แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

5 เรื่องที่คนเล่นหุ้น แค่มองตาก็เข้าใจกัน


 ‘5 เรื่อง ที่คนเล่นหุ้น แค่มองตาก็เข้าใจกัน’ 


1. ‘เราไม่ควรซื้อหุ้นในเวลาที่เราอยากซื้อ’


2. ‘เราไม่ควรขายหุ้นในเวลาที่เราอยากขาย’ 


3. ‘เมื่อใดที่เรากลัวมาก จริงๆ โอกาสมันมีอยู่เต็มตลาดหุ้นเลย’


4. ‘เวลาที่เราฮึกเหิม และโลภ ..จริงๆ หายนะมันรออยู่ที่ปากประตูเรียบร้อยละ’ 


5. ‘ฝีมือ คือประคองพอร์ตให้ไม่เสียเยอะเวลาพลาดแค่นั้นแหละ …แล้วเดี๋ยวความโชคดีมันจะมาหาเราเองในที่สุด’ 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

สามจุดที่น่าเสี่ยง และสามจุดที่ไม่น่าเสี่ยง


 ‘จะรู้ได้ไง ว่าเวลาไหนควรเสี่ยงในตลาดหุ้น’ 


มันมี 3 จังหวะใหญ่ๆ ที่ควรเสี่ยง ก็คือ 


1. ‘เราควรเสี่ยงเวลาที่ตลาดเกิดวิกฤติใหญ่’ …จุดที่แบบว่าหุ้นลงทั้งตลาดพร้อมกันไม่เหลือข่าวดีเลย อันนี้รอบใหญ่ สิบปีเกิดทีนึง


2. ‘เราควรเสี่ยงเวลาที่หุ้นดี เกิดการลงครั้งใหญ่’ …อันนี้ตลาดอาจจะไม่ลงทั้งหมด แต่หุ้นดีที่เราสนใจลงครั้งใหญ่


3. ‘เราควรเสี่ยงเวลาที่เราได้เปรียบ’ …บางครั้งตลาดหุ้นลงแรง แล้วเรามีเงินสดพอดี อันนี้ก็น่าเสี่ยง …มันเป็นเวลาที่คนอื่นติดหุ้นไม่มีเงินซื้อเพิ่ม แต่เรามี …ถ้าเราไม่ได้ซื้อเวลานั้น สุดท้ายโอกาสมันก็จะวิ่งผ่านไป


แล้วตอนไหน ไม่น่าเสี่ยง ?


มันก็มี 3 จังหวะใหญ่ที่ไม่น่าเสี่ยงเช่นกัน ก็คือ 


1. ‘ตอนที่เรามั่นใจมากๆ’ …ไม่ควรเสี่ยง ควรนั่งทับมือเลย


2. ‘ตอนที่เราเพิ่งพลาด อย่ารีบเข้าไปถัว’ …เพราะโดยมากมันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของขาลง …รอสักนิด ใจเย็นอีกสักหน่อย เดี๋ยวหุ้นมันจะถูกกว่านี้ …ถูกจนเราเริ่มไม่อยากซื้อ …ตรงนั้นแหละ ถึงค่อยซื้อ!!


3. ‘ตอนที่เพื่อนเอากำไรมาโชว์ แล้วชวนเราลงทุน’ ..ส่วนมากจุดนั้น มักจะเป็นปลายรอบ …ถ้าเราหลงซื้อเข้าไป อาจจะดอยสูงมาก และติดยาวนาน


…ยากเนอะ ? …ใช่!! ถ้าง่าย คนส่วนใหญ่คงรวยหุ้นไปกันหมดแล้วล่ะ 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

หลักการ 10% Rules มันช่วยให้เรา ติดดอยและขายหมู ลดลง




‘มีรุ่นน้องมาปรึกษาว่า ทุกครั้งที่ตลาดลงแรง มีหุ้นน่าซื้อ เขามักจะถือหุ้นเต็มพอร์ต ก็เลยไม่มีเงินมาช้อนซื้อหุ้นถูก ..ตรงนี้เขาจะแก้ไขยังไง ?’ 

โอเค !! อันนี้จากประสบการณ์ตรงเลย …ผมเรียกว่า ‘10% Rules’ หรือ ‘หลักการ 10%’ 

ก็คือ ทุกครั้งที่หุ้นที่เราถือ มันดูดีเกินไป ข่าวดีเยอะเกิน คนเชียร์มากเกิน ขึ้นแรงเกินไป หรือ Volume มากเกินไป …จังหวะนั้นแหละ ให้เราขายหุ้นตัวนั้นๆ ออกมา 10% ของจำนวนที่เราถือ 

‘ทำไม ?’ 

ก็เพราะ จังหวะนั้นๆ แหละ ที่เป็นจุดสูงสุดของแต่ละรอบหุ้น

‘แล้วทำไมไม่ขายทั้งหมดเลยล่ะ ?’ 

อันนี้ตอบง่ายๆ เลย …ถ้าเราขายทั้งหมดเมื่อไหร่ หุ้นมันจะขึ้นแรง จนเราตกรถไง !!

แต่ถ้าเราไม่ขายเลย …พอมันปรับฐานลงมาแรง เราก็จะไม่เหลือเงินสดเอาไว้ช้อนซื้อหุ้นถูกนั่นเอง

…จริงเหรอพี่ ? 

‘ก็จริงอ่ะดิ …จริงจนเราจะประหลาดใจว่า ทำไมเรื่องนี้มันเกิดกับทุกคน’ …เอาง่ายๆ ลองมองย้อนกลับไปซิ ว่าที่ผ่านมา เราพลาดแบบนี้กี่ครั้งแล้ว …เยอะมาก …แต่เราก็ไม่เคยได้ทำอะไร จริงไหม ?

…’แล้วเราต้องกลับมาซื้อหุ้นตัวเดิมไหมครับ ?’ 

‘ไม่จำเป็น’ …สิ่งที่เราต้องเรียนรู้ก็คือ ‘หุ้นที่ทำให้เรากำไรเยอะๆ มันมักจะเป็นหุ้นที่เราไม่ได้อยากซื้อ ณ จุดที่เราซื้อนั่นแหละ’ 

ส่วนหุ้นที่เราได้ซื้อในเวลาที่เราอยากซื้อมากๆ …นั่นแหละ โคตรไม่น่าซื้อ

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม


 

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2565

เกลียดคนรวย แต่ผมก็อยากรวย


 ‘เกลียดคนรวย แต่ผมก็อยากรวยอ่ะ!!’ 


ถ้าเราเกลียดคนรวย เราจะไม่รวย …อ้าว!! ทำไมล่ะ ?


1. ‘อย่าเกลียดคนรวย แต่ต้องแกะให้ได้ว่าทำไมเขาถึงรวย’ 


2. ‘จุดที่เสี่ยงเยอะๆ คือ จุดที่มีโอกาสรวย’ …ถ้าเราอยู่แต่ในจุดที่ปลอดภัย เราจะไม่มีโอกาสรวย


3. ‘ถ้าเราเสี่ยงแล้วเสีย ไม่ได้แปลว่าเราซวย …เราแค่ยังไม่มีความรู้มากพอในสิ่งนั้น ..แค่นั้นเอง’


4. ‘ความผิดพลาดเป็นส่วนนึงที่ทำให้เราเติบโต เพื่อเข้าใจโอกาสที่ใหญ่ขึ้น’ …ถ้ายังไม่เคยพลาด แปลว่า เรายังอ่อนประสบการณ์มากเกินไป


5. ‘ถ้าเราพลาดแล้วลุกขึ้นไม่ได้ แปลว่า เราเสี่ยงเกินไป’ …จริงๆ เราต้องเสี่ยงที่สุด เท่าที่ว่า ถ้าพลาดแล้วยังสามารถลุกขึ้นมาเดินต่อได้ …ใช่!! ในวันที่มืดมิด เงินสดแค่ 10% ที่เหลืออยู่ คือเงินที่จะพาให้เราลุกขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง 


ใช่!! เวลาที่เกิดวิกฤติครั้งหน้า ลองถามตัวเองว่า เราจะจัดการกับโอกาสครั้งนี้ยังไง ให้เราเป็นคนรวยคนใหม่ ที่ใครๆ ก็อิจฉากัน 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

ความหวังของคนเล่นหุ้น ผมต้องรวย


 ‘ความหวังของคนเล่นหุ้น’ ..ต้องมีด้วยเหรอ ? 


…’ต้องมีดิ!! โคตรสำคัญ’ …ล่าสุดไปดูสัมภาษณ์คุณโจ ลูกอีสาน …ยิ่งย้ำเตือนสิ่งที่ผมคิดมากขึ้น ก็คือ ผมเชื่อว่า คนเราสุดท้ายจะได้ตามที่หวัง (แต่ต้องวางอยู่บนฐานที่ พยายามมากพอ ไม่ยอมแพ้ ..ล้มก็ต้องกลืนเลือดแล้วยืนขึ้นมาสู้ต่อ …กลืนเลือดหมดแล้ว ก็ต้องชูมือขึ้นมา ไม่ยอมให้กรรมการนับน็อค)


…เวลาเจอคนพูดว่า ‘ผมเข้ามาเล่นหุ้น หาค่ากับข้าว’ ..สุดท้าย กับนี่ไม่ได้ แถมเสียข้าวอีก …โหดสุดตลาดหุ้น !!


‘100 ล้าน ในตลาดหุ้น หาง่ายมาก’ …คือ ถ้าคุณเริ่มจาก 500 ล้าน แล้วเข้าตลาดหุ้นมาซื้อขายตามสัญชาตญาณ สุดท้ายมันจะเหลือ 100 ล้าน นั่นแหละ 😭


…มือใหม่ จะ งง ว่าทำไมล่ะ ?


…ก็เพราะ สัญชาตญาณ เราชอบ ซื้อหุ้นแพง …ชอบซื้อหุ้นข่าวดี …ชอบซื้อหุ้นที่คนอื่นเขาเทรดกันเยอะๆ เชียร์กันเยอะ ซึ่งมันล้วนเป็น หุ้นปลายรอบ ที่มีโอกาสเสียมากกว่าได้ ตั้งแต่จุดที่เราเริ่มซื้อแล้ว …ก็ไม่แปลกหรอกที่ จะเสียเงินง่ายๆ เสียหนักๆ 


ส่วนพวกที่เข้าตลาดมา แล้วหวัง ‘เอารวย’ พวกนี้จะต้อง ฝึกฝนหนักมาก ….เอาตรงๆ วิธีเลือกหุ้น อ่านงบ มันไม่ได้ต่างกันมาก …ไอ้ที่ต่างคือ ‘ใจ’ 


1. ‘คนที่เสียไม่ได้ มักเสียหนักสุด’ …มันต้องเริ่มจากเงินที่พร้อมเสีย 


2. ‘จุดที่อยากซื้อ อย่าซื้อ …จุดที่อยากขาย อย่าขาย’ ..อย่าแค่พูด ลองทำดู จะรู้ว่า มันจริงยังไง !!


3. ‘เวลามั่นใจสุดๆ ให้ลดพอร์ต ขายหุ้นบ้าง’ …แล้วจะพบว่า พอตลาดลงแรง เรามีเงินสดมาช้อนซื้อหุ้น


4. ‘เวลากลัวสุดๆ ให้เริ่มซื้อหุ้น’ …ถ้ากล้าจะพบว่า เราเริ่มซื้อหุ้นต้นรอบได้บ้างละ 


5. ‘ถ้าทนถือหุ้นไม่ได้ อย่าหวังรวย’ …ถ้าเรากระจายความเสี่ยงแล้ว ซื้อหุ้น 10 ตัว ถึงผิด 5 ตัว ก็ยังรวยอยู่ดี …แต่ถ้าดันขายตัวที่ขึ้น อันนี้ไม่รวยละ …และที่เลวร้าย กว่านั้น คือ ดันขายตัวที่ขึ้น แล้วเอามาถัวตัวที่ลง แล้วหุ้นลงต่อจนเละ นี่แหละ เล่นหุ้นตาม สัญชาตญาณ 


…จากนี้ไป ตลาดหุ้น จะผันผวนมากขึ้น …วิกฤติมาแน่นอน …แต่วิกฤติไม่ได้มีไว้ให้กลัว มันมีไว้ให้เราซื้อเพิ่ม …จัดเพิ่ม 


อ้าว!! แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อเพิ่มล่ะ ?


‘ข้อ 3 ไง’ ลองดู


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม




วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2565

ในตลาดหุ้นต้องใส่ใจสิ่งที่เราคุมได้ ไม่ใช่สนใจแต่สิ่งที่ควบคุมไม่ได้


 ‘ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่า ในตลาดหุ้น ปัจจัยส่วนใหญ่ที่ส่งผลต่อการขึ้นลงของราคาหุ้น จะเป็นสิ่งที่เราควบคมไม่ได้แทบแทบทั้งสิ้น เช่น เศรษฐกิจเราคุมไม่ได้ , พื้นฐานบริษัทเราก็คุมไม่ได้ แถมเรารู้แทบจะเป็นคนสุดท้ายอีก’ …แล้วเราจะรวยจากหุ้นได้อย่างไร ?


ตอบตรงๆ เลยนะ …หน้าที่ของเราก็แค่ ดูแลเรื่องที่เราควบคุมได้ให้ดี แค่นี้ก็ทำกำไรได้จากตลาดหุ้นแล้วครับ 


ซึ่งก็คือ 


1. เลือกหุ้นที่เรามองว่า ยอดขายและกำไร อยู่ในช่วงเติบโต

2. เข้าซื้อในจังหวะที่เราได้เปรียบ เช่น ต้นรอบ , ช่วงหุ้นปรับฐาน , ช่วงที่ตลาดตกใจ เป็นต้น

3. การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตของเราให้ดี (พูดง่ายๆ ต้องไม่ให้หุ้นไหนที่เวลาพลาดจะสร้างความหายนะนั่นแหละ)

4. มีความอดทนถือหุ้นได้ และ เรียนรู้จากความผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง 


…คนส่วนใหญ่ พลาดข้อ 1 คือ มักไม่ได้เลือกหุ้นจากพื้นฐาน อาจจะดูไม่เป็น ขี้เกียจดู หรือไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พอซื้อหุ้นตามคนอื่น มันก็เสี่ยงละ


พลาดข้อ 2 …คนส่วนใหญ่ มักซื้อหุ้นตอนแพง ซื้อเพราะ FOMO …มันขึ้นมาเยอะแล้ว ก็กระโดดเข้าไปซื้อไม่รอย่อ เพราะคิดว่ามันจะไปต่อ ก็ดอยง่ายๆ 


จะพลาดข้อ 3 เพราะอยากรวยเร็ว จะชอบ All in …จัดหุ้นตัวเดียว หวังรวยเปลี่ยนชีวิต 


พลาดข้อ 4 เพราะ ถือหุ้นไม่นานพอ …ทนรวยไม่ได้ ก็อาจจะมาจากข้อ 1 ด้วย ที่เราไม่ได้เลือกหุ้นเอง ก็ไม่ได้เข้าใจพื้นฐานธุรกิจ …พอไม่เข้าใจ พอราคาแกว่งนิดหน่อยก็ขายก่อน อดรวย


….ลองดูครับว่า เราอยู่ในกับดักข้อไหน ก็ค่อยๆ ปรับปรุง


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

เวลาพลาดหนักจากตลาดหุ้นจะลุกขึ้นมาได้อย่างไร



‘เจอรุ่นน้องที่ไม่ได้เจอกันมานาน เขาเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ผ่านมาเขาเทรดหุ้นเสียหายหนักมาก ..หนักจนตอนนี้แทบไม่กล้าเล่นหุ้นเลย กลัวไปหมด’ …เขาก็ถามว่า พี่เคยเสียหายหนักไหม แล้วแก้ไขยังไง ?


‘โอวว!! …เคยดิ …ใครอยู่ในตลาดมานาน ต้องเคยเสียหายหนักทุกคน …เอาตรงๆ เราเห็นคนตอนเขากำไร แต่พอเสียหายก็จะหายๆ ไป …ซึ่งช่วงเวลานั้นแหละ ที่มันตัดสินเลยว่า หากผ่านไปได้ พอร์ตก็จะเติบโตไปอีก Level เลย’ 


จริงเหรอพี่ …พี่ไม่ได้หลอกผมใช่ไหมพี่ ?


‘เออ!! มันก็มีคนที่ไม่ผ่านนะ ..เขาก็อาจจะเลิกเล่นหุ้นไปเลย ไปทำอย่างอื่น …เออ มันก็มีหมดทุกแบบแหละ’ 


โอเค…ถ้าต้องการไปต่อ มันต้องผ่านคร่าวๆ ดังนี้


1. ‘ช่วงยอมเศร้าโศกเพื่อตกผลึก’ ..เวลาโดนหนัก หลายคนอยากรีบเอาคืนเร็วๆ บางคน ไปหาเงินมาใส่เพิ่ม เติม แล้วจัดหนักเข้าไปอีก …เอาตรงๆ นะ ส่วนใหญ่ที่อยากรีบเอาคืนจะเสียหายเพิ่ม หนักเข้าไปอีก …มันเป็น Sunk Cost Fallacy หรือ กับดักต้นทุนจม …..ดังนั้น ช่วงที่เพิ่งโดนหนักให้หยุด อยู่เฉยๆ แล้วตั้งสติทบทวนข้อผิดพลาด ก่อนที่จะทำอะไรต่อ ตรงนี้สำคัญ มันคือ การตกผลึก!!


2. ‘กลับมาเริ่มเล่นน้อยๆ’ …ปกติเวลาเสียหนัก เราจะเสีย self …กลัวไปหมด …ดังนั้น พอตั้งสติรู้แล้วว่า เราพลาดอะไร ให้กลับมาเริ่มเล่นใหม่ แต่เริ่มที่จำนวนน้อยมากๆ …อาจจะเริ่มจาก 10% ของที่เคยเล่น …เป้าหมายไม่ใช่การรีบเอาเงินคืน แต่เป้าหมายเพื่อ เรียกคืนความมั่นใจกลับมา


3. ‘ค่อยๆ เพิ่มการลงทุน จนกลับมาปกติ’ …ทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ พูดเหมือนง่ายนะ แต่เวลามันเจอกับตัวเอง มันหนักนะ แล้วมันก็ใช้เวลาพอสมควรเลย


ก็นั้นแหละครับ ถ้าผ่านไปได้ มันจะเป็นช่วงที่เราตกผลึกแล้วสามารถก้าวไปอีกขั้นนึง ..พอร์ตโตไปอีก Level นึง


‘มีทางลัด ไหมพี่ ?’ 


มีไง …ก็ถ้ารีบเอาคืน มันจะโดนลึกขึ้น …ยิ่งลึก ก็ยิ่งเก่งนะ ….แต่เอาตรงๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆ ไปเถอะ ….555 😂😂😂


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

 

หลักการนี้รวยสุดใช้ได้ตลอดในตลาดหุ้น





 

‘มีหลักการอะไรไหมที่ใช้ได้ตลอดไม่ตกยุคในตลาดหุ้น’ 


..’ทนรวยให้ได้ครับ!!’(แค่นั้นเลยครับ) …นี่เป็นหลักการโหดสุด สร้างเศรษฐีหุ้นมากที่สุดแล้วครับ 


เพราะอะไรน่ะเหรอ ? …ก็เพราะ เวลาหุ้นมันลง ลงแย่แค่ไหนก็เสียหาย เด้งเดียว …แต่ถ้าเราเข้าหุ้นดีถูกจังหวะ มันขึ้นหลายๆๆๆ เด้ง …ห้าเด้ง สิบเด้ง …ร้อยเด้งยังมีเลย ..ซื้อ 1 ล้าน ได้ 100 ล้าน เจสสส!!!!


แต่มันมีข้อจำกัดของหลักการนี้นะ …มันใช้ไม่ได้กับแนว All in ..จัดหนัก …เพราะ ถ้า All in โอกาสแพ้ชนะ มันไม่เคยได้เปรียบเหมือนการลงทุนเป็นพอร์ตนั่นเอง


…เวลาผมพูดเรื่องนี้ จะมีหลายๆ คนแย้งตลอดว่า ..’โถ่!! พี่ มัวแต่ลงทุนเป็นพอร์ตกระจายความเสี่ยง แบบนี้ก็รวยช้า ไม่ทันใจวัยรุ่นเลยครับพี่’ 


ผมก็ตอบไปว่า ‘เอาที่น้องสบายใจเลยครับ …พี่เอาใจช่วยนะ …Fighter !! สู้ๆ นะ’


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2565

เป้าหมายก็แค่ ข้ออ้างให้เราได้เริ่มต้นสู่ความสำเร็จครั้งใหม่


 ‘ผมต้องการลดน้ำหนัก 15 กิโล ในเวลา 2 ปี ให้ได้!!’ …เริ่มจากการมาดูอาหาร และ ควบคุมสิ่งที่เรากิน …จากนั้นก็คือ การเริ่มจัดตารางออกกำลังกาย 


ผ่านไป 2 ปี ผมลดไปได้ 10 กิโล …แปลว่า ‘ผมล้มเหลว หรือ ประสบความสำเร็จ ?’ 


…โอเค ถ้าดูตามตัวเลข คือ ไม่ถึงเป้า แปลว่า ไม่สำเร็จ ? …แต่จริงๆ ไม่ใช่ …เพราะ 2 ปี ที่ผ่านมา สุขภาพผมดีขึ้นเยอะมากๆ จากการกินอาหารที่ดี และ ออกกำลังกายที่มากขึ้น ..ไม่อ้วนแล้ว ..เออ จริงๆ ลดแค่ 10 กิโล ก็เพียงพอสำหรับเราแล้วนิ !!


…เรื่องที่เล่านี่ก็เหมือนกับ การตั้งเป้าลงทุนสร้างพอร์ต (สร้างพอร์ตหุ้นในแบบของเรา)


1. เริ่มจาก ‘ตั้งเป้า’ เพื่อที่เราจะได้ ‘เริ่ม’ (ใช่!! แม้ว่าไปไม่ถึงดวงจันทร์ แต่เราก็ยังคงอยู่ท่ามกลางดวงดาว) …เคล็ดลับของเป้าหมาย ก็เพื่อ ‘การเริ่มต้น’ ต่างหาก


2. การพลาดเป้า และ ความผิดพลาดระหว่างทาง คือ ‘อาจารย์ใหญ่ ในชีวิตจริง’ (ชนะ เป็นเรื่องดี แต่สิ่งที่ทำให้เราเก่ง และ เก๋า มันคือ แพ้ แต่ลุกขึ้นเดินต่อ ต่างหากล่ะ)


…การเรียนรู้ทั้งหมด ระหว่างทางที่เราเดิน ก็คือ วิถีของนักลงทุน นั่นเอง 


แค่วันนี้เราลุกขึ้นมา ‘ตั้งเป้า’ แล้วก็เดิน …ผมเรียกมันว่า จุดเริ่มของความสำเร็จครั้งใหม่ในแบบของเราเอง


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ