แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

6 จุดตายของธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ทำไมขายดีแต่เจ๊ง

 6 จุดตายของธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ทำไมขายดีแต่เจ๊ง


1. ‘ไม่เข้าใจต้นทุนของตัวเอง’ …คนรุ่นใหม่มักเร่งขยายธุรกิจจนลืมต้นทุน …ยิ่งขยายกำไรเลยยิ่งลด จนสุดท้ายไม่กำไร (สัญญาณเตือนแรก คือ ยอดขายเพิ่ม แต่กำไรลด)


2. ‘ไม่รู้สิ่งที่ทำเป็นแค่แฟชั่น’(Overstock) …บางสินค้าต้องตีหัวเข้าบ้าน เพราะ กระแสมันสั้น …สุดท้ายจมอยู่กับสต๊อกที่สั่งมาเกินแล้วขายไม่ได้ เจ๊ง


3. ’เจ้าของสร้างหนี้ขยับฐานะเร็วเกินไป‘ …พูดง่ายๆ สร้างหนี้มาใช้ส่วนตัวเร็วเกินไป จนหมุนเงินไม่ทัน แล้วกระทบธุรกิจในที่สุด


4. ’ธุรกิจไม่ใช่แค่การขาย ต้องพัฒนาระบบด้วย’ …นักขายที่เก่ง จะลืมการสร้างระบบ เหมือน มัวแต่เติมน้ำใส่ถังแต่ไม่อุดรูรั่ว …ทำไปก็ไม่เหลือ


5. ‘เข้าไม่ถึงแหล่งทุนที่ดี‘ …แหล่งทุนที่สามารถช่วยเราเวลาฉุกเฉิน ไม่คาดคิด ก็คือจากนักลงทุน …นักธุรกิจต้องหานักลงทุนช่วยหนุนด้วย (ต้องสมดุลย์ เกินกู/เงินกู้/นักลงทุน)


6. ’ลืมมองหาสินค้าขายดีตัวต่อไป’(What’s Next?)…ธุรกิจยุคใหม่ต้องมองหา สินค้าขายดีตัวต่อไป เพราะไม่มีอะไรยั่งยืนในปัจจุบัน


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

9 ข้อ คนรวยรุ่นใหม่ เขารวยจากอะไรกัน

 9 ข้อ คนรวยรุ่นใหม่ เขารวยจากอะไรกัน 


1. ‘รวยจากความดัง‘ …ยุคนี้เราปั้นตัวเองได้ด้วย Social ..ใช้ความความดังหาเงิน


2. ’ทำของแปลกใหม่‘ …พอแปลกใหม่ ก็มีคนพูดถึงง่าย ย่อมมีโอกาสมากกว่า


3. ‘รวยจาก Mass Luxury’ …สร้างของแพงที่เป็นกระแส 


4. ‘สร้างระบบการขายที่ต้นทุนต่ำ‘ …สร้างระบบขายที่เราไม่ต้องจ่ายเงินลงทุน


5. ’ทำให้ใช้ง่ายขึ้น ด้วยเทคโนโลยี’ …พวก เทคที่มี Human Touch จะรวยง่าย เพราะ เขาเข้าใจ User 


6. ‘หาโอกาสในตลาดเงิน ตลาดทุน’ …ตลาดนี้ถ้าจับถูก ก็รวยได้แบบก้าวกระโดด


7. ‘พัฒนาความสวย ความงาม‘ …งานด้านนี้ ยังไงก็ดี 


8. ‘รู้ว่าอะไรเป็น Fashion อะไรเป็น Trend’ …แฟชั่นเล่นสั้น ส่วน Trend เล่นยาว


9. ’รู้จัก Demand & Supply’ …ถ้า Demand มากกว่า ควรทำ …ถ้า Supply มากกว่า ควรเลิก


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

5 ข้อ ทำไมเราไม่ควรล้างพอร์ตแม้ว่าตลาดจะแย่แค่ไหนก็ตาม

 5 ข้อ ทำไมเราไม่ควรล้างพอร์ตแม้ว่าตลาดจะแย่แค่ไหนก็ตาม


1. ‘เวลาหุ้นลงเราก็แค่ขายหุ้น แต่จุดที่เราอยากจะล้างพอร์ตแปลว่า ตลาดแย่จนไม่ไหวแล้ว‘ …จริงๆ ตรงนั้นคือ จุดเริ่มซื้อรอบใหม่


2. ’จุดขายหุ้นที่ดีที่สุด คือ เวลาที่หุ้นลงใหม่ๆ ไม่ใช่จุดที่หุ้นลงหนักๆ แล้ว’ …จุดสังเกตคือ ตอนที่หุ้นแพง ข่าวดีเยอะ แล้วมี Volume ขายหนักๆ นั่นแหละ จุดเจ้ามือขาย (จุดเริ่มต้นของขาลง)


3. ‘การล้างพอร์ตจะทำให้เราพลาดโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในตลาด นั่นคือ การขึ้นรอบใหม่‘ …ช่วงขึ้นเริ่มต้น มักจะให้กำไรเรามากที่สุด


4. ‘ทุกตลาดหุ้นมีรอบของมัน เวลาเรารู้สึกดีมักจะเป็นปลายรอบ(หุ้นแพง) ..ส่วนเวลาเรารู้สึกแย่มักจะเป็นการจบรอบเพื่อขึ้นรอบใหม่(หุ้นถูก)’ …พูดง่ายๆ เราชอบขายตลาดถูกแล้วไปซื้อตลาดแพง ก็เลยพลาดจุดกำไรดีๆ ทุกรอบ


5. ’ทางแก้เวลาอยากล้างพอร์ต คือ ขายบางส่วน’ …เพื่อลดความกดดัน แต่ยังคงถือส่วนที่เหลือไว้ …เงินสดเพียง 10% ก็ช่วยพอร์ตเราได้ ในวันที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

8 ความแสบ ของหุ้นไทย ที่ไม่มีใครบอกเรา

 8 ความแสบ ของหุ้นไทย ที่ไม่มีใครบอกเรา


1. ‘หุ้นขึ้น เพราะมีคนซื้อหุ้นมากกว่าคนขาย’ ..ส่วนหุ้นที่ขึ้นเร็วและแรงผิดปกติ มักเกิดจากการ Corner …คือ รายใหญ่ซื้อหุ้นทั้งหมด และยอมซื้อแพงขึ้นไปเรื่อยๆ


2. ’เวลาหุ้นดูน่าซื้อ เป็นเวลาที่จริงๆ ไม่น่าซื้อแล้ว‘ …หุ้นที่ขึ้นแรง Volume หนาๆ มาพร้อมข่าวดี มักเป็นเวลาที่เจ้าลากหุ้นขึ้นไปปล่อยของ มันจึงไม่น่าซื้อ


3. ‘หุ้นที่ลงแรง และ Volume เยอะๆ ก็เป็นจุดที่ไม่น่าซื้อ’ …เดี๋ยวนี้รายย่อย มักชอบรับหุ้นที่ลงแรงๆ เพราะคิดว่าถูก แต่มักถูกหลอก โดยเฉพาะเวลาที่หุ้นมี Volume เยอะๆ


4. ’หุ้นที่เจ้าของถูก Force Sell เป็นหุ้นที่ไม่น่าซื้อ‘ …หลายๆ ครั้งที่เราเห็นหุ้นลงแรงมากๆ เพราะ รายใหญ่ถูก Force Sell …คำแนะนำคือ ไม่ควรเข้าไปยุ่ง …คิดง่ายๆ คือ เจ้าของสนใจทำหุ้นมากกว่าทำธุรกิจ


5. ‘หุ้นที่เจ้าของถือน้อย เราต้องระวังให้มาก’ …ถ้ากลุ่มเจ้าของถือน้อย หุ้นกระจัดกระจาย เดาง่ายๆ ว่า นั่นไม่ใช่หุ้นดี …ถ้าเล่นก็ได้แค่เก็งกำไรขาขึ้นช่วงสั้นๆ ห้ามถือยาว


6. ’หุ้นที่จะดี มักไม่ค่อยมีข่าว’ …ช่วงที่เจ้าเก็บหุ้น ก็คือ ช่วงที่ไม่ค่อยมีข่าว …ส่วนหุ้นที่มีข่าวดี มักเป็นเวลาที่เจ้าอยากปล่อยของแล้ว


7. ‘หุ้นที่เปลี่ยนชื่อบ่อยๆ มักเป็นหุ้นไม่ดี‘ …ถ้าดีคงไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ …หลายครั้งเจ้าเปลี่ยนชื่อเพื่อให้คนลืมความแย่ของหุ้นที่ผ่านมา


8. ‘หุ้นที่ Backdoor เข้าตลาด มักเป็นหุ้นไม่ค่อยดี’ …หุ้นที่ Backdoor ก็คือ เข้าตลาดแบบใช้การซื้อหุ้นที่อยู่ในตลาดแล้ว จากนั้นก็เอาธุรกิจเข้าไปใส่ …ส่วนใหญ่มันไม่ค่อยดี


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

6 ปัจจัย ที่ทำให้พอร์ตคุณโตแบบก้าวกระโดด

 6 ปัจจัย ที่ทำให้พอร์ตคุณโตแบบก้าวกระโดด


1. ’เคยพอร์ตระเบิด แต่ยังไม่เลิกเล่นหุ้น’ …ต้องบอกว่า นักลงทุนที่สามารถปั้นพอร์ตให้โตก้าวกระโดดแทบทุกคนเคยพอร์ตเสียหายหนักๆ ทุกคน แต่ไม่เลิก


2. ‘เงินส่วนใหญ่ของคุณ ทุ่มใส่ตลาดหุ้น‘ …ก็แน่นอน ถ้าอยากสำเร็จอะไร ไม่ใช่แค่ต้อฃหมกมุ่น แต่ต้องทุ่มเงินแทบทั้งหมดที่มในสิ่งนั้น …จัดหนักตลาดเวลา


3. ’กล้า All in ในวันที่ตลาดเกิดวิกฤต‘ …วิกฤตน่ะมาเรื่อยๆ แต่น้อยคนที่จะกล้า ทุ่มหมดตัวในวันที่ตลาดเลวร้าย 


4. ’มีความหวังลมๆ แล้งๆ ในวันที่คนรอบข้างคุณถอดใจไปหมดแล้ว‘ …การอยู่ในตลาดในวันที่ใครๆ ก็ลงทุนในหุ้น ไม่ทำให้คุณรวยเท่าไหร่ …ช่วงที่ทำให้เรารวยมากกว่าคนอื่น ก็คือวันที่คนอื่นถอดใจไปแล้ว


5. ‘ถือหุ้นที่กำไรได้นานเป็นปีๆ ทนรวยได้เป็นหลายๆ เด้ง’ …คนทั่วไปกำไรนิดหน่อยก็ไปแล้ว …ส่วนใหญ่จะถือหุ้นได้นานเวลาขาดทุน …แต่น้อยคนที่จะถือหุ้นที่กำไรได้นานหลายๆ ปี 


6. ‘มุ่งมั่นหาแนวทาง สไตล์ของตัวเอง’ …การเล่นสไตล์คนอื่น แปลว่า เราใช้วิธีที่ใครๆ ก็ใช้กัน …ยากที่จะรวยก้าวกระโดด เพราะ มันทำให้คนอื่นรวยไปแล้ว ก็ย่อมใช้ไม่ได้อีกต่อไป 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

6 ข้อที่ผมหลงใหล …เกษียณแล้วไปไหน ?

 6 ข้อที่ผมหลงใหล …เกษียณแล้วไปไหน ?


1. ‘ถึงจุดที่ต้องถอดหัวโขนแล้ว แต่ Ego ยังอยู่‘ …หลายครั้งที่คนเกษียณจะมองว่าตัวเองหมดความสำคัญ (ให้หาสิ่งที่ทำได้ไม่มีวันเกษียณ เช่น นักลงทุน , เปลี่ยนงานอดิเรกให้ทำเงิน)


2. ’เกษียณไม่ใช่หยุดนิ่ง แต่คือการเปลี่ยนแปลง’ …คนคิดว่าเกษียณคือ หยุดทำทุกอย่าง นั่งเฉยๆ แต่ความจริง คือ ‘แล้วเราจะเปลี่ยนไปทำอะไรใหม่‘ 


3. ’ถึงเวลาที่เราต้องให้สุขภาพสำคัญกว่างาน‘ …วัยทำงาน ทุกอย่างคืองาน นอกนั้น เรามองว่า ไร้สาระ …แต่พอเกษียณแล้ว ทุกอย่างคือสุขภาพ นอกนั้นคือ ทำขำขำ


4. ‘เกษียณได้ แต่เงินต้องไม่หยุดเข้ามา’ …อันนี้แหละโคตรยาก แปลว่า เราต้องวางแผนพอร์ตลงทุนก่อนที่จะถึงเวลาเกษียณ


5. ‘ลดปริมาณเพื่อน แต่เพิ่มคุณภาพ‘ …พอเกษียณแล้วเพื่อนจะลดลงแบบฮวบฮาบ ..จะเหลือเพื่อนไม่ก็คน ที่ ศีลเสมอกัน …ฐานะพอๆ กัน ความสนใจคล้ายๆ กัน


6. ‘ตกผลึกในเรื่องการปล่อยวาง’ …ตอนทำงานทุกอย่างคือ หน้าที่และความรับผิดชอบ …พอเกษียณต้องปล่อยวาง …บริษัทไม่มีเราเขาก็อยู่ได้ …ปล่อยให้ทุกสิ่งรอบๆตัว ได้เติบโต


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

7 ข้อ ควรรู้ การเป็นนักลงทุนที่ ‘พอเพียง‘

 7 ข้อ ควรรู้ การเป็นนักลงทุนที่ ‘พอเพียง‘ 


’พอเพียง‘ กับ นักลงทุน …มีด้วยหรือ ? 


1. ‘เข้าใจ Need กับ Want’ …เริ่มด้วยเข้าใจสิ่งที่จำเป็น กับสิ่งที่เราอยากได้ มันต่างกัน


2. ’เป้าแรกคือ การชนะ Need’ …อันนี้คือการคำนวณระยะยาว ว่า การมีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายตลอดไป ต้องมีเท่าไหร่ และทำยังไง 


3. ’การสมดุลย์ Want ให้ไม่เลอะเทอะ‘ …เอาตรงๆ ถ้าเราได้เงินมาเยอะๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ (ขาขึ้นการลงทุน) เราจะเริ่มใช้จ่ายเลอะเทอะ …ต้องบริการตรงนี้ให้ดี


4. ‘เข้าใจหลัก 20/80 ของการลงทุน‘ …พอร์ตลงทุนเราจะได้ผลตอบแทนโดดเด่นจากเงิน 20% …ต้องหาการลงทุน 20% ของเราให้เจอ - ท่าไม้ตายการลงทุนว่างั้น


5. ’ตอบให้ได้ว่า อะไรจะไม่เปลี่ยนในสิบปีข้างหน้า‘ …ลงทุนในสิ่งนั้น ด้วยเงิน 80% …อันนี้ Jeff Bezos ใช้เป็นหลักในการขยายธุรกิจ Amazon


6. ’ใช้เงิน 20% ลงทุน ในสิ่งใหม่ ที่เปลี่ยนแปลง‘ …คิดแบบ Venture Capital …ลงทุนในสิ่งที่จะมาท้าทายสิ่งเดิม เช่น จีนลงใน EV , อเมริกาลงใน AI 


7. ‘เมื่อพอร์ตโตเกิน Need แล้ว ให้มุ่งสร้าง Passive’ …ถ้าเราลงทุนระยะยาวอย่าฃถูกต้อง ถึงจุดนึงรายได้ Passive จะชนะ Active …นั่นแหละ อิสรภาพในการลงทุน


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม



บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ