แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

7 ข้อ คิดลงทุนแบบคนมีเงิน ทำได้ตั้งแต่เรายังไม่มีเงิน

 7 ข้อ คิดลงทุนแบบคนมีเงิน ทำได้ตั้งแต่เรายังไม่มีเงิน


1. ‘มองที่ความเสี่ยง ก่อนมองผลตอบแทน‘ …ถ้าเราซื้อหวย แปลว่า เรามองผลตอบแทนมากกว่าความเสี่ยง เพราะ มันไม่คุ้มเสี่ยง แต่ผลตอบแทนมันเยอะ


2. ’รู้ก่อนว่าอะไรที่เราควบคุมได้ กับอะไรที่เราควบคุมไม่ได้‘ …สิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ คือ ราคา เพราะมันขึ้นอยู่กับตลาด …แต่ที่เราควบคุมได้ คือ เงินลงทุนของเรา …มันต้องเริ่มจาก Money Management ของเราก่อนเลย


3. ’กล้าทำตามแผนที่เราวางเอาไว้‘ …ถ้าเรากล้าทำตามแผน เราจะเสียหายจำกัด …แต่ถ้าไม่ทำตามแผน เราจะเริ่มเสียหายอย่างไม่จำกัด 


4. ‘ไม่มีอะไรฟรี …ของดีที่ไม่เสี่ยง มันเสี่ยงที่สุด’ …ถ้าเรากำลังลงทุนเพราะ เหตุผลที่มันดีและไม่มีความเสี่ยง …มันแปลว่า เรากำลังไม่เข้าใจความเสี่ยง และจุดนั้นแหละ เสี่ยงที่สุด …ส่วนใหญ่ที่โดนหลอก แชร์ลูกโซ่ ก็เพราะเหตุผลนี้


5. ’เวลาเสียหาย อย่าเพิ่งรีบเอาคืน’ …ถ้าเราอยากรีบเอาคืนหลังจากที่เราเสีย ส่วนใหญ่จะทำให้เราเสียหนักขึ้น …หลักๆ เพราะ เราเสี่ยงมากขึ้น และ เราก็ประมาท (คล้ายๆ กับ อย่าพูดอะไรเวลาโมโห เพราะ เรามักโชว์โง่ และทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปอีก) 


6. ‘การกู้ หรือการ Leverage ทำได้เวลาเราได้เปรียบเท่านั้น’ …เวลาเราเสียเปรียบ การ Leverage จะยิ่งทำให้ Double Down คือ ย่ำแย่ลงไปอีก …ถ้าให้ดีที่สุด อย่ากู้เลย


7. ‘ต้องมีเงินก๊อกสุดท้ายเสมอ ไม่ว่าสถานการณ์จะแย่แค่ไหนก็ตาม‘ …ถ้าเทียบกับรถ ก็คือ ไม่เคยปล่อยให้น้ำมันแห้งถัง 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

7 ข้อ ทำไมเวลานี้สินทรัพย์ต่างๆ ถึงราคาลง …แล้วมันจะขึ้นเมื่อไหร่ ?

 7 ข้อ ทำไมเวลานี้สินทรัพย์ต่างๆ ถึงราคาลง …แล้วมันจะขึ้นเมื่อไหร่ ?


1. ’ราคาสินทรัพย์ขึ้นอยู่กับ Demand & Supply’ …ถ้ามีคนต้องการซื้อเยอะ Demand เยอะ แต่ของน้อย ราคาก็จะขึ้นเหมือนนาฬิกาหรูก่อนหน้านี้


2. ’การขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา ทำให้เงินไหลไปที่อเมริกา’ ….พอดอกเบี้ยอเมริกาสูง นักลงทุนทั่วโลกก็โยกเงินกลับอเมริกา ไปรับดอกเบี้ยสูงๆ ความเสี่ยงต่ำ ..ประเทศอื่นจึงเกิดภาวะ เงินไหลออก บวกกับ ค่าเงินอ่อน


3. ’พอเงินไหลออก ค่าเงินก็อ่อน …คราวนี้ของนำเข้ายิ่งแพง’ …ค่าเงินก็ขึ้นกับ Demand & Supply เหมือนกัน ถ้าประเทศไหนเงินออกเยอะๆ ค่าเงินก็จะอ่อน …คราวนี้ของนำเข้าก็ยิ่งแพง …ใครพึ่งการนำเข้าเยอะๆ ก็จะซวย กดดันค่าครองชีพแพงเข้าไปอีก


4. ’พอราคาสินทรัพย์ลง คนจะแห่ขายซ้ำ‘ …หลักๆ มาจากหนึ่ง คนเงินหมด(ขาดสภาพคล่อง) ก็ขายออกมา …สอง คนกลัวราคาลงก็ขายเหมือนกัน ยิ่งซ้ำให้ราคาลงหนัก เป็น Price Spiral ‘ลงหนักเลย!!’ 


5. ’คนจะซื้อก็ยังไม่ซื้อ เพราะอยากให้ราคาถูกที่สุดก่อน‘ …จริงๆ คนมีเงินเขาก็รอซื้อ แต่ทุกคนก็ รอ รอ รอ …ทำให้ Demand ในการซื้อก็ไม่มี เกิดภาวะ Volume การซื้อขายหาย ….นี่คือ สูญญากาศขาลง ’ความเบา‘


6. ’ความเบา จะเกิด 2 ช่วง คือ Bubble กับ Crash’ …ช่วงเบาคือ ช่วงราคาไม่สะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง …อย่างในขาลง ราคาก็จะลงต่ำกว่าความเป็นจริง จึงเป็นโอกาสให้สามารถซื้อของได้ถูกกว่าพื้นฐาน


7. ’ถ้าอเมริกาลดดอกเบี้ย ภาวะต่างๆ ก็จะเริ่มสวนทาง‘ …คราวนี้เงินก็จะไหลออกจากอเมริกา …ค่าเงินดอลลาร์ก็จะอ่อนลง …เงินก็จะกระโดดไปหาสินทรัพย์ใหม่ลงแทน


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

7 เรื่อง ที่ทำให้หุ้นไทยย่ำแย่ถึงปัจจุบัน

 7 เรื่อง ที่ทำให้หุ้นไทยย่ำแย่ถึงปัจจุบัน


1. เจ้าของเอาหุ้นตัวเองไปตึ้ง …คือเอาหุ้นไปค้ำประกัน แล้วเอาเงินที่กู้ออกมา ส่วนใหญ่ใช้ในทางที่ไม่ส่งผลดีต่อหุ้น


2. ส่วนต่างดอกเบี้ยอเมริกากับเรา …อเมริกาขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ถึงตอนนี้ก็มากกว่าเราประมาณ 2 เท่า …ทำให้เงินไหลไป US …เงินบาทก็อ่อน …เงินทุนก็ไหลออกจากบ้านเรา


3. หุ้นบ้านเราเน้น Money Game มากเกินไป …ผู้บริหารสนใจราคาหุ้นมากกว่าธุรกิจจริงๆ …ทำให้หุ้นขาด Growth ที่แท้จริงในระยะยาว


4. ธุรกิจออกนอกความถนัด …ทุกวันนี้หลายๆ ธุรกิจวิ่งตามกระแสมากเกินไป ไปทำธุรกิจที่ไม่ถนัดหรือไม่เกี่ยวข้อง เลยเสียหาย


5. นักลงทุนเล่นสั้นมากเกิน …ทุกวันนี้นักลงทุนระยะยาวหายไปเรื่อยๆ ก็ทำให้ตลาดขาดสมดุลย์ …ส่งผลให้ราคาหุ้นผันผวนมากขึ้น แกว่งขึ้นว่างั้น


6. เครื่องมือในการ Leverage มีเพิ่มขึ้น …จริงๆ ทุกอย่างมี 2 ด้าน การมีเครื่องมือ Leverage เล่นได้ทั้งขาขึ้นขาลง และ ใช้เงินน้อยเล่นเงินใหญ่ มันแสดงว่าตลาดเราพัฒนาแล้ว แต่อีกมุมคือ เวลาขาลงมันเลยมีการ Short เละเทะแบบปัจจุบัน


7. การตกแต่งบัญชี …อันนี้ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น …ถ้าไม่มีการลงโทษที่รุนแรง ปัญหาก็คงไม่สามารถแก้ได้


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

6 หลัก ลงทุนที่ช่วยให้เรารวยได้เร็วและง่ายขึ้น ณ บัดนาว !!

 6 หลัก ลงทุนที่ช่วยให้เรารวยได้เร็วและง่ายขึ้น ณ บัดนาว !!


1. ‘ลงทุนในสินทรัพย์ด้วยเงินส่วนใหญ่’ …แทบจะตลอดเวลา เพราะ เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะขึ้น แต่ถ้ามันขึ้นต้องมีเราว่างั้น (All-in)


2. ‘จังหวะซื้อสำคัญกว่าจังหวะขาย‘ …ถ้าเรารวยแล้ว จังหวะขายสำคัญ …แต่ถ้าเรากำลังจะสร้างตัว จังหวะซื้อสำคัญกว่า (Entry) 


3. ‘แยกแยะให้ออกระหว่างช่วงฮิตกับช่วงไม่ฮิต’ …การซื้อที่ดี คือ ช่วงไม่ฮิต จะได้ราคาถูกกว่าเสมอ (Bottom Fishing)


4. ‘บริหารสภาพคล่อง ห้ามช็อตเด็ดขาด‘ …ช่วงที่เราจะต้องขายของดี ในราคาถูก ก็เพราะ เราขาดสภาพคล่อง …ต้องบริหารให้เงินไม่ขาดมือ (Liquidity is King)


5. ‘โอกาสอยู่ในความไม่ชัวร์ ไม่ใช่สิ่งที่ชัวร์‘ …ถ้าเราหวังผลตอบแทนเยอะ มันจะมาจากสิ่งที่ยังไม่ชัวร์ …รอบแรก ต้นรอบ ดูเสี่ยงเสมอ แต่ผลตอบแทนเยอะ


6. ’ห้ามตาย และ ห้ามเลิก ลงทุน’ …พวกที่ตายคือ Over Leverage แล้วดันไม่มีจุด Cut Loss …ดังนั้น บริหารให้ดี …ถ้าแพ้ ก็ห้ามเลิก ต้องสู้ต่อ


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

7 ข้อ ควรรู้ในเรื่อง Money Game กับ Fundamental

 7 ข้อ ควรรู้ในเรื่อง Money Game กับ Fundamental 


1. ‘หุ้นที่เน้น Money Game มักเป็นหุ้นที่พื้นฐานคลุมเครือ’ …ถ้าธุรกิจไม่ได้ดี ก็มีแนวโน้มที่เจ้าของ สนใจการหาเงินจากหุ้น มากกว่าทำธุรกิจ


2. ’ธุรกิจไม่มีการเติบโต’ …ถ้าธุรกิจไม่โต หรือ อยู่ในอุตสาหกรรมที่โตยาก ก็มีแนวโน้มที่เจ้าของจะไปเน้น Money Game …ขยายมั่ว ซื้อมั่ว ในสิ่งที่ไม่ถนัด อาจนำไปสู่หายนะธุรกิจ


3. ‘กู้จากแหล่งเงินทุน ไม่ปกติเยอะ‘ …กู้จากสถาบันต่างชาติ กู้จากรายย่อย โดยใช้หุ้นมาค้ำประกัน …ตรงนี้เป็นการเพิ่มความเสี่ยง หากบริหารไม่ดี (เงินง่าย ก็พังง่าย)


4. ‘เจ้าของสนใจราคาหุ้นมากเกินไป’ …อาจใช้กลไกการ Leverage ในแบบต่างๆ เพื่อพยุงหุ้น หรือ แม้กระทั่งลากราคาหุ้นตัวเอง


5. ‘ปันผลน้อยเกินไป‘ …จริงๆ ถ้าเจ้าของถือเยอะๆ เขาย่อมอยากปันผลสูงๆ …แต่ถ้าเจ้าของถือน้อย เขาอาจเอาเงินไปทำอย่างอื่น


6. ‘Money Game มักเกิดในจุดที่ตลาดใกล้เปลี่ยนทิศทาง’ …ก็คือช่วง ตลาด Bubble ก็จะมีการใช้ Money Game ลากหุ้นขึ้นไปเยอะๆ …หรือ ช่วงตลาดแย่มากๆ ก็จะมีการทุบหุ้น เหยียบซ้ำ 


7. ‘ผู้ชนะ คือ คนที่เรียนรู้ และอยู่ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง’ …สุดท้ายตลาดย่อมวิ่งเป็นวัฏจักร การเรียนรู้ และ สังเกต จะทำให้เห็นโอกาส …ส่วนความอึด จะช่วยให้เรารวย


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

7 เรื่องแปลก ที่เกิดกับตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ จาก Short Sell สู่ Force Sell

 7 เรื่องแปลก ที่เกิดกับตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ จาก Short Sell สู่ Force Sell


1. ‘การที่เจ้าของและรายใหญ่เอาหุ้นไปตึ้ง‘ …หุ้นก็เหมือนสินทรัพย์ประเภทนึง ที่เจ้าของสามารถเอาไปค้ำประกันเงินกู้


2. ’ราคาหุ้นลงหนัก แต่เจ้าของไม่สามารถหาหลักประกันมาเพิ่ม‘ …เพราะเจ้าของอาจเอาเงินที่กู้ไปลงทุนในสิ่งที่ไม่มีสภาพคล่อง จึงไม่สามารถขายเอาเงินมาคืน …นี่คือ ’จุดเป้าหมายของการโดนโจมตี Short Sell เพื่อทำกำไรขาลง‘ 


3. ’นักลงทุนกลัว จึงไม่มีใครกล้าซื้อหุ้นแม้จะราคาถูก‘ …ใช่!! ภาวะ Volume หาย …ก็เหมือน ’หุ้นเบา ในขาลง‘ …คือ ขายหุ้นไม่เยอะ แต่สามารถทำให้ราคาลงหนักได้ (ลักษณะแบบนี้จะเกิดเวลา Volume การซื้อขายหายไป ตอนตลาดขาดความเชื่อมั่น)


4. ‘เกิดเป็นภาวะลูกโซ่ สำหรับการโจมตีหุ้น’ …ภาวะแบบนี้ ทำให้เกิดการโจมตีหุ้นได้ง่ายๆ …เป็นโอกาสสำหรับคนที่ผสมโรง ทำกำไรขาลง


5. ’ความเสี่ยงในการโดน Force sell’ …ถ้าราคาหุ้นลงถึงจุดนึง คนปล่อยกู้อาจทำการ Force Sell หุ้นที่เจ้าของเอามาค้ำประกัน ทำให้หุ้นลงเละเทะ เพราะ เขาขายหุ้นทิ้งทุกราคาเพื่อเอาเงินไปล้างหนี้


6. ’เจ้าของเสียหุ้นมหาศาล จนอาจเสียความเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่‘ …จุดนี้อาจทำให้เจ้าของทิ้งบริษัท หากธุรกิจไม่ได้ดีจริง …งั้นก็ทิ้งบริษัทไปเลย


7. (สรุป) : ‘จุดนี้เป็นโอกาสหรือวิกฤต ขึ้นกับพื้นฐานบริษัท‘ …หากบริษัทดี การที่ราคาลงแบบนี้ ทำให้สามารถซื้อได้ถูกสุดๆ …แต่ถ้าพื้นฐานไม่ดี หุ้นอาจพังไปเลย เพราะ เจ้าของก็ทิ้งหุ้น หนีไปเลย


โหดจริง


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม




บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ