แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ยกตลาดหุ้น S&P ของอเมริกา มาคุยกัน!!


ใครที่ชอบดู Bloomberg หรือ CNBC จะเห็นได้ว่าทุกวันต้องมีการ Update ตัวเลขของ S&P500 Index ...ซึ่งดัชนีตัวนี้ ก็คือ การเอาบริษัท 500 บริษัทใหญ่ยักษ์ของอเมริกามาคำนวณ (คล้ายๆกับ SET 50 นั่นแหละครับ)

พอดีไปอ่านเจอบทความหนึ่งเกี่ยวกับตลาดหุ้นอเมริกา..เห็นว่ามันน่าสนใจ เลยเอามาเล่าให้ฟัง..ช่วงปี 1975 (35 ปีก่อน) ดัชนี S&P500 อยู่ที่ 63 จุด ..ปัจจุบันอยู่ที่ 1,180 จุด

ในช่วงปี 1970s อเมริกาเข้าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ..ในช่วงเวลานั้น บริษัทใหญ่ๆผูกขาดการค้า แถมเอาเปรียบผู้บริโภค สาเหตุหลักๆก็มาจากการที่ ในตลาดมีผู้แข่งขันน้อยราย (การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญได้เกิดขึ้นจากการเข้ามาท้าทาย ในเชิงเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากญี่ปุ่น ผนวกกับการ Boom ของธุรกิจเดินเรือและตู้คอนเทนเนอร์ ...ปัจจุบันมีเรือขนส่งสินค้ากว่า 3,500 ลำบรรทุกสินค้ากว่า 15 ล้านตู้คอนเทนเนอร์ แล่นไปมาในทะเล...และนี่เป็นจุดกำเนิดของการค้าขายทั่วโลก หรือ Globalization นั่นเอง)

จุดที่น่าสนใจคือ ช่วงปี 1970s ธุรกิจใหญ่ๆในอเมริกา ก็คือสถาบันการเงิน (คล้ายๆกับบ้านเราในเวลานี้ ที่ธุรกิจใหญ่ๆก็คือ ธนาคารกับพลังงาน) ..คนอเมริกาในเวลานั้น ยังลงทุนในหุ้นน้อยมาก เพราะยังไม่มี กองทุนเพื่อการเกษียณ 401(k) (ซึ่งในบ้านเราก็คือกองทุน RMF/LTF นั่นแหละครับ)

ในปี 1970 ก่อนอเมริกาจะก่อตั้ง 401(k) มีคนอเมริกาเพียงร้อยละ 16 เท่านั้น ที่ถือครองหุ้น "เมืองไทยตอนนี้มีเล่นหุ้นไม่ถึงร้อยละ 1 ของประชากร ..โอกาสขยายตัวอีกเยอะ!!" (ดูจากดัชนี S&P500 ที่ 63 จุด ในช่วงปี 1975 คงบ่งบอกได้อย่างดีว่าสมัยนั้นคนอเมริกาไม่เล่นหุ้น).. "ราคาหุ้นในตอนนั้นมันเลยต่ำเตี้ยขนาดนั้น"

หากมองเทียบกับตลาดหุ้นบ้านเรา ...จุดที่น่าสนใจคือ ประเทศไทยมีคนเล่นหุ้นน้อย และ ก็เพิ่งก่อตั้งกองทุนเพื่อการเกษียณ RMF/LTF ได้ไม่นาน" ฮึม!! ผมเริ่มมองเห็นโอกาส ของการเติบโตของตลาดทุนในบ้านเรา ที่ยังมีโอกาสเติบโตไปได้อีกเยอะ

โอกาสการขยายตัวของประเทศไทยและตลาดทุน ยังเปิดกว้างในด้านการขยายตลาดบริโภคภายในประเทศ (ซึ่งถ้าเอาอเมริกามาเทียบกับช่วงเวลา และการพัฒนาอุตสาหกรรม มันชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่น่าสนใจทีเดียว)..ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยเพิ่งเปิดมาได้ 30 กว่าปี "ก็เทียบได้กับเด็ก..ว่างั้น" ...อุตสาหกรรมส่งออก หลักๆของประเทศ รวมทั้งธุรกิจใหญ่ๆ ยังไม่ได้เข้ามาระดมทุนในตลาด ..แต่จากนี้ไป การเริ่มไหลเข้ามาของเงินทุนฝรั่ง รวมทั้งการ Boom ของตลาดหุ้น ..น่าจะเป็นการจุดประกายการเข้ามาระดมทุนมากขึ้นของบริษัทดีๆ

ส่วนตัวผม ไม่มองแค่ SET 1,000 จุด "มันน้อยไป" ...หากภาพการเข้ามาระดมทุนของ ธุรกิจใหญ่ๆ ในตลาด SET ผมเชื่อว่า ตลาด SET ณ วันนี้ของไทย ก็เทียบได้กับ S&P500 เมื่อปี 1975 ....ฮึม!! อีกสัก 20 ปี เจอกันที่ SET 10,000 จุด (ไม่ตลกหรอกครับ.... ผมว่ายุคของเราโชคดี ที่จะได้เห็นการ Boom ครั้งใหญ่ของเอเชีย เงินทุนต่างๆจากทั่วโลกจะหลั่งไหลเข้ามาหาโอกาสในเอเชีย เพราะมันดินแดนแห่งโอกาส "และสิ่งนี้คุณมองข้ามไม่ได้ ประชากรส่วนใหญ่ของโลกอาศัยอยู่ในเอเชีย ..นี่คือ การเกิดขึ้นของตลาดและกำลังซื้อใหม่"

จับแน่นๆ รถด่วนสายนี้ "มันไปไกลแน่!!" (มองไกลๆไว้ก่อน ถ้าไม่ถึง 10,000 จุด เอาสัก 5,000 จุด ..ก็พอรับได้ ..หุ หุ)


(ตลาดหุ้นอินโด ตอนปี 1997 Index เขาก็ร่วงมาพอๆกับเรา แต่ตอนนี้เขาพุ่งพัน 3 พันกว่า ในขณะที่เรายังอยู่แถวพันจุด)

1 ความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ