‘อ่านหนังสือ เล่มเดียวกัน แต่ทำไม ได้ประโยชน์ ..ได้ความรู้ไม่เหมือนกัน ?’
ทำไม คนเรา เรียนจากสถาบันเดียวกัน อาจารย์ก็คนเดียวกัน แต่ทำไม ประสบความสำเร็จในชีวิตต่างกัน ?
ก็เหมือน คนเราเจอประสบการณ์เดียวกัน แต่คนนึงอาจตีความว่า ‘ความผิดพลาด คือ โอกาสเรียนรู้ เพื่อการเติบโตทางความคิดที่มากขึ้น’ ..อีกคน อาจจะตีความว่า ‘สิ่งที่ทำมา นำไปสู่ความล้มเหลว เข็ดขยาดไม่กล้า ทำอะไรใหม่ๆ อีก’
ใช่!! สิ่งที่ทำให้แต่ละคน เรียนรู้ต่างกัน ก็คือ ‘การตีความ’
องค์ประกอบของการตีความมีดังนี้
1. ‘ทัศนคติ’ ...คนคิดบวก กับ คนคิดลบ จะตีความต่างกันอย่างสิ้นเชิง ...คนคิดบวก เจออะไร ก็จะตีความเป็นการเรียนรู้ แล้วพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้นเสมอ
...มีตัวอย่าง มากมาย สำหรับ คนที่ยิ้มได้ ทุกครั้งที่ล้มเหลว ล้วนสำเร็จยิ่งใหญ่ ไปไกลในชีวิตทุกคน
...คนคิดบวก ยังไง ก็ประสบความสำเร็จมากกว่า คนคิดลบ
...แค่คิดบวก ก็การันตีความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอนแล้ว !!
2. ‘ประสบการณ์’ ...คนที่ผ่านประสบการณ์มากกว่า ล้มเหลวเยอะกว่า เจอปัญหาชีวิตมามากกว่า ก็จะมีจิตใจที่เปิดกว้างมากกว่า ดังคำพูดที่ว่า ‘ยิ่งเจอความผิดพลาดมากเท่าไหร่ ใจเราก็ยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้น’
...ตัวอย่าง เจ้าของ Start up ชื่อก้องโลกอย่าง Alibaba ที่สร้างธุรกิจ จากสิ่งที่เป็นไม่ได้
..เริ่มจากทุกข้อจำกัด
..เงินน้อย ไม่มีคน ไม่มีประสบการณ์ อยู่ในประเทศที่ไม่เอื้อในการแข่งขัน
..ไม่มีเส้นสาย
...แล้วก็ไม่มีอะไรเลย
...Jack Ma เป็นคนนึง ที่เรียนรู้จากทุกความล้มเหลว จากชีวิตที่ยากจนสุดๆ
..เก็บเกี่ยวความผิดพลาด แล้วเปลี่ยนเป็นองค์ความรู้ จนวันนี้ กลายเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศจีน
...ฝึกภาษาอังกฤษ จากการยอมทำงานฟรี เป็นไกด์ได้คุยกับฝรั่ง
...เห็นความสำคัญของภาษาแล้วใช้จุดนั้นสร้างโอกาส
...ไม่ย่อท้อแม้ถูก ดูถูก และ ปฏิเสธ เพียงเพราะเขาหน้าตาไม่ดี
...เริ่มธุรกิจออนไลน์ ตั้งแต่จีนยังไม่เปิดอินเตอร์เน็ต
...กล้าขอทุนจากต่างประเทศ
....ยุคนี้ สรุปได้เลย ใครมีประสบการณ์ความล้มเหลว แล้วลุกขึ้นเดินต่อ ที่มากกว่า ย่อมสำเร็จไกลกว่า
3. ‘ความรู้’ ...ระดับความรู้ ไม่เท่ากัน จะตีความต่างกัน ...ถ้าความรู้เยอะ ก็จะใช้เหตุผลในการตีความ มากกว่าใช้ความรู้สึก
...ตัวอย่าง คนที่ไม่ค่อยพัฒนาความรู้ จะมองโลกแคบ และ ใช้อารมณ์นำเหตุผล พาตัวเองสู่หายนะได้เรื่อยๆ
...ที่พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเรียนสูง เพราะ อย่างน้อยถึงทำอะไรไม่ได้ ก็ยังมีใบปริญญาไว้สมัครงาน ไม่อดตาย
...ส่วนในเรื่องของความรู้ มันคือ สิ่งที่แต่ละคนขวนขวายเพิ่มเติม เพื่อยกระดับทั้งจิตใจ และ สมอง
...ก็ความรู้นี่แหละ ที่ทำให้ มนุษย์เป็น สัตว์ ที่สามารถครอบครองโลกใบนี้อย่างในปัจจุบัน
4. ‘ความเชื่อ’ ...คนเราจะตีความในแบบที่เราเชื่อ เช่น ถ้าเราเชื่อว่า ชีวิตเราถูกกำหนดไว้แล้ว เราก็จะยอมรับในโชคชะตา
...แต่ถ้าเราเชื่อว่า ตัวเราเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิต ก็จะมักเป็นคนที่สู้ยิบตา พยายามจนกว่าจะทำให้ได้
...ตัวอย่าง คุณ จูน แห่ง WHA เชื่อว่า ‘ถ้าเรื่องนี้ฉันทำไม่ได้ ก็คงไม่มีใครทำได้ ดังนั้น ฉันต้องทำให้ได้’
...นี่คือ แนวคิด ที่พาแม่ทัพหญิง จากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ ให้เป็นอาณาจักรแสนล้านอย่าง WHA ในเจนเนอเรชั่นเดียว
...
...ทัศนคติ / ประสบการณ์ / ความรู้ และ ความเชื่อ คือ พื้นฐานของการตีความ และ การมองโลก
ความสำเร็จ คือ ผลลัพธ์ หรือ กระจกสะท้อน มุมมองของเราที่มีต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว
ถ้าวันนี้ชีวิตเราดีขึ้น ...จงขอบคุณ ทัศนคติ , ประสบการณ์ , ความรู้ และ ความเชื่อ นั่นเอง
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม