วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553
"กับดักตลาดหุ้น" ..หัดเป็นคนช่างสังเกตุ!!
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี")
ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามองย้อนหลัง ปันผลไม่ดี แต่ปีนี้ "ดันปันผลดี"(ทำไมล่ะ)..จะหลอกปันผลดีๆ ให้ใครเข้ามาซื้อหรือเปล่า !!
ประเด็นที่สอง P/BV กับ P/E ลดต่ำลงอย่างมีนัย (คือ หุ้นถ้ามันดีขึ้น P/E กับ P/BV มันต้องขึ้นซิ -- แต่นี่มันกลับลดลง ..ซึ่งในมุมของการพื้นฐาน มันแปลว่าหุ้นราคาถูก)
แต่ไอ้ที่แปลกมาดูตรงนี้
"หุ้นดูพื้นฐานโอเค ..แต่ขาใหญ่ ขายทิ้งเอา ทิ้งเอา" ลากราคาตกกระจาย ...แถมจุดที่น่าสนใจคือ "ราคาที่ขายทิ้งเป็นราคาที่เขาไม่ได้กำไรอีกต่างหาก เพราะถ้าย้อนดูราคาที่ทิ้งหุ้นตอนนี้ ถือว่าต่ำมาก ..ดูจะต่ำกว่าต้นทุนของเจ้ามือด้วยซ้ำ"
สรุปแล้ว ถ้าเห็นอย่างนี้ หลายคนอาจ "ว๊าว!! อยากกระโดดเข้าไปเก็บ" (แต่ผมมองว่า มันเป็นอะไรที่เสียวนะ!! เพราะ อย่างแรกรายใหญ่ หรือ เจ้ามือ เขาควรจะรู้ข้อมูลลึกๆอะไรที่รายย่อยไม่รู้ ...คือ ถ้ารู้สิ่งที่เขารู้แล้วทำให้เขาขายทิ้งหุ้นแบบนี้ ผมมองว่า มันย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างแน่นอน)
ในมุมมองของผม "ผมจะไม่เข้าไปรับหุ้นแบบนี้ ถึงแม้มันจะดูน่าสนใจก็ตาม"
ประเด็นที่ผม ยกขึ้นมาเพื่ออยากจะชี้ประเด็นของ Price Discount everything ในมุมของนักเล่นหุ้นเชิง Technical ว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจเหมือนกัน .... เพราะบางครั้ง บางจุด เช่น Inside Trader ต่างๆ ที่เอาข้อมูลลึกๆของบริษัทมาซื้อขายหุ้น มันเป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้น
แต่สำหรับ Technical มันแสดงให้เห็นใน "ราคาหุ้น" ...อย่างหุ้นที่ยกมาให้ดู การที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทิ้งหุ้นที่ดูดีในเชิงพื้นฐาน มันก็จะแสดงให้เห็นในกราฟ ถึง ราคา และ RSI ที่ทิ้งลงอย่างรวดเร็ว ...ลึกๆ ก็แปลได้ว่า "มันมีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวแอบแฝงอยู่นั่นเอง !!"
จุดนี้หลายคนอาจตั้งคำถาม ว่า "เจ้ามือ" อาจทุบเพื่อเก็บของ จะเป็นไปได้หรือเปล่า ...(แต่ !!) ดูทั้งราคาที่ลงรุนแรง + Volume มหาศาล ..ผมว่าอย่างนี้มันไม่ได้เก็บของแล้ว "ดูเหมือนหนีตาย!! มากกว่า")
เอาเป็นว่า "นี่เป็นเพียงตัวอย่างให้ศึกษา" ตลาดหุ้นบ้านเรา ต้องหัดสังเกตและระวังตัวเอง "มัน ลับ ลวง พลาง จริงๆ... หุ หุ" อ้าว !! ศึกษากันต่อไปครับ...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
6 ข้อ ใสใส VI รุ่นใหม่ ควรต้องรู้ ขึ้นชื่อว่า ‘นักลงทุนคุณค่า’ ก็แปลว่า เราต้องข้ามผ่าน ’ราคา’(Price) แล้วพุ่งไปที่แก่นของมันคือ ‘มูลค่า’ (...
-
7 ข้อ ที่คนปกติเขาไม่ทำกันในตลาดหุ้น 1. ’หมกมุ่นอยู่ในจุดที่คนอื่นบอกไม่มีอนาคตแล้ว‘ …ตลาดหุ้นไทยไม่มีอนาคตแล้ว ไปตลาดอื่นเถอะ 2. ’ซื้อหุ้น...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ คุณ สุระ ผู้ก่อตั้ง Com7 เจ้าของ ร้านในเครือ Banana IT ..เดี๋ยวนะ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเชียร์หุ้น แต่จะมาเล่ามุ...
-
ในหนังสือ สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ ...มีอยู่บทนึงที่พูดถึง การหาตัวตนของเราให้เหมาะกับงาน ...ซึ่งก็คือ การรู้ว่า "จริตการทำงาน" ขอ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ผมขอแสดงความคิดเห็น ตามตัวอย่างหุ้นข้างบน ไม่ถือว่า เป็นหุ้นพื้นฐานดีนะครับ มีเหตุผลสองสามประการดังนี้
ตอบลบประการ แรก รายได้และกำไร ไม่เพิ่มขึ้นตามระยะเ้วลา ดูเหมือนรายได้จะค่อนข้างคงที่ ส่วนกำไรไม่แน่นอน แม้ว่าจะยกปี 52 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจไม่ดีออก
ประการที่สอง มีหนี้สินเพิ่มขึ้น ใีนปี 49 มีอัตรา Debt to Equity Ratio (D/E) ประมาณ 1:1 แต่ในรายงานปีล่าสุด อัตราส่วน เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2:1 ทำให้มีคำถามว่า บริษัทฯไปกู้เงินมาทำอะไร ทั้งๆที่รายได้เกือบคงที่
ประการที่สาม ราคาค่อนข้างแพง เพราะการเติบโตของกำไร ไม่แน่นอน โดยเฉพาะปี 53 กำไรน่าจะลดลงจากปี 52 นะครับ
เมื่อเป็นดังนี้ราคาหุ้นก็จะตอบสนองผลประกอบการที่ออกมา ทำให้ราคาหุ้นในตลาดลดลงครับ
ขอบคุณคะ
ตอบลบผมเป็นคนเล่นหุ้นมานาน และสิ่งที่ผมไม่นิยมคือพื้นฐาน ไม่ใช่ไม่อยากรู้ แต่เป็นเพราะอ่านไม่เข้าใจ ผมจะดูกราฟเทคนิเคิลเป็นหลักในการเทรด ไม่ว่าจะเป็นการเดเทรด หรือถือสั้นๆระยะสัปดาห์หรือระดับเดือน
ตอบลบผมเชื่อเสมอว่า กราฟได้สะท้อนความเป็นจริงของราคาออกมา สิ่งที่คนทำย่อมถูกพล็อตออกมาเป็นกราฟ ฉะนั้นการเคลื่อนไหวของกราฟมันบ่งบอกได้ว่า มีใครกำลังทำอะไรกับหุ้นตัวที่เราเฝ้ามองอยู่ อย่างหุ้นตัวนี้ที่แสดง เพียงเส้นที่ตัดลงมา ผมก็เลิกแล้วครับ ผมไม่สนใจที่จะมองหรือคิดจะเข้าไปเก็บ ราคาที่คิดว่าถูก มันจะกลายเป็นแพงทันทีที่คุณได้ซื้อหุ้นเข้าพอร์ต รายใหญ่หรือเจ้ามือเขารู้ข้อมูลดีที่สุด หากหุ้นตัวนี้ดีจริงมันไม่ลงแบบหาจุดต่ำไม่เจอแบบในกราฟ แล้วหุ้นลักษณะนี้ซื้อเข้ามาในพอร์ต นับว่าเป็นความโขคร้ายของผู้ซื้อจริงๆครับ