แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2567

โอกาสดีกว่า ทำสิ่งใหม่ในเวลาที่ยังไม่บูม

 โอกาสดีกว่า ทำสิ่งใหม่ในเวลาที่ยังไม่บูม


1. ‘การทำสิ่งใหม่ อึดอัดเสมอ แต่ดี‘ …เพราะเราต้องเรียนรู้ใหม่ …การทำอะไรใหม่ ทำให้ตัวเราไปเป็นนักเรียน เป็นมือสมัครเล่นใหม่ นั่นแหละ ช่วงที่เรียนรู้และเติบโตที่สุดในชีวิตเรา


2. ‘เวลาเริ่มที่ดีสุด คือเวลาที่ยังไม่บูม‘ …อย่าไปเริ่มอะไรเวลาสิ่งนั้นฮิต เพราะ นั่นคือปลายรอบ …ถ้าอยากเริ่มให้รอคนเลิกฮิต คนเสียหาย เจ็บตัว แล้วก็จะถึงเวลาที่เราควรเข้าไป


3. ‘สิ่งใหม่ ออกแรงไม่เยอะ แต่ผลลัพธ์มาก’ …เหมือนตอน social media เกิดใหม่ๆ ช่วงแรงๆ จะหาเงินง่าย ดังง่าย แต่พอคนเข้ามาเยอะ ยากและ (ถ้าสงสัยว่า ทำไมสิ่งที่เราทำอยู่ ออกแรงเยอะผลลัพธ์น้อย …ใช่!! เราทำสิ่งเก่า โบราณ เอ้าท์แล้ว นั่นเอง)


4. ‘ไม่มีใครชัวร์ ไม่มั่นคง นั่นแหละการเติบโต‘ …ยุคนี้งานที่มั่นคง เป็นทางตันของคนรุ่นใหม่ เพราะ พื้นที่มั่นคงด้านบนมีคนรุ่นก่อนจับจองอยู่แล้ว …เก้าอี้นั้นไม่ใช่ของเราหรอก


5. ‘เมื่อสบายต้องออกเดินทาง’ …เวลาที่เราสบายแปลว่า เราต้องเริ่มเดินทางครั้งใหม่ได้แล้ว …เพราะชีวิตคือการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ และ การเดินทาง


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม




วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2567

ยุคนี้ 2024 รวยเร็วสร้างได้ ถ้าเข้าใจเรื่องนี้

 ยุคนี้ 2024 รวยเร็วสร้างได้ ถ้าเข้าใจเรื่องนี้


1. ‘กล้าแสดงตัวตน ในสื่อสาธารณะ‘ …เอาง่ายๆ คนดังสร้างตัวง่ายกว่าไม่ดัง …ดังนั้น ขั้นแรกต้องลองแสดง ’ตัวตน‘ ในสื่อ ดู คัลแลนกับพี่จอง ก็ได้


2. ‘จริงใจ ไม่ต้องปรับแต่ง‘ …สมัยก่อนคนที่เป็นดาราต้องสร้างภาพ ’หน้ากาก‘ เพื่อให้คนอื่นเห็นเฉพาะสิ่งที่ดีเท่านั้น แต่ยุคนี้ไม่ใช่ …ต้องจริงใจ เป็นยังไง โชว์ไปตรงๆ 


3. ‘ทำสิ่งใหม่ ทำงานเสี่ยง‘ …ถ้ารุ่นน้องมาถาม ผมมักแนะนำว่า เลือกทางที่เสี่ยงกว่าเสมอ …สิ่งเก่าต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ แต่งานใหม่ๆ มือใหม่อย่างเราก็มีโอกาสสบายๆ 


4. ‘พลาด พัง ก็แค่ลุกขึ้นมาใหม่’ …ยุคนี้ไม่มีใครอดตายแล้ว …ถ้าพลาดก็ร้องไห้ให้เต็มที่ ปล่อยโฮให้สุด แล้วก็ผ่านไป ลุกขึ้นมาใหม่ …เดี๋ยวมันต้องมีวันของเรา


5. ‘ไม่มีงานเดียว ไม่มีอาชีพที่มั่นคง ไม่ใช่ก็ก้าวต่อไป‘ …รุ่นพี่ยุคมืออาชีพ ล้าสมัยแล้ว โลกมันเปลี่ยน ..ยุคนี้ปรับตัวให้เร็ว รับสิ่งใหม่ ลองไปเรื่อยๆ …คิดง่ายๆ ของใหม่ คู่แข่งน้อย โอกาสอาจเป็นเราก็ได้


6. ‘อย่าพยายามเป็นที่รักของทุกคน ขอแค่คนรักมากๆ กลุ่มเล็กๆ ก็พอ‘ ….อันนี้ใช้ได้ทั้ง คน ทั้ง Product …คิดดูสิ สินค้าที่ทำมาเอาใจทุกคน มันไม่ work แล้ว


7. ’กล้าได้ กล้าเสีย’ …คนจะกล้าได้ แปลว่า เขากล้าเสียได้ …เอาตรงๆ ถ้าไม่กล้าเสีย กล้าเสี่ยง ก็ไม่มีโอกาสชนะครั้งใหญ่ในชีวิต


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม


วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2567

โอกาสของ เศรษฐกิจคนแก่ ที่เราควรเข้าใจ

 โอกาสของ เศรษฐกิจคนแก่ ที่เราควรเข้าใจ

‘หนุ่มสาวควรทำงานที่เสี่ยง …ส่วนคนแก่ควรทำงานที่มั่นคง แล้วใช้เงินเสี่ยงแทน‘ 

1. ‘คนแก่ เหมาะกับงานมั่นคง‘ …หลายบริษัทอยากจ้างคนแก่ เพราะ ทำงานนานไม่ไปไหน …ต่างกับหนุ่มสาวที่เป็น Job Hopper (เปลี่ยนงานบ่อยๆ)


2. ’คนแก่ ควรใช้แรงงาน’ …การใช้แรงงานสำหรับคนสูงอายุถือเป็นการออกกำลังกาย ได้ขยับร่างกายและขยับสมอง


3. ‘งานที่ปรึกษา ใช้ความเก๋า‘ …ในยุคที่ธุรกิจเน้นความใหม่ ความเร็ว และ การเปลี่ยนแปลง การ ‘มองหลัง’ สำคัญอย่างมาก


4. ‘ซื้อของแพง ของเล่น กล้าใช้ขึ้น‘ …คนแก่ยุคนี้ กล้าซื้อของให้ตัวเอง ของเล่น เช่น ของแบรนด์ ของสะสม


5. ’ผันตัวเป็นนักลงทุนที่ซับซ้อนมากขึ้น’ …คนกลุ่มนี้มีเงิน แล้วรู้จักการวางเงินทำงานมากขึ้น …มีการแบ่งเงินลงในสิ่งที่เสี่ยงมากๆ อย่าง Hedge Fund , PE , VC ..


6. ‘นักท่องเที่ยว และเดินทางตัวยง‘ …เมื่อมีเงินมีเวลา ก็ต้อง ท่องเที่ยว นี่คือ กลุ่มสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว


7. ‘สุขภาพและ Fitness’ …คนที่ลุกขึ้นมาเข้าฟิตเนส วิ่งมาราธอน ออกกำลังกายมากที่สุด ก็คือ คนกลุ่มนี้ 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม


หลักการ ‘ใช้เงินทำงาน‘ ให้ชีวิตเราสบายขึ้น

 หลักการ ‘ใช้เงินทำงาน‘ ให้ชีวิตเราสบายขึ้น


‘การทำงานหนักในช่วงหนุ่มสาว เป็นเรื่องที่ถูกต้อง …แต่ถ้าคุณอายุเยอะแล้วยังทำงานหนัก มันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกแน่ๆ’ 


ใช่ ..จะใช้เงินทำงานก็ต้องมีเงิน ..แต่ถ้าไม่วางแผนให้ดี ยิ่งมีเงิน กลับยิ่งเหนื่อย 


1. ‘การใช้เงินทำงานเป็นเรื่องวิธีคิด’ ..ถ้าคิดแต่หาเงิน ก็ยากที่จะวางให้เงินทำงาน …ต้องเข้าใจว่า การให้เงินทำงานไม่ใช่เรื่องของคนขี้เกียจ แต่เป็นอีกหนึ่งในวิธีหาเงิน


2. ’ทำงานเพื่อเงิน ในงานที่้เราอยากเรียนรู้เพิ่มเท่านั้น’ …ถ้าไม่มีอะไรอยากเรียนรู้เพิ่มจากงานนั้น ต้องทำงานให้น้อยลง ให้เงินทำงานมากขึ้น


3. ’เรียนรู้ความแตกต่างระหว่าง คนลงแรง และ คนลงเงิน’ …คนลงแรง จะต้องทำงานเป็นหลัก ส่วนคนลงเงิน ก็ต้องหาเงินมาเป็นทุน ซึ่งทำงานเบากว่า


4. ’เข้าใจความเสี่ยงของ คนลงเงิน‘ …ความเสี่ยงก็คือ เสียเงินนั่นแหละ ดังนั้น การกระจายความเสี่ยงเป็นหัวใจของการวางเงินทำงาน


5. ’ฝึกเป็นนักลงทุนในหุ้น’ …นักลงทุนในหุ้นแบบถือยาว จะเข้าใจ การขึ้นลง และ วัฏจักรธุรกิจ เพราะ เราจะได้ถือทั้งขาขึ้นและขาลง


6. ’เงินปันผล เป็นเพียงส่วนนึงของทั้งหมด‘ …เราต้องเข้าใจว่า บางช่วงของการให้เงินทำงาน เราอาจไม่ได้เงิน ..เราต้องผ่านช่วงนั้นไปให้ได้ …ใช่!! ทนผ่านช่วงที่ธุรกิจไม่ดีให้ผ่านไป


7. ‘เรียนรู้และมองหาโอกาสในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง‘ …แม้เราไม่ชอบออกแรง แต่ต้องหาความรู้และคอนเนคชั่นอย่างต่อเนื่อง


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567

6 สิ่ง ที่ผมเรียนรู้จากการพัฒนาของประเทศจีน

 6 สิ่ง ที่ผมเรียนรู้จากการพัฒนาของประเทศจีน


1. ‘เริ่มจากงานหนักเงินน้อยเพื่อเรียนรู้’ …จีนเริ่มจากการเป็นโรงงานของโลก คือ ยอมทำงานหนักเงินน้อย เพื่อจะได้เรียนรู้ 


2. ‘การพัฒนาต่อยอด ไม่ใช่แค่ทำตาม’ …จีนไม่ได้หยุดแค่เรียนรู้ แต่เขาเป็นประเทศที่เน้น R&D สูงมาก …เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมใหม่ของตัวเอง …อย่างเรื่อง App จีน พัฒนาไปสู่ Super App ที่ขนาดอเมริกายังอยากเลียนแบบ


3. ’กล้าลงทุนในระยะยาว‘ …จีนลงใน infrastructure เยอะมาก เช่น ถนน , รถไฟความเร็วสูง , พลังงานนิวเคลียร์ …ซึ่งแทบไม่คุ้มการลงทุนในระยะสั้นเลย …แต่สิ่งเหล่านี้แหละ ที่ทำให้จีนได้เปรียบในระยะยาว (ทุนนิยมแบบสุตโต่ง จะยึดติดกะบระยะสั้น เพราะต้องโชว์กำไรตลอดเวลา)


4. ’กล้า All-in ในอุตสาหกรรมใหม่‘ …เช่น รถยนต์จีน ก้าวผ่านสันดาปไป EV เลย เพราะ รู้ว่าเขาไม่มีทางชนะในอุตสาหกรรมสันดาป ดังนั้น การ All-in ไป EV เป็นทางเลือกที่มีโอกาสชนะได้มากกว่า 


5. ’คนจีนมีความอดทน และ มีความยืนหยุ่นสูงมาก‘ …ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวนสูงแบบในปัจจุบัน …เราต้องการคนที่มีความยืดหยุ่น และ พร้อมปรับตัว ซึ่งคนจีนทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีมาก 


6. ’เลือกธุรกิจที่กำไรน้อย เพื่อให้คู่แข่งไม่สามารถเข้ามาได้‘ …หลักการทำธุรกิจของคนจีนคือ ไม่เอากำไรเยอะ แต่กินยาวๆ เพราะ เขายอมลด Margin จนไม่มีใครอยากเข้ามาแข่ง …สุดท้ายเลยกินรวบทั้งตลาด 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

5 หลักการหา S Curve ใหม่ เพื่อโอกาสที่ใหม่ใหญ่ขึ้น

 5 หลักการหา S Curve ใหม่ เพื่อโอกาสที่ใหม่ใหญ่ขึ้น


1. ‘S Curve คือ ความบังเอิญ ไม่ใช่การวางแผน’ …พูดง่ายๆ ทุกสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่ มันมักจะไม่ได้เกิดตามแผน …มันมักจะเกิดนอกแผน …เพราะถ้าทุกอย่างเกิดตามแผน มันจะไม่มีธุรกิจใหม่เลย …ข้อที่หนึ่ง ‘นอกแผน‘ 


2. ‘สิ่งใหม่เกิดจากมือรอง’ …มือหนึ่งมักถูกวางให้ทำเรื่องเก่าที่ชัวร์ …ทำให้สิ่งใหม่ หรือ การเปลี่ยนแปลง ถูกให้มือรองทำ …ดังนั้น เราต้องทำตัวเป็นมือรอง รับอาสาทดลองเรื่องใหม่


3. ‘ใช้ทุนน้อย และทุกอย่างจำกัด’ …การเกิดของโอกาสครั้งใหม่ มักไม่ได้เกิดจากทุน แต่เกิดจากไอเดีย ..ให้โฟกัสไปที่ไอเดีย ไม่ใช่ที่ทุน


4. ‘เกิดในสภาพแวดล้อมใหม่’ …ลองนึกภาพการปลูกต้นไม้ ถ้าปลูกที่เดิม ดินเดิม ทุกอย่างเดิม ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมชัวร์ …ดังนั้น ต้องสภาพแวดล้อมใหม่ แยกออกไป ไม่ใช่ที่เดิม 


5. ‘ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ สำคัญมาก‘ …เกิดจากความบังเอิญ โดยมือรอง ที่มีทุนจำกัด และ ทำในสภาพแวดล้อมใหม่ แล้วถ้ามันเริ่มใช่ ต้องใส่ทุนเพิ่ม เติมให้สุด …ตรงนี้แหละสำคัญ คือ ถ้าใช่ ต้องกล้าใส่ให้สุด


ใช่!! ทั้ง 5 ข้อ ขัดความรู้สึก โคตรๆ …เราเลยไม่ค่อยเห็น S Curve ใหม่นั่นเอง 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

6 ข้อ ที่เราได้เรียนรู้ เวลาที่พอร์ตขาดทุนหนัก

 6 ข้อ ที่เราได้เรียนรู้ เวลาที่พอร์ตขาดทุนหนัก


1. ‘เราจะอยากขายเวลาที่พอร์ตยิ่งขาดทุน’ …พูดง่ายๆ เวลาที่พอร์ตขาดทุนน้อยๆ เราไม่อยากขาย (ทั้งที่บางครั้งมันเป็นจุด Stop Loss ที่ดีมาก …ราคาลงไม่แรง Volume รับเยอะๆ) …เราจะอยากขายเวลาที่จริงๆ ไม่น่าขายแล้ว 


2. ’เราไม่กล้าซื้อหุ้นเพิ่ม ทั้งที่มีหุ้นถูกมากมาย’ …เรายังจำภาพความเจ็บปวด เลยไม่กล้าเข้าไปหาโอกาสครั้งใหม่ ทั้งที่เราก็ยังมีเงินเหลืออยู่ (การซื้อเมื่อทุกอย่างแย่ มันมักจะดี จนถึงดีมาก หลังจากนั้นเสมอ แต่เราก็ไม่กล้าซื้อเยอะอยู่ดี)


3. ’หุ้นที่พื้นฐานดีกลับลงหนักกว่าหุ้นที่พื้นฐานไม่ดี’ …อันนี้ย้อนแย้ง แต่อธิบายได้ ก็คือ หุ้นที่พื้นฐานแย่ มันลงมาก่อนแล้ว ลงจนทุกคน Cut ทิ้งไปหมดแล้ว หุ้นก็เลยไม่ลงต่อ …แต่หุ้นพื้นฐานใช้ได้ คนส่วนใหญ่ยังทนถือ มันก็เลยลงต่อนั่นเอง


4. ‘ครั้งหน้าที่พอร์ตกำไรเยอะ ต้องทยอยขายให้มากขึ้น’ …แปลง่ายๆ ว่า เราไม่ควรหวังกำไรสูงสุดในทุกๆ รอบ …เมื่อกำไรก็ควรค่อยๆ ทยอยขาย แม้ไม่ได้กำไรสูงสุด แต่ก็จะไม่เสียรอบ เสียโอกาส


5. พอขาดทุนเยอะๆ เราจะพยายามหาทางชดเชย อยากรีบเอาคืน‘ …ซึ่งเอาตรงๆ มันแทบไม่ได้ช่วย และอาจทำให้มันหนักขึ้นไปอีก …บางครั้งการหยุดเพืีอทบทวนจะเพิ่มโอกาสการได้คืนได้รอบต่อไปมากกว่า


6. ’โอกาสในรอบต่อไป มักอยู่ในจุดที่ยังดูไม่ดี’ …แต่พอเราเสียหาย เราจะไปมองหาว่าอะไรยังดี แล้วเข้าไปซื้อ ซึ่งโดยมากจะซวยมากขึ้น …พอเราตามไป มันก็ถึงเวลาลงพอดีเป๊ะ !! - (วิธีการที่ดีกว่า คือ หาวิธีการใหม่ ที่ยังไม่ดีก่อนหน้านี้ …เพราะจากนี้มันมีโอกาสจะดีมากกว่า)


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

3 ประสบการณ์ดี และ 3 แย่ ในปีที่ผ่านมาคือ ?

 3 ประสบการณ์ดี และ 3 แย่ ในปีที่ผ่านมาคือ ?


เริ่มจากแย่ก่อน 


1. ’โดนหุ้นไทยต้มกบ’ …ต้นปี 2023 ดูเหมือนหุ้นไม่น่าจะลงเยอะ …แต่มันลงลึกขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะหุ้นเล็กหนักสุด …เต็มข้อ ว่างั้น (เมื่อเราคิดเหมือนคนส่วนใหญ่ เราจะทำผลตอบแทนได้เหมือนคนส่วนใหญ่)


2. ’มอง New S Curve ไม่ออก‘ …มองไม่ออกว่าจะพัฒนาตัวเองให้เจอจุด S Curve ใหม่ได้ยังไง (ถ้ามองออก มันคงไม่ใช่ S Curve …ขาขึ้นครั้งใหญ่ จะเริ่มจากจุดที่ Impossible เสมอ)


3. ‘การลดลงของพอร์ต ทำให้เข้าใจสัจธรรมของตลาดหุ้นมากขึ้น’ …จริงๆ ผมเตรียมพร้อมอยู่แล้วว่าตลาดต้องปรับฐาน …แต่ครั้งนี้มันสอนว่า หลังจากขึ้นเยอะ ก็หนีไม่พ้นลงเยอะแค่นั้นเอง (บทเรียน ก็คือ การลงทุนที่สบายที่สุด ต้องไม่มองหาการทำกำไรสูงสุด แต่ต้องหาจุดสมดุลย์ตลอดเส้นทาง)


ส่วน 3 ประสบการณ์ดี คือ 


1. ’กลับมาตีกอล์ฟกับครอบครัว‘ …การกลับมาทำกิจกรรมพร้อมกันทั้งบ้าน ก็ทำให้ได้คุยกันมากขึ้น (จากหนัง Analog Squad กล่าวไว้อย่างโดนว่า ‘คนที่คุยด้วยยากที่สุด ก็คือ คนในครอบครัวเราเองนี่แหละ‘)


2. ’เริ่มยกเวท สร้างกล้ามเนื้อ’ …สำหรับคนวัย 40 กว่าอย่างผม มันถึงช่วงถดถอยทุกอย่างของสุขภาพ …การที่ได้มายกเวท ช่วยให้ได้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง มากขึ้น (เข้าใจ คำว่า ‘วิกฤตวัยกลางคน’ ..มันเริ่ม เมื่อเราตระหนักว่า หลังจากจุดนี้ เรามีแต่เสื่อมถอย เช่น ร่างกาย …เราก็เลยพยายาม ไม่ถอย พยายามดูเด็ก โชว์ว่ายังวัยรุ่น …แต่มันก็ยิ่งดูแก่ แต่อยากเด็ก หนักเข้าไปอีก)


3. ‘การมองหารายได้แบบ Passive มากขึ้น‘ …พูดเหมือนคนที่เริ่มมองหาการเกษียณ เช่น ลงทุนหาปันผลมากขึ้น , ทำธุรกิจในส่วนลงเงิน ไม่ลงแรง …ใช่!! ผมเริ่มเตรียมการจริงจัง เกี่ยวกับการจัดการเงินในแบบน้ำซึมบ่อทรายมากขึ้น 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ