6 ‘ปัญหาของการไม่กล้าเสี่ยง’
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ‘ไม่กล้าเสี่ยง’ มันก็ดี ? ..แล้วมันเป็นปัญหาตรงไหน
1. ‘เราวนอยู่กับโอกาสที่ผลตอบแทนต่ำ’ …ปกติอยู่แล้วอะไรที่ชัวร์ มันแทบไม่ทีผลตอบแทน เหมือนเอาเงินไปฝากธนาคารแหละ …แต่ตลกร้ายคือ ขนาดเราเอาเงินฝากธนาคารเฉยๆ วันนี้ก็เสี่ยงเงินเฟ้อ เงินด้อยค่า
(ในเมื่ออยู่เฉยๆ ก็เสี่ยง แล้วทำไมจะไม่เสี่ยงล่ะ ?)
2. ‘ความเสี่ยง จริงๆ ก็คือ สิ่งที่คนไม่เข้าใจ เขาก็เลยบอกว่ามันเสี่ยง’ …ใช่!! ก็แปลว่า สิ่งที่คนไม่เข้าใจบางอย่าง จริงๆ มันดี ก็เลยทำให้มีคนรวยมหาศาลจากบางอย่างที่คนอื่นไม่เข้าใจนั่นแหละ
(อ๋อ!! ที่เขาพูดกันว่า ความรู้มันลดความเสี่ยง มันคือเรื่องจริง)
3. ‘ความเสี่ยง มันมันส์’ …มีคนถามว่าทำไมผมไม่ชอบเล่นการพนัน ไม่ซื้อหวย ไม่เสี่ยงโชคอะไรเลย …ผมก็ตอบไปว่า ผมเสี่ยงโชคอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ด้วยเงินทั้งหมดที่ผมมี กับหุ้นที่คนอื่นไม่เข้าใจ …เวลาชนะ มันมันส์ ไม่ต่างจากการถูกหวยเลย !!
(ไม่ใช่ไม่ชอบการพนัน แต่ชีวิตกรูคือ เดิมพันทั้งชีวิตอยู่แล้ว)
4. ‘เมื่อคุณเริ่มได้เงินจากความเสี่ยง คุณจะสามารถเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น’ …ในโลกมีคน 2 ประเภท หนึ่ง คือ หาเงินจากความสามารถและเวลาของตัวเองไปแลกมา กับ สอง คือ หาเงินจากเอาเงินไปต่อ ไปต่อเงินเรื่อยๆ …ใช่!! ผมเริ่มจากแบบแรก แต่พอผมเริ่มมีทุน ผมก็เอาเงินไปต่อเงิน เสี่ยงมาตลอด …วันนี้พอมีฐานทุนใหญ่ขึ้น ก็เสี่ยงได้เพิ่มขึ้นอีก แต่กลับรู้สึกว่า ไม่ได้เสี่ยงอะไร เพราะด้วย ‘ความน่าจะเป็น’ Probability มันได้กระจายความเสี่ยงออกไปจนกลายเป็นความเสี่ยงที่สาเหตุสมผลไปเอง
(คนที่เสี่ยงแล้วรวยได้เปรียบ ตรงที่เขาสามารถลงทุนเสี่ยงๆ ได้เพิ่ม และจุดนั้นแหละ คือจุดที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่างไม่สมเหตุสมผล ที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า รวยไม่รู้เรื่อง!!)
5. ‘พอการลงทุนมันถึงจุดที่เริ่มไม่เสี่ยง ผมก็จะเปลี่ยนไปหาความเสี่ยงใหม่ๆ’ …มันก็เหมือน นักสำรวจไหม …เราออกไปหาสิ่งที่คนอื่นเขายังไม่เห็น ยังไม่มอง แต่พอคนมาสนใจเยอะๆ …เราก็ไปที่อื่นต่อ
6. ‘สุดท้าย เราก็ไม่จำเป็นต้องหยุดเสี่ยง’ …มีคนถามผมว่า ถ้าเราเสี่ยงไปถึงจุดนึง เราควรเลิก ล้างมือในอ่างทองคำไหม ? (ประมาณว่า รวยแล้วเลิก) …เอาตรงๆ ถ้าคิดแบบ ‘รวยแล้วเลิก’ แปลว่า เราเป็นนักพนันมือใหม่ ที่เพิ่งรู้จักบ่อน
…เพราะถ้าคุณเข้าใจหลักการของ ‘ทุนนิยม’ (Capitalism) …เราก็จะตอบได้เองเลยว่า ‘ชีวิตและความมั่งคั่ง มันคือการอยู่กับความเสี่ยง และ บริหารจัดการมันอย่างมีชั้นเชิง แค่นั้นแหละ’
ถ้าคิดจะขึ้นหลังเสือ เราจะไม่หลงจากหลังเสือ …เอ่อ !! เพราะเราคือ เห็บเสือ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม