Nexus อยากจะเล่า …ep 1
วันก่อนไปเดินห้าง ผ่านร้านหนังสือ เห็นหนังสือเล่มใหม่ของ Yuval Harari ลดราคา 20% ….ป๊าบ !! รีบเข้าไปเปิดอ่าน
บอกตรงๆ ชอบตั้งแต่เล่มแรกละ Homo Sapien …เป็นหนังสือขายดีมาก ที่อ่านแล้วจับประเด็นยากมาก เพราะ ข้อมูลมันทะลัก …สรุปคือ มันอ่านยาก …ส่วนใหญ่ก็รอให้คนอื่นเอามารีวิว เล่าให้ฟัง ง่ายกว่า
มาเล่มนี้ดีกว่า Nexus …ถ้าแปลตรงๆ คือ จุดเชื่อม หรือ แก่นของเรื่อง …เอาตรงๆ ถ้า นักเขียนโนเนม แล้วตั้งชื่อหนังสือแบบนี้ รับรอง ขายไม่ได้ …ไม่มีใครหยิบอ่านแน่ๆ
ถ้ายุคนี้ ต้องตั้งชื่อหนังสือ ตามกลุ่มคนอ่านถึงจะขายดี เช่น ถ้าจะจับคนรุ่นใหม่ หนังสือ ก็ต้องแบบว่า ‘รวยตะโกน’ …รวยขี้แตก ขี้แตน รวยจนเพื่อนอิจฉา รวยแบบไม่ต้องรู้ที่มาที่ไป
…มาคุยประเด็นที่ผมชอบในหนังสือ Nexus มาคุยกันดีกว่า
เข้าประเด็น!!
1. ‘ข้อมูล คือ จุดเชื่อมต่อ ที่ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ทรงพลังที่สุดในโลก‘
…ต้องยอมรับว่า มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แข็งแรงที่สุดในโลก แต่เป็นสิ่งมีชีวิตเดียว ที่สามารถรวมตัวกัน ที่เขาเรียกว่า Network ได้ จำนวนมากที่สุด
ถ้าคุณเอาลิง สักพันตัว มารวมกันในสนามฟุตบอล มันคงสู้กันเละ …ยังไม่ต้องพูดว่า ให้ลิงรวมตัวกัน ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน …ใช่!! สัตว์อื่นรวมพลังกันทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ เท่ากับที่มนุษย์ทำ
เราสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่าง ปิรามิด กำแพงเมืองจีน รถยนต์ เครื่องบิน โบสถ์ ปราสาท เครือข่ายศาสนา บริษัทข้ามชาติ ประเทศ อาณาจักร
ทั้งหมดที่ทำให้เรา สามารถมารวมตัวสร้างสิ่งที่พูดมา ก็คือ Nexus !!! …’แก่นสาร หรือ ข้อมูล ที่ทำให้เรามารวมตัวกัน‘
2. ’จุดเชื่อม จะทรงพลัง ถ้าเป็นคน‘
…จุดเชื่อมของ Apple ก็คือ Steve Jobs , จุดเชื่อมของศาสนา ก็คือ ศาสดา (เรื่องเล่าของศาสนา ซึ่งเราต่างก็รู้สึกว่า มันเหลือเชื่อ เกินจริง) …แต่ก็นั่นแหละ ‘เรื่องราว‘ ที่เชื่อมต่อ มันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นจริงก็ได้ …เช่น Steve Jobs เราจะมองว่า เป็นอัจฉริยะ สุดยอด …แต่คนใกล้ชิดลูกน้อง อาจมองอีกแบบ …ซึ่งไม่สำคัญเลยว่า ตัวจริงของ Steve Jobs จริงๆ จะเป็นยังไง เพราะ ในชีวิตจริงก็คงมีไม่กี่คนหรอก ที่จะได้สนิทใกล้ชิด แล้วรู้จัก Steve Jobs จริงๆ ดังนั้น สิ่งสำคัญกว่าคือ ความเป็น ‘Nexus’ ที่เชื่อมต่อความอัจฉริยะ การคิดนอกกรอบ ความยิ่งใหญ่ ….นั่นแหละ Nexus คือ ศาสดาของ Startup คนรุ่นใหม่ ที่ฝันอยากจะเปลี่ยนโลก
3. ’Network ยิ่งใหญ่ ก็ยิ่งร่ำรวยและทรงพลัง’
…ใช่!! ยิ่งใครสามารถสร้าง Network ที่รวมตัวคนได้ใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งร่ำรวยมหาศาล …ในโลกเรา Network ที่ใหญ่มากๆ ก็เช่น ศาสนาคริสต์ มีคน 1.4 พันล้านคน …Nexus ก็คือ เรื่องราวใน Bible ที่เชื่อมโยงคนพันล้านเข้าด้วยกัน …เชื่อในเรื่องเดียวกัน …และ ทำให้คนแปลกหน้าพันล้านคน รู้สึกเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน ทำกิจกรรมร่วมกันได้ เพียงแค่อยู่ใน Network เดียวกัน
…นี่แหละพลัง ที่ Homo Sapien หรือเผ่าพันธุ์มนุษย์มี …คือ เราเชื่อในเรื่องราว ที่สัตว์อื่นไม่สามารถเชื่อได้
…ถ้าคุณไปบอกลิงว่า ให้มันแบ่งกล้วยของมัน ให้กับลิงตัวอื่น แล้วพอมันตาย มันจะขึ้นสวรรค์ลิง แล้วบนสวรรค์ลิง จะมีกล้วยไม่จำกัดให้กินเลย …ถามว่า ถ้าคุณบอกลิงแบบนี้ มันจะแบ่งกล้วยให้ลิงตัวอื่นไหม ?
…ฮึม!! แน่นอน ….ถ้าลิงมันพูดได้ มันคงด่าเราว่า ’ไอ้บ้า!!‘ ไอ้มนุษย์ มรึงเพี้ยนไปหรือเปล่า
แต่คนทำ …คนเชื่อ !! …นี่แหละ พลัง !!! เพราะ มัน ทำให้มนุษย์สามารถรวบตัวกันเพราะ เรื่องราวเหล่านี้ แล้วร่วมกันสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง
….จะพูดว่า ’ความไร้สาระ …เป็นจุดเริ่มของสาระที่ยิ่งใหญ่‘ ก็น่าจะได้
…อ้อ!! เวลานี้เครือข่าย ที่ใหญ่ที่สุด แล้วทำให้คนมารวมตัวกัน ทำสิ่งเดียวกัน ยิ่งใหญ่ที่สุดตอนนี้ก็คือ Global Trade (การค้าโลก) ส่วน ’เรื่องราว(ไร้สาระ ?) ’ - สิ่งไร้สาระ 3 จุดเชื่อม ที่ทำให้การค้าเป็นไปได้ คือ
1. เงิน (วันนี้ใหญ่สุดก็ US Dollar ที่หลายๆ คน พูดว่า มันจะไร้ค่า …แต่เอาตรงๆ นะ มันยังเป็น เรื่องราวของเงินที่ทรงพลังมากที่สุด ในโลก ณ เวลานี้นะ …มันเป็นกระดาษ(ตัวเลขเฉยๆ) ที่ไม่มีสินทรัพย์อะไรหนุนหลังเลยนอกจากหนี้)
เรื่องราวที่ทรงพลังของเงิน รองลงมาจากดอลลาร์ น่าจะเป็น ‘ทองคำ‘ …และ ถ้าสำหรับคนรุ่นใหม่ ’เรื่องราว‘ นั้น น่าจะเป็น Bitcoin
เอาเถอะ กลับมาที่ดอลลาร์ …โอเควันนี้เป็น สกุลหลัก หรือเป็น เส้นเลือดไหลเวียนหลักที่ทำให้การค้าโลก เป็นไปได้
2. บริษัท …ก็คือ ผู้ค้า ผู้ขาย …บริษัทต่างๆ ตั้งแต่ Apple , Wal-mart , CP , 7-11 , เซ็นทรัล ….ทุกๆ องค์กร ก็คือ ’เรื่องราว’ แต่ละองค์กร ที่มีจุดเริ่ม เป้าหมาย จุดหมาย ที่มัน Unique แตกต่างกันไป
3. Brand …ก็ Brand ต่างๆ ที่เรารัก รู้จัก คุ้นเคย ก็คือ ’เรื่องเล่า‘ ที่เราเชื่อ ….Ferrari เป็น brand ที่ทรงพลัง ทั้งที่เอาตรงๆ เราส่วนใหญ่เห็นแค่ในรูป ไม่ได้มีโอกาสสัมผัสจริงๆ …ซึ่งมันไม่ได้ขับสุดยอดหรือแรงไปกว่ารถไฟฟ้า แต่!!!! ….แต่มันเท่ห์ ….นั่นแหละ ’เรื่องเล่า’ ที่ทรงพลัง
3 จุดที่เล่ามา ทำให้ เกิด Global Trade (โลกค้าขายกัน) …แล้วมันยิ่งใหญ่ ตรงไหน ?
…ถามหน่อย สมัยที่โลก แยกกันอยู่ ดินแดนใคร ดินแดนมัน …สมัยนั้น เขาทำอะไรกัน ….ใช่!!! แม่งรบกัน ฆ่ากันครับ
ดังนั้น การค้าจึงเปลี่ยน สนามรบ เป็น สนามการค้า ….เราถึงเรียนหนังสือ เพื่อค้าขาย …ไม่งั้นคุณกับผม ต้องเรียน การฆ่า การรบ
4. ’เรื่องราว’ ทุกวันนี้สร้างง่ายขึ้น ด้วย Social Network
….ครับ!! สมัยก่อนน่ะ …ถ้าคุณจะเล่าอะไรสักอย่าง มันต้องผ่าน หนังสือพิมพ์ , ทีวี , วิทยุ …นั่นแหละ จุดเชื่อมต่อสมัยนั้น
จำได้ไหม เวลาทหารเขาปฏิวัติ เขาก็จะไปยึด ทีวี แล้วก็ประกาศ อะไรก็ว่าไป ….ถามหน่อยเดี๋ยวนี้ จะยึดอะไร …ยึด YouTube? …ปิด Facebook ? …เออ ปิดไม่ได้ ไม่ใช่ของเรา
โอเค เข้าประเด็นคือ ทุกวันนี้ มันมี Social Network ที่เปิดให้ทุกคน ’เล่าเรื่อง’ สร้างจุดเชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น …ใช่!! เราเป็น Nexus ได้
….นั่นแหละ ความแจ๋ว …เพราะยุคนี้ ’ความดัง’ คือ ความสามารถในการหาเงิน
5. ’สิ่งที่เปลี่ยน กับ สิ่งที่ไม่เปลี่ยน …ถ้าเราเรียนรู้จากประวัติศาสตร์แล้วลงทุนในสิ่งที่ไม่เปลี่ยน เราจะเป็นเศรษฐี‘
…เวลาอ่านประวัติศาสตร์เยอะๆ เราจะพบว่า สิ่งที่กำลังเกิดในปัจจุบัน จริงๆ มันเคยเกิดในอดีตมาแล้ว ….เพียงแต่มันไม่ได้เหมือนเป๊ะ !!
…ถ้าใครปรับใช้ได้ดี จะได้ประโยชน์มาก ….เช่น ทุกวันนี้เรากำลังกลัวว่า AI สุดท้ายจะมาทำลายมนุษย์ …คิดง่ายๆ ถ้ารถทุกคันใช้ AI ควบคุม เราจะรู้สึกอย่างไร
…สมมุติเราทำผิด เราอยากให้ คนตัดสิน ผู้พิพากษาเป็นมนุษย์ หรือเป็น AI ล่ะ ?
…ตอนแรกผม ก็มองว่าเรื่องนี้ไกลตัว แต่ทุกวันนี้ หลายๆ ธนาคาร เอา AI มาอนุมัติสินเชื่อแล้วนะ ….แล้วตลาดหุ้นน่ะ เอาแค่บ้านเรา ระบบเทรด AI ที่ต่างชาติ เอามาใช้ซื้อขาย คือ ให้คอมพิวเตอร์ซื้อขายอัตโนมัติ นี่บ้านเราน่าจะเกือบ 50% ของ Volume การซื้อขาย
อันนี้ไม่รวม Forex การซื้อขายค่าเงินระหว่างประเทศ วันนึงเป็น Trillions ล้านล้าน …นั่นแหละ ใช้ AI แทบทั้งหมด
อย่าง Facebook , Tiktok ข้างหลังก็คือ AI ในการเลือกว่า โพสใดจะดัง …ใครจะเกิด !!!
…โหนกระแส ..พี่หนุ่ม เป็นคนเลือกว่าใครจะดัง !! ….แต่ Facebook …ผู้ที่เลือกไม่ใช่คน ไม่ใช่พี่ Mark แต่เป็น Code เป็น AI
…ใช่!! AI จริงๆ มันใกล้ตัวเรามากๆ
เล่าไปยาว จะบอกว่า ’สิ่งที่เปลี่ยน กับ สิ่งที่ไม่เปลี่ยน‘ ของมนุษย์คืออะไร ?
…สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือ มนุษย์ เก่งและจะพัฒนาไปจนมันทำลายตัวเอง ….เฮ้ย!!
..ยุคโบราณ ก่อนการค้า เรารบกัน ฆ่าเป็นอาชีพ …ทหารรวยสุด …เพราะ ’เรื่องราว’ ที่คนยุคนั้นต้องการคือ ‘อำนาจ‘ ….ต่างกับยุคนี้ เราต้องการ ‘ความมั่งคั่ง‘
’เรื่องราว เปลี่ยนนิดเดียว …ชีวิตเปลี่ยนมหาศาล‘
…ตอนที่เราฆ่ากัน …ใครพัฒนาอาวุธได้ทำลายล้างมากที่สุด คนนั้นดีที่สุด ….เราพัฒนาจาก ดาบ ไปเป็นธนู ไปปืน ไปรถถัง เครื่องบิน …แล้วสุดเลย ที่ระเบิดปรมาณู !!!
ใช่!! ครับ …ถ้าวันนั้น สมมุติมีผู้นำ ที่แพ้สงคราม แต่กรูไม่แพ้ แล้วตัดสินใจ ยิงปรมาณูขึ้นมา …นึกภาพไม่ออกเลยว่า ถ้าสุดท้ายเขาลุยกันด้วยระเบิดปรมาณูแบบเต็มรูปแบบ …วันนี้โลกคงพังทั้งโลกไปแล้ว
งั้นแปลว่า ที่เรากลัว AI จะมาทำลายมนุษยชาติ ..แน่ก่อนเราผ่าน วิกฤตที่เลวร้าย กว่ามาแล้ว คือ ระเบิดปรมาณู ….แล้วเราก็ผ่านมาได้
….
….ค้างไว้ก่อน …ใครอ่านถึงตรงนี้ แปลว่า เฮ้ย!! คุณอ่านมาถึงตรงนี้ได้ไง โคตรยาว ยุคนี้ไม่มีใครอ่านหนังสือแล้ว จริงๆ หรือ ไม่ใช่ ?
Ok ..ใครอ่านถึงตรงนี้ช่วย Comment หน่อยนะครับว่า ‘เออ!! กรูอ่าน‘ …555
…
(โอเค …เดี๋ยวผมว่าง แล้วจะมาเขียนเล่าต่อนะ)