โหด และ อบอุ่น ที่สุดเท่าที่เคยจับปากกา !!
วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557
เขียนจากใจ ..."คิดรอบบ้าน"
โหด และ อบอุ่น ที่สุดเท่าที่เคยจับปากกา !!
เปิดรับสมัครแล้ว The Stock Master ปี 3 ..ด่วน!!
วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557
คิดรอบบ้าน ..จุดเชื่อมระหว่างโอกาสกับตัวเรา
วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557
หนังสือ คิดรอบบ้าน
หนังสือ "คิดรอบบ้าน" เล่มนี้ เกิดขึ้นจากส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง นักคิดรอบด้านที่เจนจัดและตรงไปตรงมา อย่าง "คุณแพ้ท-ภาววิทย์ กลิ่นประทุม" ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองในแวดวงธุรกิจและการลงทุน และ ผู้เชี่ยวชาญด้านศักยภาพมนุษย์ อย่าง "ดร.พงษ์รพี บูรณสมภพ" หรือที่รู้จักกันในนาม "ดร.ต้อง The Filter" ซึ่งทั้งสองท่านได้ร่วมกันกระเทาะเปลือกปัญหาของครอบครัวและสังคมไทยได้อย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งได้ชี้แนะยุทธวิธีในการดำเนินชีวิตอย่างมี "ความสุขแบบรอบด้าน" ซึ่งทำได้จริงในชีวิตประจำวัน
ผู้เขียนทั้งสองท่านได้มุ่งเน้นแนะนำตั้งแต่การ "ตั้งธง" กำหนดเป้าหมายของชีวิตอย่างถูกจุด และชี้ให้เห็นว่าจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ จริงๆ แล้วนั้นอยู่ที่สิ่งไหน ไม่เพียงเท่านั้น ยังชี้แจงแถลงไขให้เราตระหนักถึงความเข้าใจผิดๆ ที่กลายเป็นรูปแบบของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยให้เราทุกคนได้สร้างรากฐานที่มั่นคงแข็งแกร่ง และสามารถปักธงชัยได้ถูกตำแหน่ง ทำให้ทุกก้าวย่างที่เดินนั้นไม่หลงทาง และสามารถคว้าธงชัยมาครองได้อย่างไม่ยากเย็น
ตัวอย่าง
- ความเดิม : เกริ่นจากหนังสือ "แกะรอยหยักชีวิต : Filter ความคิด"
- ฟิลเตอร์บ้าน
- หน้าบ้าน : "ประเทศไทย" บ้านหลังใหญ่ของเรา
- หลังบ้าน : ครอบครัวของเรา
- The Fabric of Thai Society
- 14 ความปวดกบาล เสริมความเข้าใจ พ่อ-แม่-ลูก ทั้ง People Solutions และ Money Solutions
...
วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557
คิดแบบภาววิทย์
"คิดแบบภาววิทย์" ..คิดแต่เรื่องรวย ..เออ น่าคิด แล้วทำไมคนส่วนใหญ่ก็คิดจะรวย แต่ไม่รวย!!
-- เพราะไม่คิดมันก็ไม่รวยแน่นอน
..คุณคิดว่าคิดรวยคือความโลภนั่นผิดโคตรๆ
..คนคิดโลภอยากรวยเร็ว ไม่เห็นรวยซักคน คิดโกงคนอื่นสุดท้ายติดคุก คิดถูกหวย ไม่เห็นเคยถูก หรือ ถูกรางวัลที่หนึ่ง สุดท้ายก็กลับมาจน
..เคยสังเกตไหมว่าคนที่คิดแล้วรวย ไม่ใช่การคิดเอาเปรียบคนอื่น แต่เป็นการคิดสร้างประโยชน์ให้คนอื่นต่างหาก
...ใช่!! "คิดอยากรวย" ไม่มีทางรวย เพราะมันคิดแต่พึ่งโชคชะตา รอว่าเมื่อไหร่ฉันจะได้จะมีแบบคนรวยบ้าง
...การ "คิดรวย" ที่ถูกต้องคือ "การให้ การสร้าง การทำประโยชน์"
-- คนที่คิดที่จะทำให้คนอื่นสมหวังและได้ในสิ่งที่เขาต้องการ คนนั้นคือคนรวยแน่นอน เช่น เจ้าของร้านอาหารคิดทำให้คนอิ่มและมีความสุข ยิ่งทำได้มากยิ่งประสบความสำเร็จมาก , เจ้าของรถอยากให้คนถึงจุดหมายเร็วและปลอดภัยที่สุด , เจ้าของหนังสืออยากให้คนอ่านเปลี่ยนความคิดแล้วประสบความสำเร็จมากที่สุด , เจ้าของบริษัทละครอยากให้คนดูสนุกที่สุด , เจ้าของโรงแรมอยากให้คนพักได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด
-- คนทั่วไป อยากให้เจ้านายเขาคนเดียวพอใจกับงานที่รับมา การทำให้คนเดียวพอใจ มีความสุข มันน้อยไป มันสร้างประโยชน์น้อยไป มันเลยยากที่จะรวยไง
...คิดให้กว้างกว่านั้น สร้างประโยชน์ให้คนมากกว่านั้น แล้วความรวยจะเข้ามาเอง ...ยิ่งให้ ยิ่งได้ นั่นแหละ เคล็ดลับ คิดแบบภาววิทย์ !!
#คิดแบบภาววิทย์ (หนังสือ คิดแบบภาววิทย์ ตามร้านหนังสือชั้นนำวันนี้จ๊าา..555 คิดไป ขำไป รวยไป ก็สนุกท้าทายดี)
วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
เคล็ดลับเรื่องการมองเวลาของชาวยิว ที่ทำให้เขาเป็นอัจฉริยะ !!
: ภาววิทย์ กลิ่นประทุม # ไม่ต้องเก่งที่สุด แต่ขอดีที่สุดในจุดที่เลือก
วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
ปักธงชีวิตให้ถูกก่อนเดินทาง !!
วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
ใครตั้งธงเรื่องเงินผิด จะเครียดแล้วหาเงินได้น้อย ..ตั้งธงถูก ชิว แล้ว รวยเร็ว ..555
อย่าตั้ง "ธง" ชีวิตสร้างบ้านให้แต่คนใช้อยู่ ..มันเครียดและเหนื่อย !!
: ภาววิทย์ กลิ่นประทุม # ไม่ต้องเก่งที่สุด แต่ขอดีที่สุดในจุดที่เลือกยืน
ผมเก่งสุด แต่ทำไมทำงานไม่รุ่งสักที ??
วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
แรงบันดาลใจจากการทำหนังสือ แกะรอยหยักชีวิต Filter ความคิด ...มันเริ่มที่ปัญหาของผมนี่แหละ ?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ผมเขียนหนังสือ แกะรอยหยักชีวิต Filter ความคิดขึ้นมาทำไม ...มันเหมือนไม่ใช่แนวภาววิทย์เลย ...แนวภาววิทย์ต้อง Money Machine มนุษย์หน้าเงินที่มองเงินเป็นพระเจ้าแล้วทำทุกอย่างเพื่อเงินถึงจะตรงแนว ...ใช่!! สารภาพเลยว่า ผมเริ่มรู้สึกเครียดกับสิ่งที่ทำ งานที่ทำ หงุดหงิดคนรอบๆข้าง -- "ผมเป็นบ้าอะไรนี่ ..ทำงานหนักมาก แต่มันเครียดขึ้นเรื่อยๆ มีปัญหากับทุกๆคน ทะเลาะไปหมด ...ทำไมทุกคนมันแย่จังวะ ?"
จนในที่สุดพี่ที่สนิทคนนึง ก็แนะนำให้ผมไปพบกับ ดร.ต้อง (ดร.พงษ์รพี บูรณสมภพ) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ เรื่องของ Life Enrichment ..ตอนแรกผมก็บอกว่า "ไร้สาระน่า ..ผมไม่เห็นต้องไปคุยกับใครเลย ชีวิตผม ผมเข้าใจที่สุด" ...แต่ในที่สุดผมก็ไปเจอ ดร.ต้อง ...ผมท้าทาย ดร.ต้องว่า "พี่ต้อง ..ไหนพี่บอกผมซิว่า ผมต้องการอะไร ผมมีชีวิตไปเพื่ออะไร อะไรคือ แรงจูงใจที่ทำให้ชีวิตผมมีความสุข ...คือ ผมอยากจะรู้ว่า อะไร Drive ผมให้ทำงาน ...แล้วความเครียดผมเกิดจากอะไร ...อะไรที่จะเติมเต็มความสุขในชีวิตผม ...อะไรที่จะเปลี่ยนคนรอบข้างให้ได้ดั่งใจ ?????" ...ตูม!! ชัดเข้าไป ท้าทาย ดร.ต้อง ..."ไหนลองดิ มั่วอะเปล่า (ผมคิดในใจ)"
หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกัน โดยดร.ต้องให้ผมเล่าชีวิตให้เขาฟัง ...ผ่านไป 1 ชั่วโมง ดร.ต้อง เริ่มเขียนชีวิตผมออกมาเป็นแผนภูมิ ...แล้วเริ่มค้นหาแรงจูงใจในเรื่องต่างๆ ของชีวิต ...(คอร์สนี้เราคุยกัน 10 วัน วันละ 2 ชั่วโมงรวมเป็น 20 ชั่วโมง) ...ดร.ต้องเริ่ม จุดประเด็นอย่างนึงออกมาในเรื่องของ Money Machine .."นิยามชีวิตคุณแพ้ท ก็คือ กระสวยที่พุ่งไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายกระสวยนี้จะไหม้ไปในที่สุด ...คุณแพ้ทต้องการแค่ประสบความสำเร็จ ติดอยู่กับ Law of Success ที่ต้องการจะสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ คำถามที่อยู่ในหัวตลอดคือ What's Next ? ..วันนี้สำเร็จแล้วอะไรต่อ ...คนเหล่านี้ไม่แปลกที่ไม่ต้องดูหมอก็รู้ว่ารวยแน่ ... แต่!! โคตรเครียด และ สุดท้ายจะเครียดจนไม่มีใคร เหมือนกระสวยน่ะ ชีวิตพุ่ง แต่ทำลายตัวเองในที่สุด ...คุณจะตายคนเดียว เพราะไม่มีใครที่รักคุณจริงๆเลย เพราะคุณไม่เคยรักใคร แม้กระทั่งตัวเอง ...ใช่หรือเปล่าคุณแพ้ท?" ...เจสสสส แรงสัดๆ!!!
ผมอึ้งอยู่พอสมควร "ก็ใช่นะ ...วันนี้ก็เครียดนะ คนรอบข้างก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า เราจะทำงานหนักไปขนาดนี้ทำไม ?" ...ดร.ต้อง ก็บอกว่า คุณแพ้ทเก่งมากในเรื่องของ Law Of Success และ ก็ Law of Attraction คือ การบริหารเสน่ห์ ...และสังเกตไหมว่า คนที่เก่งเรื่อง Law of Attraction มีเสน่ห์มีคนรักทั้งบ้านทั้งเมืองแบบดารา หรือ คนที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ จะมีชีวิตครอบครัวที่พัง ..ตัวเองไปทางนึง ภรรยาไปอีกทาง ลูกก็ขาดความอบอุ่น แล้วไปอีกทาง ...ยิ่งสำเร็จ ยิ่งมีเสน่ห์ แต่ยิ่งเหงา และ อ้างว้างขึ้นเรื่อยๆ ...สุดท้าย เงินจะครอบงำคุณ เพราะ คุณคิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่มีค่า แม้แต่หัวใจคุณเอง !!
"เฮ้ย!! แรงว่ะ ..ดร.ต้องหมายความว่า คนที่เก่งเรื่องของการบริหารความสำเร็จ และ บริหารเสน่ห์ จะมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ แล้วอะไรล่ะที่ต้องแก้ไข"
ดร.ต้องเล่าให้ฟังอีกว่า สังคมไทย ขาด Law of Affection คือ คนเอเชีย เวลาเลี้ยงลูก จะเลี้ยงแบบโหดน่ะ โดยเฉพาะคนจีน ...เรื่องของการกอดลูก แทบจะไม่เคยมี ..มีแต่ไม้เรียว ผิดตี , ลงโทษ ...ซึ่งผลก็คือ เด็กเสพย์ติดการลงโทษ เราจะเรียนรู้ว่า พ่อแม่รักจะต้องตี ...ดังนั้น พฤติกรรมบางอย่างจะส่งผลให้คนเหล่านี้ ชอบการลงโทษ ..เออ เดี๋ยวนะ "ไม่ใช่แนว ฟาดแซ่ เอาเทียนลนนะ ..ฮ่า ฮ่า"
เรื่องเสพย์ติดการลงโทษ มันเป็นผลถึง การเลือกคนที่คบ เลือกงานที่ทำ เลือกคู่ชีวิต ..พูดง่ายๆ ว่า Mindset ของเราจะเลือกสิ่งที่เข้ามากระตุ้นตัวเรา ให้มองแต่เพียงเรื่องของ ความสำเร็จและเงิน ..ซึ่งไม่ได้ผิดนะ เพราะคนเหล่านี้ประสบความสำเร็จสูง เนื่องจากแรง Drive เหมือนกระสวยอวกาศ ..แต่ปัญหาคือ กลับมาที่ What' Next ? คำถามนี้ยาก เพราะคิดดีๆ ใครจะสร้างผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีลด ..มันเครียดนะ ถ้าเราตั้งว่า เราต้องทำให้ดีขึ้น พอดีขึ้นแล้ว ก็ดีขึ้นไปอีก ...ถ้ามองอีกมุม คือ ความสุขมันกลายเป็นการไต่เต้าความสำเร็จเพียงอย่างเดียว กลายเป็นสังคมทุนนิยมที่ทุกคนเหยียบหัวกันขึ้น จนลืมไปว่า แล้วขึ้นไปเพื่ออะไร ?
จุดนี้มันย้อนกลับมาที่ความหมายชีวิต ว่า ตกลงน่ะ อะไรคือ ความสุขในชีวิตคุณ ? ...เงิน รึเปล่า ? ...แน่นอนคนส่วนใหญ่จะบอกว่าเงิน แต่ปัญหาคือ เงินจริงๆ ไม่ได้มีความหมายในตัวของมัน ..คนเราทุกคนหาเงินเพื่อเอาเงินมาซื้อบางอย่าง ...เช่น บางคนหาเงินมาซื้อความไม่มีในอดีต , บางคนมาซื้อความรักจากคนรอบๆข้าง , บางคนหาเงินมาเพื่อลงโทษตัวเอง , บางคนหาเงินมาเป็นเกราะระหว่างตัวเองและพ่อแม่ ...คือ จริงๆ มันต้อง นิยามคุณค่าของตัวเราเองก่อนที่จะออกไปหาเงินมาให้ได้ก่อนว่า
เป้าหมาย หรือ ธง ของชีวิต คืออะไร ? ..อะไรคือ ความสุขของเรา ...คุณรู้ไหมว่า วันนี้ธงเดียวของระบบทุนนิยมคือ เงิน ซึ่งไม่ผิดนะ ทุกคนต้องหาเงินให้พอใช้ แต่ที่ผิดคือ การตั้ง ธง และ การอธิบายความหมายของ ธงที่เราตั้ง เพราะ สิ่งนี้แหละ จะเป็นตัวกำหนดเลยว่า ชีวิตเราจะมีความสุขได้ไหม ..คนรอบข้างกับเราไปกันได้ไหม ...เพื่อน คนรัก ลูก ทุกอย่างไปกันได้ไหม
เรื่องของการตั้งธงชีวิต มันคือ การกำหนด Mindset ของเรา ซึ่งมีผลต่อทุกอย่าง มีผลต่อนิสัยของเรา มีผลต่อวิธีการทำเงิน มีผลต่อวิธีการทำงาน และ มีผลต่อความสัมพันธ์ การเลือกคู่ครอง การสอนลูก
ทั้งหมด ผมคุยกับ ดร.ต้อง ไป 20 ชั่วโมง ...มันผ่านไปไวมาก ...ผมรู้เลยว่า จริงๆ แล้ว ที่ผมเคยเข้าใจตัวเอง ..."ผมไม่เคยเข้าใจตัวเองเลย" ...หลังจากวันนั้น ผมเริ่มตั้งธงชีวิตของผมใหม่หมดเลยใน 5 เรื่อง ก็คือ เงิน ในความหมายของผมคืออะไร , งานในความหมายของผมคืออะไร , บ้านในความหมายของผม , ความรักในความหมายของผม และ เวลา ในความหมายของผม ...ใช่ครับ !! อันนี้แหละ คือ ที่มาของ "Filter ชีวิต" ที่ผมชวน ดร.ต้อง ให้มาเขียนหนังสือ แกะรอยหยักชีวิต Filter ความคิด ร่วมกับผม เพราะ ผมต้องการถ่ายทอด สิ่งที่ผมเรียนรู้มา แล้วคิดว่ามีประโยชน์
...ลองเอา Filter ความคิด ทั้ง 5 ด้าน "เงิน/งาน/บ้าน/ความรัก/เวลา" ไปลองตั้ง ธง กับชีวิตคุณเองบ้าง ...ความยากคือ แต่ละคน นิยามความสุขไม่เหมือนกัน ...ดังนั้น การตั้งธง ต้องตั้งด้วยตัวเอง โดยอาศัยตัวอย่าง และ Guideline ของแต่ละ Filter เป็นตัวช่วยในการตั้ง Filter ชีวิตของคุณเอง
"ก็ไม่รู้ซินะ !!" (คำยอดฮิต) ...นั่นแหละที่มาของหนังสือ ฉีกแนวของผมเลย ...มันเป็นการถ่ายทอดจุดเปลี่ยนทางความคิดในห้าเรื่อง ที่เปลี่ยนแล้วจะหาเงินได้มีความสุขมากขึ้น ดังนั้น ไม่ใช่เข้าใจตัวเราแล้วจะจนลง ..ไม่ใช่ !! แต่ยิ่งเข้าใจตัวเอง เข้าใจว่า งานอะไรที่เรารักจริงๆ ที่ขยายคุณค่าในตัวเรา เราจะยิ่งทำอย่างมีความสุขขึ้น ส่งผลให้ผลงานออกมาดี ..เราก็ทำงานเก่งขึ้น และ ได้เงินมากขึ้น ...การแบ่งเวลาที่เราเข้าใจวาระของเวลา จะช่วยให้เรา Focus ในสิ่งจำเป็นในแต่ละช่วงของชีวิต แล้วตัด Noise ต่างๆ ...และ สุดท้ายการเข้าใจความต้องการเรื่องความรัก คุณจะพบว่า จริงๆ คุณต้องการจะได้อะไรจากความสัมพันธ์จริงๆ ซึ่งไม่ใช่การคาดหวังอย่างที่เราเป็นกันอยู่
...ลองดูครับ ลองไปอ่านดู ผมว่ามันเปลี่ยนชีวิตผม และ ผมก็หวังว่า หนังสือเล่มนี้มันจะช่วยเปลี่ยนชีวิตคุณ ไม่ทางใดก็ท่างนึงครับ ...จัดไป !!
วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
สมัยนี้เล่นหุ้นต้องรู้สามสิ่ง ..จึงจะไม่เสียเปรียบ !!
ชีวิตเรา คือ ภาพที่ฉายจาก Projector ที่เรียกว่า 'ความคิด' ..เปลี่ยนซิ แล้วชีวิตจะเปลี่ยน !!
วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
เศรษฐีรุ่นใหม่ มันหน้าตาแบบนี้ คิดเยี่ยงนี้เหรอ ..กรูเอาบ้างดิ !!
วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
Trust = Wealth ..คนที่คนอื่นไว้ใจจึงรวย -- ให้ก่อนรับดิ เป็นคนดีดิมีสัจจะ ..ยุคนี้น่ะคนดีน่ะ รวย !!
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557
คอมเมนต์คมๆ จากป๋ากิ้ง ..ถึงแกะรอยหยักชีวิต Filter ความคิด
ทุกคนย่อมมี ปมชีวิต !!
เมื่อมีปม ก็มีทางเลือกสองทาง คือปล่อยให้เป็นปมต่อไป หรือจะ " แกะ "
ความสำเร็จ หรือ ความล้มเหลว ก็ล้วนมาจากเหตุผลใด เหตุผลหนึ่ง
ความรู้สึกขาดอิสระภาพ ก็เกิดจากปม
การลงทุนก็เช่นกัน …
ผมมีโอกาสได้เห็นหลายๆคนที่เก่งแสนเก่งในด้านความรู้
ไม่ว่าจะแม่นยำในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานแบบปึ๊กๆ
หรือจะเป๊ะในการดูเทคนิคฯ ดูกราฟ
แต่ก็เห็นบ่อยที่คนเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จซักที และนับวันดูยิ่งไกลเป้าหมาย
เหตุผลมันคืออะไร ?
หรือนั่นคือเกิดจากปม ??
" แพ้ท " ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ในฐานะนักเขียนนักลงทุนชื่อดัง มาพร้อมกับ " ดร. ต้อง " ดร. พงษ์รพี บูรณสมภพ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแกะปมชีวิตผู้คน นั่นเป็นความน่าสนใจ
เมื่อนักลงทุนที่ผ่านทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จ มาคุยกับผู้ที่สามารถอธิบายที่มาที่ไปของแต่ละสิ่งที่เป็นต้นเหตุแบบที่เรา อาจจะคิดไม่ถึงในบางครั้ง
ความรวย อาจจะไม่ใช่มาจากเงิน
ความสำเร็จ อาจจะไม่ได้มาจากการดิ้นรนสุดชีวิต
เงิน , บ้าน , งาน และความรัก มันมีอะไรลึกๆซ่อนอยู่แบบที่เราไม่เคยนึกถึง
ก่อนหน้านี้มีเพียงคนจำนวนน้อยเท่านั้น ที่เข้าใจในประเด็นเหล่านี้
แต่หลังจากนี้ไป คนส่วนใหญ่ที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ น่าจะมองเห็นความเป็นจริงที่เมื่อก่อนดูลึกลับเหล่านี้ออก
ด้วยเจตนาที่ดีของ ดร. ต้อง ที่ต้องการถ่ายทอดความรู้อันเป็นประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ จึงเป็นการกำเนิดโปรเจคต์หนังสือเล่มนี้
โดยการร่วมดำเนินเรื่องด้วยภาษาที่สนุกน่าอ่าน ของแพ้ท นักแกะรอยหยักสมอง ที่พลิกบทบาท 180 องศา มาเป็นแกะรอยหยักชีวิต
สมอง กับ ชีวิต
แนวคิด กับ ความสำเร็จ
หนังสือเล่มนี้จะสร้างความเข้าใจที่ยิ่งใหญ่ต่อหลายๆคนที่เคยสับสนในชีวิต
ลองอ่าน แล้วมาตั้งโจทย์ชีวิตกันใหม่ … แล้วผมเชื่อว่า ความสำเร็จที่ไม่เคยเห็น จะมาปรากฏครับ
ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา
สำนักพิมพ์สต็อคทูมอร์โรว์
อย่าแห่ตามกัน ..คนส่วนใหญ่มองไปตลาดไหน เรามาอีกทางดีกว่า !!
วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557
ถ้าคิดได้ก่อนจะสร้างหนี้ ก็คงไม่มีใครจน ..แล้วทำไมไม่คิดและทำให้ได้ล่ะ
วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557
เปิดผนึกหนังสือเล่มใหม่ของภาววิทย์ ..แกะรอยหยักชีวิต Filter ความคิด
ระบบเชื่อมต่อและการเปลี่ยนโลก !!
วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557
ทางที่ไม่เสี่ยง จริงๆแล้วอาจเป็นทางที่เสี่ยงสุดก็ว่าได้ !!
วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557
เป็นลูกจ้าง ..เป็นนายจ้าง ..ให้ดีที่สุดกับตัวเรา !!
หนังสือเล่มใหม่ ภาววิทย์ ปี 2014 -- "แกะรอยหยักชีวิต Filter ความคิด"
วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557
ปู่ผมเคยขับแท๊กซี่ ไม่ได้จบปริญญา ยังสร้างตัวเป็นเศรษฐีได้เลย แล้วผมล่ะเรียนรู้อะไรบ้าง ?
วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557
ตาบอดคลำช้างกับคนขับแท๊กซี่ !!
ผู้ได้เปรียบสูงสุดในระบบทุนนิยมปัจจุบันคือ New Landlord ซึ่งมันสร้างได้ !!
วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557
นักล่าอาณานิคมยุคใหม่กล่าวว่า ปัญญามีค่ามากกว่าเงิน !!
ตัวคุณมีค่าเพราะคุณเข้าใจการกำหนดราคาของเวลา และคุณขายคนที่อยากซื้อจริงๆ !!
วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557
ก่อนจะทำธุรกิจส่วนตัว ซ้อมให้มือเชื่องซะก่อนครับ !!
เรากำลังโดนหลอกให้ทำและตั้งเป้าให้ทำ ในสิ่งที่มันไม่ได้มีจริงๆหรือเปล่า
วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557
เราจะเริ่มตั้งสติกับชีวิตเมื่อไหร่กันดี ? ..เมื่อมีลูก เมื่อพร้อม ?
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 สิ่ง ที่จะต้องดูในการเล่นหุ้นไทยขาขึ้น รอบใหม่ 1. ‘เด้งจากหุ้นใหญ่‘ …ในการเริ่มขาขึ้นรอบใหม่ จะเริ่มจากหุ้นใหญ่ เพราะ เม็ดเงินต่างๆ จะเข้...
-
"ฉันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว" นั่นคือ ความปรารถนาอันดับหนึ่ง จากการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ใช่!! ใครๆ ก็อยากเป็น ...
-
7 เรื่อง เบื้องลึกเบื้องหลังของคำว่า ‘เงิน’ ในโลกปัจจุบัน 1. ‘เงินในปัจจุบัน เป็นเงิน Fiat’ …เงิน Fiat สร้างจากหนี้ แปลว่า เงินในปัจจุบัน ไ...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
“อยากเอาเรื่อง Alpha มาเล่าให้ฟัง” ...ในทุกสิ่งมีชีวิต จะมีจ่าฝูง มีหัวหน้า เช่น ฝูงลิง ฝูงหมาป่า ก็จะมีจ่าฝูง ...เรื่องที่น่าสนใจก็คือ ไ...
-
8 ข้อต้องดู นักเล่นหุ้นสาย growth เดิมทีเล้นหุ้น value ก็ปันผลดีอยู่แล้ว ...แต่ยุคนี้ ควรคัดหุ้น growth เข้าพอร์ตด้วย เพื่อเร่งให้พอร์ตเราโ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
7 ข้อควรรู้ การลงทุนยาว กับ การเทรดสั้น อะไรรวยเร็วกว่ากัน 1. ‘การเทรดได้เงินเร็วกว่า’ …แต่ข้อเสียก็คือ เสียเงินเร็วพอๆ กัน ถ้าจับจังหวะไม่...
-
7 ความแตกต่างระหว่าง ลงทุนหุ้นไทย กับ หุ้นโลก 1. ‘Level Playground’ …เดิมทีคนที่สามารถไปลงทุนต่างประเทศต้องเป็นคนรวยมากๆ ใช้เงินเยอะ แต่ปัจ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...