วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2560
รู้ไว้ ไม่จน
คนแบบไหนที่โชคไม่ช่วย เหมือนเกิดมาซวยตลอดชีวิต
ถามส่วนตัวเรื่องหุ้น ..ขอตอบรวมๆนะ
ล้างมือในอ่างทองคำจากตลาดหุ้น
'ในที่สุด ผมก็จะเลิกเล่นหุ้น แต่ผมจะไม่หยุดให้หุ้นทำงานทำเงินให้ผมไปเรื่อยๆ ...ล้างมือในอ่างทองคำจากตลาดหุ้น' ....ทำอย่างไร ?
ปีนี้เป็นอีกปี ที่หุ้นเริ่มสร้างความประหลาดใจให้หลายๆ คน ..ต้นปีนี้หุ้นใหญ่อย่าง PTT ขึ้นมาแตะ 400 บาท จากที่ต้นปีที่แล้ว หุ้น PTT ยังอยู่ที่ ราคา 200 บาทอยู่เลย
จำได้ไหม แค่ปีที่แล้ว ที่ราคา PTT อยู่ 200 บาท ก็มีแต่คนพูดว่า ต่อไปน้ำมันจะเลิกใช้ ราคาน้ำมันร่วงไปแตะ 30 เหรียญ ...วันนั้นใครก็ตามที่คิดแบบ 'ออมในหุ้น คือ ซื้อหุ้นดีในข่าวร้าย (หุ้นดี ยิ่งวิกฤต ยิ่งโคตรถูก - คนที่กล้าซื้อเวลาวิกฤต ไม่ใช่คนบ้า แต่คือคนที่มีความรู้!!!) .. ก็น่าจะซื้อกันแถวๆ 200 กว่าๆ ...วันนี้ก็คงชิวกันไปตามๆ กัน'
มีหลายๆ คนมาถามผมอีกว่า 'พี่แพ้ท วันนี้หุ้นที่ผมซื้อมันขึ้น 100 % แล้ว ผมว่าเดี๋ยวมาต้องย่อแน่ๆ ผมอยากจะขายตรงไหนดีครับ ?'
ผมก็ตอบไปว่า 'เอาแบบนี้ซิ หลักการซื้อหุ้นดีในข่าวร้ายมากๆ ถือไม่นาน มันก็เห็น 1 เด้งแล้ว ..แล้วโดยปกติ พอหุ้นขึ้นเท่าตัว มันก็ต้องปรับฐานก่อนไปต่อ ...ง่ายสุดนะ ถ้าหุ้นเรากำไร 1 เด้ง เราแบ่ง ครึ่งนึง ขายเอาทุนออกไปเลย - ดังนั้น หุ้นที่เหลือคือกำไร เพราะเราขายเอาทุนออก'
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายใน พอร์ตหุ้นเรา จะไม่มีต้นทุนเลย ...พอถอนทุนก็ไปหา หุ้นดีในวิกฤต ตัวต่อไป ...ทำไปเรื่อยๆ แรกๆ อาจจะยังไม่เก่ง แต่ทำไปเถอะ พอเวลาผ่านไปเดี๋ยวเราก็เก่งในที่สุด
นี่แหละ ยิ่งเก่ง ยิ่งรวย ยิ่งลงทุน ยิ่งไม่มีต้นทุน
เอางี้ใครสนใจ ผมแนะนำคอร์สที่ผมสอน มีเรียนสด กับ ออนไลน์ ..ให้ลองเรียนศึกษาแล้วจริงจัง ผมว่ามันจะเป็นการเรียนรู้ที่เปลี่ยนชีวิตได้ ลองดู ดังนี้
- "คอร์สมือใหม่ สอนสด" : อันนี้เรียน 2 วัน สอนตั้งแต่วิธีคิด + อ่านงบ + อ่านกราฟ 'ก็เรียกว่าค่อนข้างครบเตรียมความรู้ให้มือใหม่พร้อมเข้าลงทุนในตลาดหุ้นได้เลย' ..ผมสอนประมาณเดือนละครั้ง รอบต่อไป ก็
11-12 กุมภาพันธ์ ราคาคือ 7,000 บาท รวมอาหาร และอาหารว่าง ทั้งสองวัน
ถ้าสนใจก็คลิ๊กจองได้ที่นี่ครับ http://www.stock2morrow.com/course/seminar_courses_list.php?id=1
- "คอร์สออนไลน์" ..อันนี้เหมาะกับคนที่ไม่สะดวกมาเรียนสด ก็เรียนผ่าน Facebook Close Group เลย ..อันนี้เรียนเป็นวีดีโอ วันละประมาณ 20 นาที เรียนต่อกัน 15 วัน คือ ดูคลิ๊ปเป็นเรื่องๆ ถ้าสงสัยก็ถามในเฟส ใต้คลิ๊ปเลย แล้วผมจะตอบให้ทุกข้อสงสัย ตามเนื้อหา
...อันนี้เริ่มเรียน 15 กุมภาพันธ์ ราคาเต็ม 4,500 แต่ลดให้พิเศษเหลือ 3,500 บาท (ราคาพิเศษนี้ ต้องชำระเงินก่อน 7 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้นนะครับ)
สอบถามเพิ่มเติม 063 191 0816
สอบถามทาง line@ : @basicblueprint
หรือแค่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40basicblueprint
ใครสนใจเรียนอันไหน ก็เลือกเรียนได้ตามสะดวกเลยครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2560
ยุคนี้ ระวังโดนหลอกนะ
'หนึ่ง ได้เงินง่าย
สอง ไม่ต้องศึกษา
สาม การันตีแบ่งจ่ายประจำ
สี่ ไม่มีความเสี่ยง' ...เคยเจอไหม การลงทุนแบบนี้ ?
ใช่!! เขาเรียกว่า 'แชร์ลูกโซ่!!' ...อ้าว!! ก็นึกว่า เราโชคดี เพิ่งมีคนมาเสนอให้ลงทุนแบบนี้เลย
(ใครมันจะโชคดี แบบอยู่เฉยๆ นั่งอยู่บ้านก็มีคนมาเสนอการลงทุนเปลี่ยนชีวิตให้ ...บ้าแล้ว!! คนที่จะได้โอกาสการลงทุนเปลี่ยนชีวิต ต้องเหนื่อย ต้องศึกษาเอง วิ่งไปหาเอง)
...ถ้าเหงื่อไม่ออก เราอาจกำลังโดนหลอกนะ !!
เดี๋ยวนี้ผมเจอหลายๆ คนมาเล่าให้ฟังว่า 'โดนหลอก!!'
เอางี้ ผมมีหลักการดูง่ายๆ มาแชร์กันว่า อะไรคือ 'การลงทุนจริงๆ' แล้วอะไรคือ 'โดนหลอก' ดังนี้
1. ไม่ต้องศึกษา ..ถ้าเป็นการลงทุนเราต้องศึกษาถึงจะคุมความเสี่ยง และลดความเสี่ยง ..ไอ้ที่บอกไม่ต้องศึกษา มันไม่น่าจะใช่การลงทุน
2. การันตีผลตอบแทน ...การลงทุนหรือทำธุรกิจมีขึ้นมีลง มี Cycle ..ถ้าบอกว่าได้ ต่อเนื่อง การันตี อันนี้ไม่น่าใช่
3. ไม่มีความเสี่ยง ...ถ้าเราคิดว่าอะไรไม่มีความเสี่ยง แปลว่า เรากำลังโคตรเสี่ยง ...ฝากเงินธนาคารถ้าธนาคารเจ๊ง เงินก็หาย ..นั่งเฉยๆ ไม่ลงทุน เจอเงินเฟ้อ มูลค่าเงินยังหายเลย ...ซื้อพันธบัตรรัฐบาล หลายๆ ประเทศที่เจริญแล้ว ยังเบี้ยวหนี้เลย
สรุป ถ้าเราบอกว่า อะไรไม่เสี่ยง แปลว่า เราโคตรเสี่ยง !!
อย่างผมสอนหุ้น สอนลงทุน เริ่มจากการสอนเรื่องความเสี่ยง และการควบคุมความเสี่ยง ..พอคุมความเสี่ยงเป็น นั่นแหละ เราถึงจะพูดได้ว่า 'เราคือนักลงทุน'
ยุคนี้โดนหลอกกันเยอะ โดยเฉพาะคนที่เกษียณมีเงินก้อน และอีกพวกที่โดนหลอกเยอะคือคนอายุน้อย ..ยิ่งเป็น Target ของมิจฉาชีพ
ฝากเตือนกันไว้ครับ
'สิ่งที่ลดความเสี่ยง คือ มีความรู้ในสิ่งที่ทำ มีความรู้ในสิ่งที่ลงทุน' - มีความรู้นี่แหละของจริง
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560
หลักคิดแบบ inside-out ในแบบ Gen Y
'เมื่อ bedrooms เป็น boardrooms ..เมื่องานส่งอาจารย์ เอามาสร้างเป็น Start-ups ...เด็กอายุต่ำกว่า 21 ยุคนี้เลยเป็น CEO บริษัทได้'
คนยุค Millennials 'Gen Y' อายุ 18-35 ปี กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งใน ตลาดหุ้น และ โลกธุรกิจ
งานวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับ Gen Y พบว่า
- Gen Y เกิดมาในยุคที่พ่อแม่ไม่ลำบาก เหมือน Gen ก่อนๆ ..จึงทำให้ Gen Y มีแนวโน้มที่จะกล้าคิดและกล้าทำอะไรที่เสี่ยงและนอกกรอบ ส่งผลให้ Gen Y จะกล้าสร้างธุรกิจเป็นผู้ประกอบการมากกว่า
- เมื่อพ่อแม่สบายขึ้น ภาระในการดูแแลคนอื่นลดลง ทำให้ Gen Y มีอิสระที่จะวิ่งตามฝันของตัวเองมากขึ้น
- Gen Y เกิดท่ามกลางเปลี่ยนแปลงของ Technology ครั้งใหญ่ ซึ่งมันเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจในหลายๆ อุตสาหกรรมอย่างสิ้นเชิง (ใครจับทางไม่ทัน อาจเจ๊งเลย ..ใครจับถูก ก็รวยเร็วเลย)
- Gen Y เกิดในช่วงเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม และ การทำงาน แต่ระบบการศึกษายังปรับตัวตามไม่ทัน ส่งผลให้ Gen Y กลายเป็น 'Gap Generation' ที่สับสนมากที่สุด ..ทำให้ Gen Y แต่งงานช้า มีลูกช้า ..อยู่กับพ่อแม่นานกว่า Generation อื่น เพราะ อยากเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลง
- 'การท่องเที่ยวที่เยอะของ Gen Y' เพราะต้องการเข้าใจ 'การเปลี่ยนแปลงของโลก' สิ่งนี้จะเพิ่มขึ้น และทำให้ การท่องเที่ยว การหาประสบการณ์ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต Gen Y
...ยุคของ Gen Y ประสบการณ์มีค่ายิ่งกว่าเงิน
- Gen Y เกิดในโลกที่เจอกับวิกฤตเศรษฐกิจตลอดเวลา ทำให้คน Gen Y มองความสำเร็จที่สั้น ต้องการความเร็ว ..อันนี้เป็นทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อนในเวลาเดียวกัน ทำให้คน Gen Y มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง แต่ขาดความอดทน ...เห็นจากตลาดหุ้นได้ว่า คน Gen Y เน้นการลงทุนระยะสั้น มากกว่าการลงทุนยาว
คำแนะนำของผมในฐานะ คนที่สัมผัสและทำงานท่ามกลางคน Gen Y คือ
'ให้มองความยั่งยืน ให้อดทน ให้เน้นพัฒนาตัวเองจากข้างในออกข้างนอก (inside - out)
..ในขณะที่คนส่วนใหญ่ อยากโชว์ความสำเร็จเร็วๆ อยากโชว์รวย ให้เราเก็บความรวย และสั่งสมพอร์ตการลงทุนระยะยาว สั่งสมความรู้และความแน่นไม่ต้องโชว์ (อย่าสนคำวิจารณ์จากคนที่ไม่เข้าใจเรา)
..ค่อยๆ สร้างเพื่อน สร้างเครือข่าย ที่คิดและทำในเป้าหมายระยะยาวแบบยั่งยืนคล้ายๆเรา ร่วมเดินไปด้วยกัน
สุดท้ายผลลัพธ์จะพิสูจน์ให้เห็นเมื่อถึงเวลาของมัน'
ความสำเร็จ ไม่ใช่การพยายามโชว์ในสิ่งที่เราไม่มี ...แต่ความสำเร็จคือ การขยายสิ่งที่เรามี ให้เกิดประโยชน์ต่อคนรอบข้าง
ไม่จำเป็นต้องโชว์ แต่ให้ผลลัพธ์ของสิ่งที่เราทำ การเปลี่ยนชีวิตคนรอบข้าง ให้มันค่อยๆ เล่าเรื่องความสำเร็จในแบบของเราเอง
- 'ผมเรียกสิ่งนี้ว่า แรงบันดาลใจในสิ่งที่เราเลือกทำ'
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560
ถ้าไม่ฝึกควบคุมเงิน เงินจะคุมเราแทน
คนรวยมองไกล คนทั่วไปมองสั้นๆ
วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2560
5 ปรับ ยุคเราต้องสร้างงานเอง
วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560
ให้เริ่มลงทะเบียน The Stock Blueprint 2017
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560
คนเราต้อง 'หางาน' หรือคนเราต้อง 'สร้างงาน'
'เก็บเงินเที่ยว' กับ 'ทำไปเที่ยวไป' คุณคือ Gen ไหน
จาก 'หางาน' สู่การ 'สร้างงาน' ยุคนี้ดูแลตัวเองนะ
'Gen X กับ Gen Y มองเรื่อง งาน กับ ชีวิต คนละมุมเลย' ...คน Gen X มีพ่อแม่ที่เข้มงวด 'นี่พ่อนะ อย่าเถียง!!' ..พวกเขาถูกพ่อแม่สอนมาว่า ให้เรียนเก่งๆ เรียนสูงๆ แล้ว 'หางาน'
ใช่!! ที่ผ่านมาคน Gen X ก็ทำได้ค่อนข้างดี วันนี้หลายๆ คนมีตำแหน่งบริหาร มีหน้าที่การงานใหญ่โตในองค์กรใหญ่ ..ส่วนพวกที่รับช่วงต่อกิจการพ่อแม่ อันนี้คนอื่นอาจจะอิจฉาเขา แต่ลึกๆ กลุ่มนี้มีเงินนะ แต่โคตรเครียดเลย
...มันมีทางเลือกซะที่ไหนล่ะ ต้องรับช่วงธุรกิจครอบครัว ทั้งๆ ที่ไม่ได้มี Passion อะไร ...ก็ Legacy แต่ละคน มันไม่ได้เหมือนกัน ..ยิ่งพ่อลูกนี่ แทบฝันธงได้เลยว่า สิ่งที่ชอบแทบจะตรงข้ามกัน แต่พอทำงานต้องใส่รองเท้าต่อจากพ่อ ...ไม่ง่ายเลย ...ลูกน้องพ่อ ก็มองเราอ่อน ..จะคิดจะทำอะไร โดนขัดไปหมด ...ทำมาจน หมดไฟ เหนื่อย - รู้นะ ว่าจะทำไงให้ธุรกิจดีขึ้น แต่มันเปลี่ยนไม่ได้ ผู้ใหญ่เขาไม่เอาด้วย !!
'เห็นไหมล่ะ สิ่งที่ Gen X บอกให้เปลี่ยน แล้วไม่ยอม ..วันนี้ไงล่ะ ..ธุรกิจมันเริ่มเปลี่ยน เงินมันเริ่มลดลง ..บ่อน้ำที่ตักเท่าไหร่ก็ไม่หมด วันนี้มันแทบไม่มีน้ำแล้ว ...เห็นหรือยังล่ะ - แล้วทีนี้จะเอาไงต่อครับพ่อ?'
- ชีวิตของ Gen X ผูกกับ องค์กร และ ธุรกิจ อย่างเหนียวแน่น ...เรียนสูง ..เข้าใจโลกเข้าใจการเปลี่ยนแปลง ...เข้าใจผู้ใหญ่ด้วย ...อยากกบฏนะ ก็ฉันมีความคิดตัวเอง มีความอินดี้ ...แต่ที่ Gen X มีมากที่สุดคือ มีความอึดอัด
- เข้าใจผู้ใหญ่ ..รู้วิธีเปลี่ยนแปลง ...แต่ไม่มีอำนาจ ...มองลงไปที่ Gen Y อยากจะตบกระโหลกมัน ...อะไรของพวกมรึง ...ทำงานไป เที่ยวไป ...เปลี่ยนงานกันเป็นว่าเล่น ...ไม่เข้าใจ !!
Gen Y เขาไม่ได้มองเรื่องงานเหมือน Gen X เขาไม่มองว่าคนเราต้อง 'หางาน' เหมือน Gen X
แต่เขามองงานคือการ 'สร้างงาน' ..เป็นลูกจ้างได้นะ แต่เป็นเพื่อเรียนรู้ ท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ แต่สุดท้าย 'ฉันเท่านั้น ที่จะต้องนับผิดชอบชีวิตของฉันเอง ...ฉันไม่เชื่อหรอกว่า บริษัทจะดูแลฉันได้ ..ตลก!! หลายๆ บริษัทขนาดใหญ่ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย จะให้ฉันผูกชีวิตฉันให้บริษัท เหมือน Baby Boomer หรือ Gen X น่ะเหรอ ..ฉันไม่เอาด้วย ...ฉันต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ..ฉันต้องพัฒนาตัวเอง'
หลายคนไม่รู้ว่า จริงๆ แล้ว Gen Y ที่ดูเหมือนทำงานไป เที่ยวไป ไม่รู้จักวางแผนในชีวิต ทำงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ...ที่ว่ามานั้น เป็นความคิดของ Gen อื่น ..คุณไม่ได้เข้าใจ Gen Y
- Gen Y จริงๆ ทำงานโคตรหนัก ..การมี Smart Phone ทำให้ไปเที่ยว กรูยังคิดจัดการเรื่องงาน ..คิดตลอด วางแผนตลอด มองหาโอกาสตลอด
- Gen Y วางแผนชีวิตตัวเองตลอด ...เขาแค่ไม่ได้วางแผนให้บริษัท แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาไม่ได้วางแผนให้ตัวเอง
- Gen Y เข้าตลาดหุ้นส่วนนึง อยากได้เงินเร็ว แต่คนที่มีประสบการณ์ในตลาดหุ้นจนเข้าใจแล้ว มักจะเริ่มลงทุนระยะยาว เพราะ เขารู้ดีว่า การลงทุนคือความมั่นคงจริงๆ ในชีวิต
- Gen Y เป็น Generation ที่ชอบ Self-Startup
- วันนี้ Gen Y ยังมีเงินเก็บน้อย แต่เขาก็กำลังสู้ มองโอกาสให้ตัวเอง
- Gen X ก็พยายามรักษา องค์กรที่ตัวเองรัก ..พร้อมกับ ที่หลายๆ องค์กรเริ่มหักหลังเขา ...เอาไงต่อวะ ?
เกมนี้ยังไม่จบ มันแค่เริ่ม
ในฐานะที่ผมเป็น Gen X หัวใจ Y ผมขอแนะนำเพื่อนๆ ว่า ...ยุคนี้เราต้องดูแลตัวเอง แม้วันนี้ผมเอง ยังต้องทำงานหาเงิน แต่พอร์ตการลงทุนผมก็ค่อยๆ เติบโต สร้าง 'เงินทำงาน' พร้อมๆ กับ ยังทำงานเพื่อเงินไปพร้อมๆ กัน
อย่าประมาทนะครับ โลกเปลี่ยน และ ครั้งนี้โจทย์ ไม่ง่ายนะ
อ่านแล้ว แต่ละ Gen คุณคิดอย่างไร กันบ้าง ...คุณวางแผนตัวเองยังไง ...ถ้าคุณมีลูก คุณจะสอนให้เขาทำอย่างไร ?
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2560
ทำไมตลาดหุ้นขึ้นไม่รอใครเลย
หลายคนสงสัยว่าทำไมปีนี้หุ้นขึ้นตั้งแต่ต้นปี ไม่รีรอใครเลย ?
..ก็ถ้าคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ซื้อ มันก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ ...
แล้วเมื่อไหร่ตลาดจะย่อหนักๆ ล่ะ ?
...ก็เมื่อคนส่วนใหญ่กระโดดตามเข้าไป แบบกลัวตกรถ มันก็จะย่อจนน้ำตาไหล
อ้าว!! แล้วทำไมตลาดหุ้นมันถึงกวน.. .น ขนาดนั้นล่ะ ?
...มันไม่ได้กวน แค่คนส่วนใหญ่ไม่ได้พยายามรู้จักมันก็เท่านั้นเอง
- 'เมื่อคุณรู้จักตลาดหุ้นจริงๆ เขาเป็นมิตรกว่าที่คุณคาดคิดเยอะ'
...เขาทำให้คนธรรมดา เป็นเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศได้ เริ่มจากเงินน้อยนิด
...เขาทำให้คนธรรมดา สามารถเกษียณเร็วแล้วมีเงินใช้ตลอดจากเงินปันผลได้
...เขาทำให้คนธรรมดา รวยโดยไม่ต้องเป็นหนี้ธนาคาร
...แต่เขาแค่ไม่เป็นมิตรกับคนที่หวังจะรวยเร็ว เอาง่าย ไม่อดทน แค่นั้นแหละ
- 'เลือกเอาว่าจะผูกมิตรกับตลาดหุ้นแบบไหน'
ศึกษา สั่งสม อดทน
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
'เปลี่ยนจุดแข็ง เป็นจุดขาย' สร้างเครื่องผลิตเงินทางความคิด
'รวยได้ในวันเดียว เขาวางแผนกันยังไง' ..ต้องถาม Alibaba ..เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของ ความคิดล้วน ๆ (Idea นำ)
ปีที่ผ่าน อาลีบาบาขายของออนไลน์ในวันเดียวได้ 6 แสนล้านบาท ..ในวัน 'คนโสด' ..ที่เด็ดกว่านั้นคือ วันคนโสดนี่เริ่มจากจีนนี่เลย โดย แจ็ค หม่า เอามาเชื่อมกับ เทศกาลลดราคาออนไลน์ครั้งใหญ่ที่สุดในจีน ทำให้สามารถขายของได้แบบมหาศาลขนาดนี้
พูดเรื่องนี้ ผมนึกถึง คนญี่ปุ่น ที่ชอบจัดเทศกาลแปลกๆ ขึ้นมา ..แต่ก่อนผมก็ไม่ได้คิดอะไร ..พอเดี๋ยวนี้มาศึกษาวิธีคิด มันน่าทึ่งมาก เพราะเบื้องหลังเทศกาลต่างๆ มันเกิดจาก พ่อค้าหัวใส ที่หาเรื่องให้คนใช้เงิน - ซึ่งมัน Work สุดๆ ในการทำธุรกิจ
เพราะ คนอยากได้ข้ออ้างในการใช้เงิน (เราอยากได้ข้ออ้างที่ใช้เงินแล้วไม่รู้สึกผิด)
ดังนั้น การคิด วันพิเศษ อย่างวันคนโสด แล้วมาผูกกับการ Shopping แก้เครียด นี่มันสุดยอดไอเดียหาเงินจริงๆ
ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะอยากจะบอกว่า เราสามารถเอาวันคนโสดนี่เป็นแบบในการทำธุรกิจของเราได้
อย่างในประเทศไทยเรามีเทศกาลแปลกๆ เยอะมาก เพียงแต่ คนไม่ได้รู้จักกว้างขวาง ...นั่นก็เพราะ สมัยก่อนไม่มี Social Media ไง ทำอะไรมันก็ขยายยาก แต่ยุคนี้ต่างกัน เราสามารถใช้ Social Media ในการขยาย แล้วสร้างวันพิเศษขึ้นได้
ผมว่าได้ประโยชน์ ทั้ง ลูกค้า และ พ่อค้า เลย
ลองเอาวิธีคิดนี้ไปต่อยอดกับสิ่งที่เราทำน่าจะครับ
หลักๆ คือ
1. 'หา Theme ที่น่าสนใจ' ..อย่างผมทำงานเกี่ยวกับการลงทุน ถ้าผมจะทำ อาจจะสร้างวัน 'แมงเม่าแห่งชาติ' (สำหรับเยียวยา คนติดดอยหุ้น อะไรก็ว่าไป ตามจินตนาการเลย)
2. 'กิจกรรมต้องสุด' ..อย่าง อาลีบาบา นั่นลดจริงๆ ลดสุดขีด ถึงขายของได้วันเดียว 6 แสนล้าน เพราะ มันลดจริงๆ ...อย่างวันเม่าแห่งชาติ เราจะมาพบกับคนที่มีชะตาเดียวกัน ..ซึ่งวันนั้นอาจมีกิจกรรม หุ้นเน่าแลกส่วนลดคอนโด แล้วแต่คิดเลย
3. 'ความอิน' ..การทำกิจกรรมใดก็ตาม จะสำเร็จได้ คนต้องมีใจร่วม คือ 'อิน' ว่างั้นเถอะ
ยกตัวอย่าง
- วันเม่าแห่งชาติ
- วันพม่าแห่งประเทศไทย
- วันเที่ยวทั่วไทย (ทุกโรงแรม/สายการบิน/รถ ในไทย มาร่วมขายห้องราคาพิเศษ แทบแจกฟรี)
- วันคนเดิน (ห้ามใช้รถยนต์หนึ่งวัน ส่งเสริมให้ตระหนักสิ่งแวดล้อม - สุขภาพ และ รถไฟฟ้า)
- วัน..
ใครมีไอเดียดีเสนอหน่อย ..ส่วนใครทำได้ เตรียมการเลย ..จัดไป
ธุรกิจมันเริ่มที่ไอเดีย ...ทำไมเราต้องทำธุรกิจตามคนอื่น ...ทำไมพอเขาทำอุตสาหกรรมเราต้องทำอุตสาหกรรม ..ประเทศเราเหมาะกับประเทศอุตสาหกรรมตรงไหน ?
ผมว่าคนไทย เหมาะกับ ความ Creative ...ความติสแตก ...รอยยิ้ม ..บริการดี ...ดราม่าเยอะๆ
ศูนย์กลาง ดราม่า และ Creative แห่ง เอเชีย
...อาหารสุดยอดของโลก
...ละครและโฆษณาซึ้งและกินใจที่สุดในโลก
...การท่องเที่ยวและเทศกาล เอาให้สุด
ถามต่างชาติที่มาไทย ใครๆ ก็อยากอยู่ที่นี่
'ใครๆ ก็เห็นจุดแข็งของประเทศไทย - สร้างสรรค์ สบายๆ น่าอยู่ ชิว ..มีแต่เราเองไม่ได้พัฒนาจุดแข็งให้เป็นจุดขายก็เท่านั้นเอง'
อย่าเป็นเลยประเทศโรงงานนรกของโลก ...เป็นประเทศสร้างสรรค์และนวัตกรรมการท่องเที่ยว(บ้านที่สองของคนทั้งโลก) ล้ำความคิด นำการศึกษา และศูนย์กลางธุรกิจการบริการของโลกจะเหมาะกว่า
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560
อยากเหนือเงิน อย่าเอาแต่บ่น ลงมือทำซิ
เกลียดเงินไหม ? ..เกลียด !!
แต่ไม่มีได้ไหม ? ..ไม่ได้ ซวยดิ !!
หลายคนคิดว่า ฉันไม่ใช้เงินก็ได้ ไปอยู่ต่างจังหวัด ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ กินเอง ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวโลกภายนอก ...ก็ดีนะ ถ้าทำได้ - แต่เอาเข้าจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้นซิ ...พอป่วยทำไงล่ะ ...เอาไก่หลังบ้าน ไปแลกกับค่ารักษาเหรอ ?
ลูกหลานทำไงล่ะ ...? ...ไม่มีเงินให้ลูกนะ ไม่ต้องเรียนหนังสือหรอก ..หาความรู้ในทุ่งหญ้านี่แหละ
...เรียนพิเศษ ไม่ต้องไปเรียนหรอก ลูกได้สมองของฉัน สอบจุฬาติดแน่นอน ...เอางั้นเลยหรือ ?
...โคตรเครียดเลย ระบบ ทุนนิยม ...ก็เพราะมัน หมุนโดยใช้เงินเป็นที่ตั้ง
..ทางเดียวที่จะชนะ ในระบบนี้ คือ 'มีความรู้ เรื่องการลงทุน'
...การลงทุนคือ 'ความรู้ที่พวกคนรวย เขาใช้เพื่อรักษาเงินของเขาให้เพิ่มขึ้น โดยจัดสรรแล้ววางให้มันทำงาน'
...อยากชนะเงิน - 'ต้องเหนือเงิน'
เหนือเงินไม่ใช่หนีเงิน แต่คือ 'การเป็นนายเงิน' (ใช้เงินให้มันทำงานให้ ...วางเงินให้มันโตเลี้ยงเราแทน)
- เริ่มจาก 'เป็นลูกน้องเงินก่อน' เรียนจบทำงาน แลกเงิน อันนี้ลูกน้องเงิน
- พอเก็บเงินได้ ให้เริ่มศึกษา การลงทุน
- จากนั้น พอเราเริ่มวางเงินทำงาน 'วันนั้นถึงจะพูดได้เต็มปากว่า เราเหนือเงิน'
การชนะเงิน คือ เรียนรู้การเป็น 'นักลงทุน' ครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2560
เงินเฟ้อรุนแรงช็อคแพร็บ
เจอข้อมูลที่น่าสนใจจาก Bloomberg BW เลยเอามาแชร์ให้ดูกันเรื่อง Hyperinflation
เรื่องนี้ก็คือ ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง บางครั้งแรงจนเงินลดมูลค่ากลายเป็นกระดาษในเวลาสั้นๆ ..นึกภาพว่า เงินเก็บที่คุณมี กลายเป็นกระดาษ โคตรช็อก !!!
วันนี้ล่าสุดกำลังเกิดที่ เวเนซุเอลา ...กำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ ..ซึ่งก่อนหน้านี้ปี 2008 เกิดที่ ซิมบับเว่ ..ไอ้ที่เขาบอกว่า พอเกิดเงินเฟ้อรุนแรงทุกคนจะกลายเป็นมีเงินเป็นล้านๆ ..แค่ซื้อขนมปัง ต้องขนเงินไปเป็นกระสอบ ภาพแบบนั้นเลย
เดี๋ยวๆ ..หลายคนคิดว่า อันนี้เรื่องไกลตัว แต่ข้อมูลที่ Bloomberg เอามาให้ดูนี่ บอกว่า ประเทศพัฒนาแล้วอย่าง Germany , France , China , Taiwan , Russia ...เคยเกิดมาแล้วทั้งนั้น (ดูภาพที่ผมแนบให้ดู)
ที่ยกเรื่องนี้มาให้ดูกัน เพื่อให้ทุกคนอย่าประมาท ...ต้องรู้จัดวางแผนการลงทุนให้ดี ..การมีเงินสดอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ต้องแบ่งไว้ในสินทรัพย์ต่างๆ ด้วย
อย่างในเวเนซุเอลา เวลานี้เกิดเงินเฟ้อรุนแรงมาก ..แต่สิ่งที่ขึ้นตรงข้ามกับมูลค่าของเงินที่ลด ก็คือ สิ่งของ เครื่องใช้ อาหาร พลังงาน ..ทอง ก็เหมือนกัน มันไม่ได้ลด เพราะมันไม่ใช่กระดาษ !!
สิ่งที่อยากให้ศึกษากันให้เยอะ คือ การเข้าใจวิถีนักลงทุน ..นั่นคือ เราต้องเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว 'เงินคืออะไร?'
1. มูลค่าของเงินขึ้นกับอะไร ? ...จริงๆ ขึ้นกับเศรษฐกิจ ถ้าดี เงินแข็ง ถ้าแย่ สุดท้ายอาจซวยแบบ อาเจนติน่าก็ได้ ...แล้วเราป้องกันตัวเองยังไง
2. ทางเลือกในการออม นอกจากเงินสด แล้ว เราออมที่ไหนได้บ้าง ? ...เช่น เรารู้วิธีออมในสินทรัพย์ ออมในหุ้น ไหม
3. อะไรคือ Wealth ที่แท้จริง ? ...มันคือ ความสามารถที่แท้จริงของตัวเรา ...คนที่มั่งคั่งจริงๆ คือ คนที่ทำงานที่มีประโยชน์ต่อผู้คน
ยิ่งงานของเรามีประโยชน์ต่อผู้คนมากแค่ไหน ...เราก็ยิ่งมีความมั่งคั่ง ที่เกิดจากตัวเรา (เงินมันเป็นเรื่องรอง มันแค่เป็นเครื่องมือ ที่เราวางมันทำงานแค่นั้นเอง)
4. คนที่แก้ปัญหาและสร้างประโยชน์ให้คนอื่น จะร่ำรวย ทุกยุคสมัย ทุกสังคม ทุกประเทศ ...เพราะ คนเหล่านี้คือ ผู้นำ !!
เริ่มจาก นำตัวเอง ..หาจุดเด่นของตัวเอง ..พัฒนาจุดเด่น ให้ชัดเจน ...แล้ว ความเป็นผู้นำในตัวเราจะถูกปลุกขึ้น
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 สิ่ง ที่จะต้องดูในการเล่นหุ้นไทยขาขึ้น รอบใหม่ 1. ‘เด้งจากหุ้นใหญ่‘ …ในการเริ่มขาขึ้นรอบใหม่ จะเริ่มจากหุ้นใหญ่ เพราะ เม็ดเงินต่างๆ จะเข้...
-
"ฉันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว" นั่นคือ ความปรารถนาอันดับหนึ่ง จากการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ใช่!! ใครๆ ก็อยากเป็น ...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
“อยากเอาเรื่อง Alpha มาเล่าให้ฟัง” ...ในทุกสิ่งมีชีวิต จะมีจ่าฝูง มีหัวหน้า เช่น ฝูงลิง ฝูงหมาป่า ก็จะมีจ่าฝูง ...เรื่องที่น่าสนใจก็คือ ไ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
7 ข้อควรรู้ การลงทุนยาว กับ การเทรดสั้น อะไรรวยเร็วกว่ากัน 1. ‘การเทรดได้เงินเร็วกว่า’ …แต่ข้อเสียก็คือ เสียเงินเร็วพอๆ กัน ถ้าจับจังหวะไม่...
-
7 ความแตกต่างระหว่าง ลงทุนหุ้นไทย กับ หุ้นโลก 1. ‘Level Playground’ …เดิมทีคนที่สามารถไปลงทุนต่างประเทศต้องเป็นคนรวยมากๆ ใช้เงินเยอะ แต่ปัจ...
-
7 เรื่อง เบื้องลึกเบื้องหลังของคำว่า ‘เงิน’ ในโลกปัจจุบัน 1. ‘เงินในปัจจุบัน เป็นเงิน Fiat’ …เงิน Fiat สร้างจากหนี้ แปลว่า เงินในปัจจุบัน ไ...
-
8 ข้อต้องดู นักเล่นหุ้นสาย growth เดิมทีเล้นหุ้น value ก็ปันผลดีอยู่แล้ว ...แต่ยุคนี้ ควรคัดหุ้น growth เข้าพอร์ตด้วย เพื่อเร่งให้พอร์ตเราโ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...