แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2563

ถ้าไม่รู้หุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ ..จะซื้อทำไม


‘ถ้าไม่รู้ว่า หุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ ..แล้วเราจะซื้อหุ้นไปทำไม ?’

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า คนที่รวยจากหุ้น คือ รวยเพราะซื้อแล้วราคาขึ้นไปเรื่อยๆ

จริงๆ ไม่ใช่เลย !! ...ในตลาดหุ้น มีทั้ง นักเก็งกำไร และ ก็นักลงทุน ....ความแตกต่างของ คน 2 ประเภทนี้ คือ

วิธีคิดต่าง / การวางเงินต่าง / จังหวะต่าง ...พูดง่ายๆ ต่างกันเกือบทุกอย่าง มีอยากเดียวที่เหมือนกัน คือ ‘อยากรวยเหมือนกัน’

แต่ความตลกร้าย ก็คือ ทั้งนักลงทุน และ นักเก็งกำไร แม้ว่า จะอยากรวยเหมือนกัน ...แต่ ‘วิธีการรวย’ ยังไม่เหมือนกันเลย

ยังไง ?

1. ‘ความรวยของนักเก็งกำไร’ คือ ต้องการโกยเงินมาหาตัวเองให้เร็วที่สุด ...เขาจึง ซื้อขายหุ้นเร็วๆ โดย อาศัยจังหวะ ข่าว และ อารมณ์ตลาด ในการเข้าซื้อขายเก็งกำไร ...การรวยในแบบนี้ มีข้อดี คือ ได้เงินเร็ว แต่ปัญหาของการรวยแบบนี้คือ มันได้เงินน้อย ไม่ค่อยยั่งยืน และ มันเหนื่อย ...มันต้อง เครียด ต้องหนักตลอดเวลาที่ซื้อขายหุ้น เพราะ ถ้าพลาดมันก็เสียหายทันที ....แถมเวลาเสีย มันเสียก้อนใหญ่ และ เสียเร็ว นี่คือ ความโหดของชีวิตนักเก็งกำไรครับ

2. ‘ความรวยของนักลงทุน’ คือ ต้องการรวยจาก สินทรัพย์ ไม่ใช่รวยจากเงินสด ...วิธีคิดของนักลงทุน ก็คือ เขาต้องการมีสินทรัพย์ ที่สามารถทำเงิน ทำงานแทนเขาในระยะยาว

วิธีการของนักลงทุน ...เขาจะ ทยอยซื้อ สินทรัพย์ เช่น หุ้น ในเวลาที่มันราคาถูก ซึ่งมักจะเป็นช่วงที่ตลาดมีวิกฤต แล้วราคาหุ้นลงเยอะๆ ...พอซื้อแล้วก็เก็บยาวไปเลย ไม่ขาย ...”อ้าว!! ซื้อหุ้นแล้วไม่ขาย จะรวยได้ไง เดี๋ยวราคาหุ้นลงไป ก็เสียโอกาส” ...คนทั่วไปคิดว่า ถ้าไม่ขายหุ้น พอราคาขึ้นไป แล้วลงมาก็เสียโอกาส แต่นักลงทุนมองโอกาสไม่เหมือนคนทั่วไป

เขาจะมองว่า โอกาส คือ ‘โอกาสในการซื้อเครื่องผลิตเงิน เวลาที่ราคามันถูก ..จากนั้น เขาจะรับปันผลไปเรื่อยๆ ค่อยๆ รอปันผล โตไปกับบริษัท กับหุ้นที่ลงทุน’

....ใช่ !! เขียนมาซะยาวเลย เพื่อจะบอกว่า ‘ถ้าไม่รู้ว่าหุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ แล้วจะซื้อไปทำไม?’

ก็ตอบง่ายๆ ว่า ‘ซื้อเพื่อสะสมสินทรัพย์ เวลาที่ราคามันถูก แล้วก็อดทนรวยนั่นเอง’

ผมเอง เลือกแนวทางของนักลงทุน ...ซื้อสะสม ไม่ขาย ‘ออมในหุ้น!!’ บางตัวขึ้นไปไม่ลง บางตัวขึ้นไปแล้วลงมาที่เดิม แต่สิ่งที่ได้สม่ำเสมอ คือ เงินปันผลผมค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ...ผมกำลังเพิ่มจำนวนเครื่องผลิตเงิน ทุกครั้งที่มีวิกฤต

...ยิ่งผมทำมันนานขึ้น ผมก็เรียนรู้ว่า ผมเข้าใจนักลงทุนมากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น

...เรียนรู้แล้วเติบโตทางความคิด ไปกับมันครับ !!

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

สนใจเปิดบัญชีหุ้น หรือ ออมหุ้น คลิ๊กที่นี่เลย
http://bls.tips/pawawitTeam

หรือ โทร 02-618-1111 บอกทีมงาน ว่า “เอาแบบออมหุ้นอัตโนมัติ ที่พี่แพ้ทแนะนำ”

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563

โอกาสมีไว้สำหรับคนที่พร้อมเท่านั้น


‘โอกาส มีไว้ สำหรับคนที่พร้อม !!’

เรื่องของโอกาส เป็นสิ่งที่หลายๆ คนบ่นว่า ..ชีวิตเขาไม่เคยมีโอกาส !!

ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่

โอกาส จริงๆ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ...โอกาสมีทุกครั้งที่มันมีวิกฤต เพราะ วิกฤต กับ โอกาส มันเป็นของคู่กัน และ มาด้วยกันเสมอ

อย่าง ตลาดหุ้น ทุกครั้งที่มีวิกฤต มีคนเสียหาย ..ก็จะมีคนอีกด้านที่กำไรมหาศาล ทุกครั้ง

แต่ประเด็นที่สำคัญกว่า ก็คือ เวลาวิกฤตมันมาถึง ต้องถามตัวเองว่า ครั้งนี้เราพร้อมไหม ?

ความพร้อมมี 2 อย่าง ก็คือ

1. ‘ความรู้เรามีพร้อม’ ..พูดง่ายๆ ศึกษา แล้วเตรียมเงินมาอย่างดีแล้ว

2. ‘ใจพร้อม’ ...อันนี้ยากกว่า ความรู้พร้อม ...เพราะ เวลาที่วิกฤตมา คนที่เตรียมตัวมาดีแล้ว ก็อาจไม่กล้าซื้อ เพราะคิดว่า ...อยากซื้อในจุดที่ต่ำที่สุด ...แต่สุดท้ายพอวิกฤตผ่านไป ก็ยังไม่ได้ซื้อ ...พอโอกาสมา ก็ยังไม่ได้ซื้อ ...สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ

ผมเดินสายไปคุยให้ความรู้การลงทุนกับคนรุ่นใหม่ ก็มักจะมีคำถามนึง ที่น่าสนใจมาก คือ น้องๆ เขาถามว่า ในโลกนี้มีคนเก่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือ ไม่รวย ไหม ?

ผมตอบว่า ‘มีเยอะแยะ ...เก่งแต่ไม่รวย เยอะแยะ’

ทำไมล่ะ ?

‘ก็ใจไม่ถึงไง’

กลับมาที่ข้อสอง ‘เรื่องของใจ’

น้องๆ ถามต่ออีกกว่า ‘แล้วคนเราจะฝึกเรื่องใจอย่างไร ?’

อันนี้แหละยาก เพราะ การฝึกใจมันอาศัย ‘เวลา’ ..ซึ่งก็คือ ประสบการณ์ที่เราสั่งสม ทดลองปฏิบัติ จนสุดท้ายเกิดความมั่นใจ ในสิ่งที่ทำนั่นเอง

- ถ้าใครไม่เคยผิดพลาด จะคิดว่า ความผิดพลาด มันน่ากลัว ...แต่คนที่เคยผิดพลาดแล้ว จะรู้ว่า ความผิดพลาด มันก็แค่ ประสบการณ์อย่างนึง ..ถ้าเรายอมรับแล้วเดินต่อ มันกลับเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น

- ชัยชนะ ต่างหาก เป็นสิ่งที่น่ากลัว ...เพราะ เวลาที่เราชนะเรามัก ย่ามใจ หลงตัวเอง จนสุดท้าย ชัยชนะแต่ละครั้งก็จะนำความผิดพลาดครั้งต่อไปมาหาเราในที่สุด

- ‘การคุมความเสี่ยง’ จริงๆ คือ หัวใจที่ทำให้นักลงทุนแต่ละคนมั่งคั่ง

- ในวิกฤตแต่ละครั้ง คนที่มีความรู้พร้อม คำนวณแล้วว่า การลงทุนในจุดนั้นๆ มี ความเสี่ยงจำกัด แต่โอกาสไม่จำกัด ...เมื่อเข้าใจความเสี่ยงอย่างเรียบร้อย ก็เหลือแค่ส่วนของใจ ว่า ‘ใจถึงหรือเปล่า’

ดังนั้น ‘ไม่มีหรอก คนที่ไม่มีโอกาส’ ...เพราะ โอกาส มันไม่ใช่สิ่งที่เราได้รับ เหมือนถูกหวย ถูกรางวัล ...แต่โอกาส มันเป็นสิ่งที่เราแต่ละคน สร้างมันขึ้นมาเองต่างหาก

สร้าง จากความรู้ พัฒนาจิตใจ ...จนประสบความสำเร็จ จากทุกโอกาสที่สร้างขึ้นมาเอง !!

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563

รอบใหญ่ ของตลาดหุ้น คืออะไร

"รอบใหญ่ ของตลาดหุ้น คืออะไร ?"

เรื่อง "รอบ" เป็นความรู้ ที่มีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาว ...เพราะ มันจะช่วยให้เรารู้ว่า เมื่อไหร่ ตลาดหุ้นถูก หรือ แพง เมื่อเทียบกับ สถิติในอดีต ...พอเราเข้าใจเรื่อง "รอบ" ก็จะช่วยให้เราบริหารความเสี่ยงในการซื้อหุ้นสะสมได้แม่นยำมากขึ้น

วันนี้ผมเลยเอา "รอบของตลาด SET" มาให้ลองศึกษากันดูครับ ...ผมจะขอสรุป ง่ายๆ เป็น 5 ข้อ ดังนี้

1. "ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นจบรอบ จะสร้างเศรษฐีใหม่" ...พูดง่ายๆ ว่า จากสถิติ คนที่ซื้อหุ้น ตอนที่ตลาดมีวิกฤตใหญ่ แล้วถือยาว ก็มักจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ขนาดที่ว่า เป็นเศรษฐีและสร้างตัวกันได้เลยทีเดียว

2. ตลาดหุ้นบ้านเรา อยู่ใน "รอบที่ 4" ...ถ้าดูจากสถิติ จะพบว่า ตลาด SET ของไทย เรามีรอบสร้างเศรษฐี รอบที่ 1 อยู่ที่ ปี 1981 ...รอบที่ 2 คือปี 1997 ...รอบที่ 3 คือปี 2008 ...รอบปัจจุบันคือ รอบที่ 4 นั่นเอง !!

3. "เวลาตลาดหุ้น จบรอบ เราจะสามารถซื้อหุ้นดี ได้เกือบเท่าต้นทุนของเจ้าของ" ...โดยปกติเจ้าของบริษัท คือ คนที่ลงทุนได้ถูกที่สุด ซึ่งนักลงทุนต้องซื้อแพงกว่าเจ้าของตลอด ..ยกเว้นในช่วงวิกฤต ที่ราคาหุ้นมีโอกาสลงมาถูกเท่าๆ กับที่เจ้าของลงทุน (Price per Book Value เท่ากับ 1) หรือ อาจจะถูกกว่าที่เจ้าของลงทุนด้วยซ้ำ ...ใช่!! มันคือ โอกาสทองของการลงทุนระยะยาวแบบ ออมในหุ้น (ซื้อแล้วไม่ขาย กินปันผลตลอดไป เหมือนเจ้าของ)

4. "เงินเย็น และ การบริหารความเสี่ยง จำเป็นที่สุดในการออมในหุ้น" ...หลายคนจะคิดว่า ต้องมีเงินมากถึงจะเล่นหุ้นได้เปรียบ ...แต่จริงๆ คนที่ได้เปรียบกว่า คือ คนที่มีเงินเย็น (มากน้อยไม่สำคัญ ...สำคัญว่าเงินเย็นหรือเปล่าต่างหาก) ...เพราะ การลงทุนในวิกฤต เราไม่รู้ว่า เมื่อไหร่ราคาหุ้นจะกลับมาดี ...หากใช้เงินร้อน เงินกู้ อาจเสียหายหนัก เพราะ ถ้าตลาดซึมนาน ราคาหุ้นอาจลงต่อ หรือ ปันผลในปีนี้ ลดลง ก็จะทำให้คนที่ใช้เงินร้อน อาจต้องยอมขายหุ้นทิ้งออกมาทั้งๆ ที่ขาดทุน เกิดความเสียหายได้ ....ดังนั้น ย้ำว่า "เงินที่ใข้ซื้อหุ้นถูกในวิกฤต ต้องเย็นครับ"

5. "ความรู้ และ ประสบการณ์ ลงทุนผ่านวิกฤต จะทำให้เราเอาตัวรอด และ หาโอกาสได้ ตลอดไป" ....หลายคนอาจไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วเศรษฐีหุ้น ไม่ได้จำเป็นว่า ต้องซื้อต่ำที่สุด ...บางครั้งซื้อหุ้นแล้วก็อาจลงต่อได้ ...แต่สิ่งที่เราได้จากการลงทุนแบบนี้ คือ "ประสบการณ์และ ความเก๋า" ...ซึ่งความเก๋าตรงนี้เอง ที่จะทำให้เราเห็นโอกาสในทุกครั้งที่ตลาดมีวิกฤต บริหารเงินและเลือกหุ้นได้ดี ทุกครั้งนั่นเอง

ก็เอามาแชร์ให้ลองศึกษากันครับ ...ที่คนพูดกันว่า ในวิกฤตมีโอกาส มันถูกครึ่งเดียว เพราะ "ความรู้และประสบการณ์" มันคือ อีกครึ่งของการจัดการโอกาส ที่เราสั่งสม เรียนรู้ และ ยกระดับตัวเองเป็นนักลงทุนที่มีคุณภาพนั่นเองครับ

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

สนใจเปิดบัญชีหุ้น หรือ ออมหุ้น คลิ๊กที่นี่เลย
http://bls.tips/pawawitTeam

หรือ โทร 02-618-1111 บอกทีมงาน ว่า “เอาแบบออมหุ้นอัตโนมัติ ที่พี่แพ้ทแนะนำ”

6 ข้อ หลักการลงทุนในวิกฤตตลาดหุ้น




6 ข้อ หลักการลงทุนในวิกฤตตลาดหุ้น

ในตลาดหุ้น มีทั้งคนรวยและเจ๊ง สลับกันไป ...แต่เสน่ห์ของตลาดหุ้นก็ยังมีเสมอ เพราะ ตลาดหุ้นสามารถสร้างเศรษฐีในชั่วข้ามคืน (และก็เจ๊งข้ามคืนเช่นกัน)

วันนี้ผมอยากจะเอา หลักการ 6 ข้อ มาช่วยให้เพื่อนๆ สามารถ คว้าโอกาสในวิกฤตตลาดหุ้นครั้งนี้ ...ผมใช้มันได้ดีเกือบทุกรอบที่ตลาดมีวิกฤต ...ก็ลองไปปรับใช้กันดูครับ

1. ‘มองการซื้อหุ้นเหมือนปลูกต้นไม้ เพื่อกินผล’ ...เวลาตลาดปกติ คุณจะซื้อมาขายไป ปลูกวันนี้กินพรุ่งนี้แบบถั่วงอกก็ทำได้ ...แต่ในเวลาตลาดวิกฤต เราควรเน้นลงยาว กินปันผล เพราะ มันคุ้มกว่า ..โอกาสซื้อมาขายไป ทำเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ลงยาวแบบเปลี่ยนชีวิต มันมีแค่ 10 ปีมีครั้งเดียว

2. ‘ให้มองแต่ซื้อ ไม่มองขาย’ ...ถ้ามองทั้งซื้อและขาย สุดท้าย เราจะได้แค่ส่วนต่างกำไรเล็กๆน้อยๆ ...ไม่มีหุ้นเปลี่ยนชีวิตในพอร์ต

3. ‘ใช้เงินเย็น ห้ามใช้เงินกู้ หรือ มาร์จิ้น’ ...ในเวลาที่ไม่แน่นอน ต้องใช้เงินเย็น เพราะตลาดจะเริ่มขึ้นจริง เมื่อคนเล่นมาร์จิ้นเจ๊งก่อน ...นี่คือ ความโหดของตลาด

4. ‘กระจายหุ้น ให้เยอะ’ ...หลายคนอาจคิดว่า ถ้าจะรวยต้องเน้นหุ้นน้อยตัว ...ใช่!! ในตลาดขาขึ้น การเล่นน้อยตัว อาจรวยได้เร็วกว่า ...แต่ในวิกฤตที่หุ้นส่วนใหญ่ถูก การกระจายซื้อ สร้างโอกาสรวยได้ชัวร์กว่าครับ

5. ‘เงินใช้จ่าย กับ เงินลงทุน ต้องแยกกันชัดเจน’ ...ทุกวิกฤตคนที่ชนะ คือ คนที่บริหารเงินดี ...นั่นคือ การแยก เงินใช้จ่าย กับ เงินลงทุน ชัดเจน ไม่มั่ว ....คนที่เรียกว่า ‘พร้อมลงทุน’ ไม่ใช่คนเงินเยอะ แต่คือ ‘คนที่เงินพร้อม’ ต่างหาก

6. ‘หาเหตุผลด้านบวก ที่จะทนรวย’ ...สิ่งที่ยากที่สุด ในการลงทุนในวิกฤต ก็คือ Mindset ...เพราะทุกข้อมูลข่าวสารรอบๆ ตัว มันบอกเราว่า ไม่ควรลงทุน ...มันมีแต่ข่าวร้าย และ ความกลัว ...แต่จุดที่ราคาหุ้นถูกที่สุด มักเป็นเวลาที่ข่าวร้ายสูงสุดนั่นเอง

ลองปรับใช้ 6 ข้อนี้ แล้วลงทุนอย่างมีสติ ...สู้ สู้

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

สนใจเปิดบัญชีหุ้น หรือ ออมหุ้น คลิ๊กที่นี่เลย
http://bls.tips/pawawitTeam

หรือ โทร 02-618-1111 บอกทีมงาน ว่า “เอาแบบออมหุ้นอัตโนมัติ ที่พี่แพ้ทแนะนำ”

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ