่ตัวเองจะจัดการ ส่วนที่เกินจะเริ่มทำลายเรา’ …มีสองทางเลือก คือ เอาน้อยลง กับ อีกทาง คือ เพิ่มความสามารถในการจัดการ (อันหลังยากกว่า เพราะ มันต้องเริ่มฝึกฝน ตั้งแต่ยังไม่มีเงิน เหมือนคนที่เรียนรู้การลงทุนตั้งแต่เขายังไม่มีเงินนั่นแหละ)


7. ‘อย่ามองเงินเป็นอำนาจการใช้สอย เพราะ คุณจะไม่มีเงิน …ให้มองเงินเป็นอำนาจในการจัดการ เราจะมีเงินมากขึ้น’ …เราจะมีเงินมากเท่าความสามารถในการจัดการเงินเท่านั้นเลย


8. ‘เงินเป็นนายเรา หรือเราเป็นนายเงิน ดูกันที่ เราทำงานเพื่อเงิน หรือ เงินทำงานเพื่อเรา’ …ถ้าเราทำงานหนักเพื่อรอรับเงิน แปลว่า เงินเป็นนายเรา ชัดๆ เลย …คนที่เป็นนายเงิน เขาเป็นนายของเวลาด้วย 


9. ‘ให้ใช้เงินซื้อสิ่งที่เงินซื้อได้ แล้วใช้เวลาเราให้กับสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้’ …แต่คนส่วนใหญ่ในโลกทำตรงข้ามนะ (เงินเป็นเครื่องทุ่นแรง ช่วยประหยัดเวลา)


10. ‘อย่าใช้เงินซื้อความสุข ให้ใช้เงินซื้อความสะดวกสบายเท่านั้น’ …เพราะ นั่นคือหน้าที่ของเงิน 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2566

10 ข้อคิด นักเล่นหุ้นวัยลุง ที่เอาปรับใช้ในหุ้น

 10 ข้อคิด นักเล่นหุ้นวัยลุง ที่เอาปรับใช้ในหุ้น


1. ‘เวลาต้องเลือกหุ้น ให้เลือกตัวที่ดูเสี่ยงกว่าเสมอ’


2. ‘มือใหม่มักจะเริ่มจากหุ้นพื้นฐาน จากนั้นคุณจะต้องไปในแนวทางของตัวเอง’ 


3. ‘เวลาเลือกหุ้นผิดอย่าไปโทษคนอื่น ให้โทษตัวเอง แล้วเราจะเติบโตขึ้น’


4. ‘หุ้นทุกตัวมีขาขึ้น แล้วก็มีขาลง ท่องเอาไว้เลย’


5. ‘หุ้นมีหลายแนว ใหญ่ เล็ก ปันผล เติบโต ซิ่ง ..เราต้องเลือกตัวที่ตรงกับช่วงชีวิตเวลานี้ของเรา’ 


6. ‘หุ้นช่วงขาขึ้น ใช้เวลา …เราไม่สามารถเร่งให้หุ้นขึ้นตามใจเรา’ 


7. ‘ไม่ว่าจะเล่นหุ้นแนวไหน สุดท้ายเราต้องถือหุ้นที่ทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน’ …อย่ามัวแต่เทรดตลอด เพราะมันเหนื่อย 


8. ‘ช่วงที่หุ้นขึ้นเยอะๆ ให้แบ่งตัดมาบางส่วน ให้รางวัลตัวเอง ให้รางวัลคนที่เรารักบ้าง’ 


9. ‘ถ้าจะปั้นพอร์ตให้โตในตลาดหุ้น ต้องรู้จักปล่อยวาง เพราะ อยู่ในตลาด มันย่อมพลาดอยู่เรื่อยๆ’ 


10. ‘ถ้าท้อแท้ ตลาดแย่ พอร์ตพัง …ให้มองหาโอกาส เพราะขาขึ้นรอบต่อไป มันกำลังจะมา’ 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2566

7 หลักการ คัดหุ้นเด็ดปีกระต่าย ปลายปี 2023

 7 หลักการ คัดหุ้นเด็ดปีกระต่าย ปลายปี 2023


ว่าด้วยหุ้นเด็ด ไม่ใช่ซื้อแล้วแค่กำไร แต่ต้องถือแล้ว ‘เปลี่ยนชีวิต’ ..เจสสส !!


1. ‘หุ้นเด็ด เวลาซื้อมันต้องไม่เด็ด’ …คิดง่ายๆ วันที่เราซื้อ มันต้องดูแย่ …ถ้ามันดูดีแล้ว แปลว่า เราซื้อช้าไปแล้วนั่นเอง


2. ‘หุ้นเด็ด เจ้าของต้องถือเยอะ’ …อันนี้ Common Sense เลย …ถ้าหุ้นมันเด็ด เจ้าของต้องพยายามเก็บรวยรวมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 


3. ‘หุ้นเด็ด ต้องทำธุรกิจที่ยอดขายและกำไรกำลังจะเป็นขาขึ้น’ …กำลังจะเป็นขาขึ้น แปลว่า มันกำลังจะไปอีกไกล …ต้องมองให้ขาดว่า จากจุดที่เราซื้อ ยอดจายและกำไร ต้องไปได้อีกไกล


4. ‘หุ้นเด็ด จะเริ่มจากจุดที่หุ้นเบาที่สุด’ …จุดเริ่มต้นของความเด็ด ต้องเริ่มในจุดที่หุ้นเบา …Volume บาง ราคาต่ำ …หลังจากนั้น มันถึงจะเด็ด !!


5. ‘หุ้นเด็ด ต้องไม่ใช่หุ้นที่ใครๆ ก็เชียร์’ …จุดที่ใครๆ ก็เชียร์ แปลว่า มันปลายรอบแล้ว ไม่ทันแล้ว 


6. ‘หุ้นเด็ด ไม่ใช่หุ้นที่ปันผลสูง’ …อันนี้ขัดความรู้สึกเพราะ ใครๆ ก็อยากซื้อหุ้นแล้วได้ปันผลสูง …แต่หุ้นเด็ด เราต้องซื้อเวลาที่เขากำลังจะเติบโตสูงสุด แปลว่า ช่วงนั้น เขาต้องเอาเงินมาลงทุนต่อ ไม่ใช่เอามาปันผล


7. ‘เจอหุ้นเด็ด เราต้องใช้เงินเย็นแล้วอดทนรวยให้ได้’ …ระหว่างทางขึ้นของหุ้นเด็ด อาจเจอหุ้นย่อถึง 50% ดังนั้น ต้องแน่ใจว่า เงินเราเย็น แล้วเราอดทนรวยได้ 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม


5 ข้อ ทำไมการถือหุ้นถึงดีกว่าแค่ทำงานให้บริษัท

 5 ข้อ ทำไมการถือหุ้นถึงดีกว่าแค่ทำงานให้บริษัท


จากที่ผมเคยทำงานให้บริษัท และ ก็ถือหุ้นบริษัท เลยอยากจะมาแชร์เรื่องนี้ให้ฟังกัน


1. ‘การถือหุ้นคุณคือเจ้าของ’ …การถือหุ้นคุณได้สิทธิ์ใน ความเป็น ‘เจ้าของ’ …ส่วนทำงาน เราเป็น ‘ลูกจ้าง’ 


2. ‘เจ้าของ เสียภาษีน้อยกว่าลูกจ้าง’ ..ใช่!! คนที่โดนภาษีสูงที่สุด ก็คือ ลูกจ้าง โดนเต็มๆ …ส่วนเจ้าของ เสียภาษี ในส่วนปันผล ก็ประมาณ 10% …แต่เวลาขายหุ้น ไม่เสียภาษีเลย 


3. ‘ถือหุ้นเราใช้เงินทำงาน แต่ทำงานเราใช้เวลาเข้าแลก’ …ใช้เงินทำงาน ก็ย่อมสบายกว่า เอาตัวเราและเวลาเข้าแลก


4. ‘ทำงานมีวันเกษียณ แต่ถือหุ้นไม่ต้องเกษียณ’ …ผมคิดมาตลอดว่า มันไม่คุ้มเลย ถ้าเราทำงานให้บริษัทเจริญเติบโต ใหญ่ขึ้น รวยขึ้น แต่สุดท้ายวันนึงเราต้องเกษียณ อดได้รับผลตอบแทนของสิ่งที่้เราทุ่มเทสร้างมา ตอนเราแก่พอดี


5. ‘ทำงานเราต้องเลือกทุ่มเท เหมือนเอาไข่ใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว’ …แต่การถือหุ้นเรากระจายความเสี่ยง สามารถมีตะกร้าหลายใบได้


6. ‘เจ้าของบริษัทรุ่นใหม่ อยากให้ลูกถือหุ้น แต่ไม่อยากให้ลูกบริหาร’ …สมัยก่อนถ้าลูกไม่เก่ง บริษัทก็จะเจ๊งคามือ แต่ทุกวันนี้ เราสามารถหาผู้บริหารเก่งๆ มา บริหารได้ ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องหนักใจ 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

5 หลักใหญ่ใจความ ‘การลงทุน’ ในยุคปัจจุบัน

 5 หลักใหญ่ใจความ ‘การลงทุน’ ในยุคปัจจุบัน


1. ‘การลงทุนต้องให้เงินทำงานแทนเรา’ ..หลักๆ ที่เราลงทุนก็เพื่อให้เงินทำงานแทนเรา ในวันที่เราไม่มีแรงทำงาน


2. ‘การลงทุนต้องเข้าใจมูลค่าไม่ใช่มองแต่ราคา’ ..เราเข้าใจเรื่องราคาเพราะมันเห็นอยู่ตรงหน้า …แต่การเข้าใจมูลค่าเราต้องไปศึกษาธุรกิจ และต้องมองอนาคตธุรกิจให้ออก


3. ‘การลงทุน ต้องทนขาดทุน และทนกำไร’ …การทนขาดทุน 50% ถือว่าปกติมากในการลงทุนถือหุ้นระยะยาว …ส่วนที่ยากกว่านั้นคือ ทนถือหุ้นกำไรเป็นหลายๆ เท่าตัว


4. ‘การลงทุน ต้องฝึกคิดต่าง’ …การคิดต่างพูดง่าย แต่ปฏิบัติจริงยากมาก …เพราะแปลว่า เราต้องคิดและทำ ตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ …เช่น หุ้นขึ้น มีแต่ข่าวดี คนอื่นแย่งกันซื้อ ..คุณต้องขาย ยากไหมล่ะ ?


5. ‘การลงทุนต้องมองไกล’ …การมองไกล หรือ Start with the End in mind …คือ มองให้ออกก่อนจะลงทุน ว่าสิ่งนี้จะจบยังไง 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม


วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2566

7 เรื่องต้องรู้ เมื่อเศรษฐกิจโลกถึงจุดเปลี่ยน

 7 เรื่องต้องรู้ เมื่อเศรษฐกิจโลกถึงจุดเปลี่ยน


1. ‘ดอกเบี้ยขาลงเปลี่ยนเป็นดอกเบี้ยขาขึ้น’ …ก่อนหน้านี้คนกู้เยอะๆ ได้เปรียบ แต่วันนี้ คนไม่มีหนี้ได้เปรียบกว่า


2. ‘ยุคเงินดอลลาร์อ่อน สู่ดอลลาร์แข็ง’ …ก่อนหน้านี้ดอลลาร์มีแต่อ่อน แต่หลังจากนี้ดอลลาร์จัแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ


3. ‘ยุคของ Startup กลับสู่ SME’ …ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็พูดถึง Startup แต่หลังจากนี้ ธุรกิจต้องกลับมาสู่ SME ..เน้นธุรกิจที่ทำกำไรตั้งแต่วันแรก


4. ‘โลกตะวันตกสู่โลกตะวันออก’ …ประเทศที่อยู่แล้วรวยจะเปลี่ยนจากซีกโลกตะวันตก สู่ซีกโลกตะวันออก 


5. ‘โลกของ Mass สู่โลกของ Niche’ …ธุรกิจก่อนหน้านี้เน้นใหญ่และผูกขาด แต่หลังจากนี้ ธุรกิจที่ Niche จัด ชัดเจนคือผู้ชนะ


6 ‘เก็บเงินในที่ปลอดภัย สู่การวางเงินในที่เสี่ยง’ …ก่อนหน้านี้การวางเงินในที่ปลอดภัยเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้ที่ปลอดภัย คือ จุดที่น่ากลัว …อะไรที่การันตีผลตอบแทนกลายเป็นสิ่งที่เสี่ยง


7. ‘ผู้ชนะคนใหม่ จะไม่ใช่คนเดิม’ …ก่อนหน้านี้ผู้นำก็คือคนเดิม แต่วันนี้ผู้ชนะ ผู้นำ จะกลายเป็นคนใหม่ ..คนที่ใครๆ ไม่คาดคิด


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

6 กระบวนท่า ที่ VI สายปั้นพอร์ตต้องมี

 6 กระบวนท่า ที่ VI สายปั้นพอร์ตต้องมี 


1. ‘ท่า กล้าแม้กลัว’ …ความกลัวเป็นการบ่งบองว่า ตลาดช่วงนั้นถูก …ดังนั้น การฝึกควาทกล้าเมื่อกลัวเป็นสิ่งที่จำเป็นในการซื้อของถูก


2. ‘ท่า พร่องเมื่อมั่นใจ’ …ความมั่นใจ และ ความคึกคะนอง ของตลาดจะมาพร้อมๆ กันช่วงปลายรอบ …การพร่องจะช่วยให้เราเก็บเงินสดออกมา เพื่อเตรียมซื้อของถูกเมื่อตลาดปรับฐาน


3. ‘ท่า การหาของนอกกระแส’ …หุ้นในกระแส เป็นหุ้นที่รายใหญ่เขารวย ไม่ใช่รายย่อยรวย …การหาหุ้นนอกกระแส ก็คือ การหาคุ้นที่ทำให้รายย่อยรวยได้นั่นเอง


4. ‘ท่า อดทนรวยในภาพใหญ่’ …การอดทนรวย มันรวมถึงการทนย่อ ซึ่งบางครั้งหุ้นดีอาจย่อได้ถึง 50% ระหว่างทางขึ้น …การทนถือหุ้นดีจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ใครทำได้ ก็จะได้รางวัลอย่างคุ้มค่า


5. ‘ท่า การเข้าใจรอบในสินทรัพย์ต่างๆ’ …ทุกสินทรัพย์มีรอบทั้งหมด …การฝึกมอง รอบ ของสินทรัพย์ต่างๆ จะช่วยให้เราเอาภาพมาประกอบเพื่อความเข้าใจตลาดที่มากขึ้น 


6. ‘ท่า การมีเงินสดตลอดเวลา’ …เงินสดคือสภาพคล่องที่เราต้องกันเอาไว้ แทบจะตลอดเวลาเพื่อรอโอกาส …โอกาสเดียวที่เราจะใส่เงิน 100% เมื่อตลาดเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่เท่านั้น (เพราะวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ จะทำให้สามารถซื้อหุ้นดีในราคาถูกสุดๆ แค่ถือแล้วรับปันผล ก็คุ้มอย่างเหลือเชื่อแล้ว)


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2566

10 ข้อคิด เป็นประสบการณ์แบบใจๆ ในวัยลุง

 10 ข้อคิด เป็นประสบการณ์แบบใจๆ ในวัยลุง


1. ‘ชีวิตคือทางเลือก เมื่อเจอทางเลือก ให้เลือกทางที่เสี่ยงกว่าเสมอ’ …เพราะทางที่เสี่ยง ถ้าเราถูก มักให้รางวัลที่ใหญ่กว่า ..แต่ถ้าผิด ก็จะให้บทเรียน(สาสม)ที่ทำให้เราเติบโตได้มากกว่า 


(ทางที่เสี่ยงอย่างเหมะสม ให้ทางเดินชีวิตที่คุ้มค่า)


2. ‘สิ่งที่เราเรียนรู้จะเปลี่ยนไปเมื่อเราโตขึ้นเสมอ’ …ความรู้ที่มี ทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่เรามีในวันนี้ …สิ่งที่จะทำให้เราสำเร็จและเติบโตในวันพรุ่งนี้คือ ความรู้ที่แตกต่างจากวันนี้ 


(สิ่งที่เคยเข้าใจในอดีต มันแทบจะตรงข้ามเมื่อเราโตขึ้น)


3. ‘ผู้ใหญ่กับเด็ก ต่างกันตรงความรับผิดชอบ’ …ผู้ใหญ่คือคนที่รับผิดชอบตัวเอง และ รับผิดชอบคนที่เรารักให้ดีที่สุด


(เด็กไม่อยากผิด ไม่อยากรับผิด แต่การเป็นผู้ใหญ่คือการรับผิดชอบ)


4. ’ไม่มีชัยชนะ และ ความพ่ายแพ้ที่ถาวร’ …แพ้ชนะเป็นแค่วัฏจักรที่วนเวียนให้เราเรียนรู้ และเตือนสติเราเสมอ


(เวลาขาขึ้น ต้องเตรียมขาลง ..เวลาขาลง ต้องมองหาขาขึ้นครั้งต่อไป)


5. ‘โจทย์ชีวิตแต่ละคน แต่ละช่วงอายุ ไม่เหมือนกัน อย่าตัดสินคนอื่นแค่มุมของเรา’ …เข้าใจโจทย์ชีวิตในแต่ละช่วงเวลา สำคัญมากกว่าก้มหน้าก้มตาต่อสู้ 


(สิ่งที่สำคัญกว่าขยัน คือ เข้าใจโจทย์ชีวิตในแต่ละช่วงเวลา)


6. ‘ทุกความสำเร็จต้องการเวลา’ …การเร่งความสำเร็จไม่ได้ช่วยให้สำเร็จเร็วขึ้น มันแค่ทำให้เราเหนื่อยมากขึ้น


(ธรรมชาติไม่มีต้นไม้ใหญ่ ที่โตแบบถั่วงอก)


7. ‘เมื่ออายุมากขึ้นต้องทำงานให้น้อยลง แต่ต้องออกแบบให้รายได้ไม่ลดลง’ …การทำเรื่องนี้ให้ได้ ต้องศึกษาและเข้าใจการเป็นนักลงทุน


(เมื่อแรงเราลดลง ต้องออกแบบให้สินทรัพย์หาเงินแทนเรา)


8. ‘ให้รางวัลตัวเองและคนรอบข้างอย่างสมเหตุสมผล’ …ผมเคยคิดว่า ถ้าวันนึงรวยและสำเร็จ จะทำนั่น ซื้อนี่ ให้พ่อแม่ ตอบแทนนั่นนี่ …แต่เอาดีๆ ผมว่า ทำเลย ค่อยๆ ทำ มากน้อยไม่สำคัญ แต่มันคือส่วนนึงของการเดินทางที่มีพลัง


(รางวัลชีวิตแบบสมเหตุสมผล จะส่งให้เรามีแรง มีพลังทำงาน)


9. ‘เราหนีความแก่ไม่ได้ แต่ให้แก่แบบมีคุณภาพ’ …สุขภาพกายดี สุขภาพจิตดี …กายดี คือ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ …จิตดี คือ ปล่อยวาง และอภัยได้เก่ง …ทั้งสองอย่าง ต้องฝึกฝน อดทน และมีวินัย


(ยิ่งแก่ยิ่งต้องเท่ห์ ..นอกจากร่างกายดี ต้องปล่อยวางให้เก่ง)


10. ‘วิกฤตของคนนึง เป็นโอกาสของอีกคนนึงเสมอ’ ..ถ้าเรากำลังเจอวิกฤตให้รู้เลยว่า เราจะเจอโอกาสในเวลาเดียวกัน แค่เราเปลี่ยนวิธีมองและใช้ความกล้าหาญ 


(แค่เปลี่ยนมุมมอง ก็เห็นโอกาสแล้ว)


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566

6 ข้อ ควรรู้ วิธีตีราคา แบบนักลงทุน

 6 ข้อ ควรรู้ วิธีตีราคา แบบนักลงทุน


1. ‘ซื้อของมือสอง ไม่ซื้อของมือหนึ่ง’ …ราคามือหนึ่งคือราคาที่ผู้ผลิตจะตั้งเท่าไหร่ก็ได้ แต่ราคาที่แท้จริงคือ ราคาที่ขายได้ในตลาดมือสอง


2. ‘ศึกษาสินค้าให้ลึกซึ้ง’ …สินค้ามีทั้งเป็นสินทรัพย์และก็เป็นขยะ …ต้องแยกให้ออกว่าของที่เราซื้อมันเป็นอะไร 


3. ‘ศึกษา Demand/Supply ของสินค้านั้นๆ’ …ของมีจำนวนเท่าไหร่ เทียบกับ จำนวนคนที่ต้องการซื้อ 


4. ‘ต้องมีพ่อค้ามือสองเป็นเพื่อน’ …พ่อค้าของมือสองก็คือมืออาชีพในสินค้านั้นๆ รู้จักสินค้านั้นๆ รู้จักตลาดเป็นอย่างดี 


5. ‘อย่าลืมคำนวณค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสินค้า’ …ถ้าลืมคำนวณ บางทีมันมีค่าใช้จ่ายสูง จนแทบไม่คุ้มที่จะซื้อตั้งแต่แรก


6. ‘เราต้องชอบ ไม่งั้นไปซื้ออย่างอื่นเถิด’ …ถ้าจะซื้อลงทุน แปลว่า เราต้องอยู่กับมัน …เอาตรงๆ ถ้าเราไม่ได้ชอบ ไม่ได้ Passion ไปซื้ออย่างอื่นดีกว่า


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

5 ข้อควรรู้ ซื้อหุ้นแบบไหนไม่ต้อง Stop Loss

 5 ข้อควรรู้ ซื้อหุ้นแบบไหนไม่ต้อง Stop Loss


1. ซื้อหุ้นปันผลเวลาเกิดวิกฤต …เวลาเกิดวิกฤต หุ้นปันผลจะยิ่งให้ Yield สูงขึ้น เพราะ ราคามันลง …นั้นแหละ จุดซื้อหุ้นปันผล


2. ซื้อหุ้นราคาซาก …อันนี้ต้องประเมินมูลค่า ว่าการซื้อจุดนี้ ถูกเหมือนได้เปล่า


3. ซื้อหุ้นเป็นพอร์ตแบบกระจายเท่าๆ กัน …เช่น ซื้อหุ้นถูก 5 ตัวขึ้นไป ในจำนวนเงินพอๆ กัน (แต่ไม่ควรซื้อพร้อมกัน …ค่อยๆ ซื้อเวลาที่แต่ละตัวอยู่ต้นรอบ)


4. ซื้อหุ้นแบบ DCA …อันนี้คือซื้อเท่าๆ กันทุกเดือนแบบออมเงิน …ไม่ต้อง Stop Loss แถมควรซื้อเพิ่มเวลาเกิดวิกฤต เพื่อเพิ่มจำนวนหุ้น เร่งพอร์ต


5. ซื้อหุ้นต้นรอบ …อันนี้ก็คือดูรอบให้เป็น แล้วซื้อต้นรอบ (ข่าวร้าย ราคาถูก งบไม่สวย)


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ