แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566

ความจำเป็น มันสู้ความต้องการไม่ได้ มันคือโอกาสที่กว้างและใหญ่กว่า

 ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน …’ …ไม่สำคัญเท่ากับพยายามถูกที่หรือเปล่า ? …บางครั้งความแฟร์ หรือ ไม่แฟร์ อาจจะไม่ได้ขึ้นกับดวง 


…การพาตัวเองไปอยู่ถูกที่ ถูกเวลา มันต้องอาศัยความใฝ่รู้ มองหาโอกาส และ ทบทวนมุมมองของตัวเราเองอยู่เสมอ


…รุ่นน้องมาถามว่า ทำไมความเก่ง ไม่ได้การันตีความสำเร็จในยุคนี้ …ง่ายๆ ก็เพราะ ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ สินค้าและบริการมันมีมากกว่าความจำเป็น (Over Supply) 


…ถ้าให้เลือกระหว่าง ทำสิ่งที่จำเป็น(Need) กับ สิ่งที่ต้องการ(Want) …ผมว่า เลือกอย่างหลังดีกว่า 


…’Want’ มันไปได้เรื่อยๆ ..อยู่ที่จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ …นั่นแหละโอกาสของคนรุ่นใหม่


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2566

เราแค่มองโลก ในมุมที่เราเข้าใจ …แต่ไม่ได้มองโลกตามความเป็นจริง

 มีเรื่องง่ายๆ ที่เข้าใจโคตรยากมาเล่าสู่กันฟัง …..‘หลังจากผมเข้ายิม ยกเวท+Cardio มาเกือบปี …ผมพบอะไรบางอย่าง’ 


..แต่ก่อนคิดว่า ทำไมผมผอม แต่ลงพุง ? (หุ่น Skinny Fat) …จริงๆ คือ ผมไม่ค่อยออกกำลังกาย …พอน้ำหนักขึ้น ก็อดอาหาร ทำจนระบบเผาผลาญพัง …ได้หุ่นผอม แบบมีพุง ลุงๆ ตลอดมา


…แต่ก่อนคิดว่า ทำไมผมรูปร่างแปลกๆ …ไหล่ก็แคบ ..แขนก็เล็ก หลังก็ค่อม ..ทำไมกรรมพันธุ์ผม มันไม่เท่ห์เลยวะ ? (โทษบรรพบุรุษ เข้าไปอีก) …จริงๆ คือ ผมไม่เคยยกเวท หุ่นมันเลยเป็นแบบนั้นไง 


สรุป ‘เราแค่มองโลก ในมุมที่เราเข้าใจ …แต่ไม่ได้มองโลกตามความเป็นจริง’


เวลาอะไรที่มันไม่ดี เราจะพยายามหาเหตุผลภายนอก แล้วโทษไปที่สิ่งนั่น …แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่ดีกว่า คือ มันไม่ได้ต้องหาว่าใครผิด แล้วโทษ แต่เราแค่ต้องหาว่า แล้วตัวเราเองจะทำให้มันดีขึ้นอย่างไร จากนั้นก็ลงมือทำ เพื่อเปลี่ยน แค่นั้นเลย 


“เราจะเป็นไปตามผลลัพธ์จากสิ่งที่เราเลือก!!”

 ..ไม่ได้มีโชคดี ดวงเฮง ดวงซวย …มันแค่มาตามจังหวะเวลาของมัน …เราแค่ควบคุมเหตุปัจจัย จากนั้น เดี๋ยวผลลัพธ์มันก็จะมาเอง


…โคตรยาก ..กว่าจะเข้าใจ เพราะ มันคือ ‘เรื่องง่ายๆ ที่เข้าใจโคตรยาก จริงๆ’ 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2566

6 หลัก การตั้งเป้าหมายให้ชีวิตพุ่ง รุ่งเกินกว่าที่เราหวัง ได้อย่างไร ?

 6 หลัก การตั้งเป้าหมายให้ชีวิตพุ่ง รุ่งเกินกว่าที่เราหวัง ได้อย่างไร ?


‘ชีวิตนี้อยากมีบ้านหรูสักหลัง นาฬิกาหรูสักเรือน มีรถสปอร์ตสักคัน …บลา บลา ๆ’ 


อันนี้ไม่เรียกการตั้งเป้าหมาย …การตั้งเป้าหมายที่ดี ควรเป็นการ ‘หาเงิน’ …ส่วนเป้า ‘ใช้เงิน’ มันเป็นผลพลอยได้หลังจากที่เราตั้งเป้าหาเงินแล้วทำได้ดี 


1. ‘เราจะเชี่ยวชาญในสิ่งที่เราทำมากกว่าคนอื่นได้ยังไง ?’ 


2. ‘อะไรคือความแตกต่างในสิ่งที่เราทำ’


3. ‘งานที่เราทำ แก้ปัญหาและสร้างประโยชน์ ให้คนจำนวนมากแค่ไหน ?’ 


4. ‘เราจะใช้เวลาทำงานน้อยลง แต่ยังได้ผลลัพธ์เท่าเดิมหรือมากขึ้นได้ยังไง ?’ 


5. ‘อะไรที่จะหาเงินแทนเรา ในวันที่เราหยุดทำงาน ?’


6. ‘เราจะเป็นผู้นำ ในงานที่เราทำได้อย่างไร ?’


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

7 ข้อต้องรู้ ‘ทำไมบางคนหาเงินเก่ง แต่สุดท้ายเงินหายไปไหนหมด !!’

 7 ข้อต้องรู้ ‘ทำไมบางคนหาเงินเก่ง แต่สุดท้ายเงินหายไปไหนหมด !!’ 


หลักๆ คือ ‘มัวแต่หาเงิน แต่ลืมวางเงินให้ทำงาน …สุดท้าย หาได้เยอะเท่าไหร่ มันก็หมดอยู่ดี’ 


นี่คือ สิ่งที่ต้องรู้ 


1. ‘คนเราจะหาเงินได้เยอะ แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ตลอดไป’ 


2. ‘การวางเงินให้ทำงานคือ การเรียนรู้ว่าจะวางเงินในสินทรัพย์อย่างไร ให้มันเติบโต’ …นี่แหละ ที่เขาเรียกว่า ‘วางเงินทำงาน’


3. ‘การวางเงินทำงาน ต่างกับการเทรดซื้อมาขายไป’ ..ตรงที่ วางเงินทำงานคือ ต้องซื้อในจังหวะที่ดี แล้วเน้นถือไปยาวๆ ไม่ขาย (ตรงข้ามกับการเทรด ที่พยายามหาส่วนต่างทำกำไรเร็วๆ)


4. ‘การวางเงินทำงานต้องหาสินทรัพย์ที่เติบโตเท่านั้น’ …อย่าไปถือ สิ่งที่ไม่เติบโต เช่น forex , Derivative , ..ต้องอยู่ในสิ่งที่โต เช่น หุ้นเติบโต+ปันผล


5. ‘ระยะเวลาจะเป็นตัวบอกว่า สินทรัพย์ที่เราถือ มันถูกต้อง’ …ต้องมองให้ยาว อย่างน้อยก็ต้องถือ 5-10 ปีขึ้นไป 


6. ‘การบริหารสภาพคล่องที่ดี เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถถือสินทรัพย์ที่ดี จนมันเติบโตจนใช้ไม่หมด’ ..ดังนั้น วางเงินทำงาน ไม่ใช่การเร่งพอร์ตให้โต แต่คือ ถือให้นาน


7. ‘สุดท้ายสินทรัพย์แค่ 20% เท่านั้น ที่จะทำให้เรารวยแบบก้าวกระโดด’ …อีก 80% คือ ความผิดพลาดระหว่างทางที่เราทุกคนต้องเรียนรู้


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

7 ข้อ ‘ทำไมความรู้ก็เยอะ แล้วยังไม่รวย ?’

 7 ข้อ ‘ทำไมความรู้ก็เยอะ แล้วยังไม่รวย ?’ 


…ก็เพราะ ‘เราดันรู้แต่เรื่องที่มันไม่ทำเงินไง’ (กวนทีน!! ใช่!! แต่มันจริงไง)


‘เงิน’ ไม่ได้สนหรอกว่า เราคือใคร ขยันและทำงานหนักแค่ไหน 


…แล้วความรู้อะไรที่ทำเงิน ?


1. เงินวิ่งเข้าหาความดัง …คนดังหาเงินง่ายกว่า


2. เงินวิ่งเข้าหาผู้เชี่ยวชาญ …ในทุกอาชีพผู้เชี่ยวชาญจะหาเงินได้มากกว่า ง่ายกว่า


3. เงินจะอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยง …ถ้าเราคุมความเสี่ยงได้ในเรื่องอะไรก็ได้ เดี๋ยวเงินมาเอง


4. เงินจะรักษามูลค่าและเติบโตในรูปสินทรัพย์เท่านั้น ….เงินเหมือนน้ำแข็ง ถ้าวางเฉยๆ มูลค่ามันจะละลายหายไป


5. เงินจะมาเมื่อเราแก้ปัญหาให้คนอื่น


6. ระบบคือเครื่องผลิตเงิน …ถ้าสร้างระบบได้ ก็สร้างเครื่องผลิตเงินได้ 


7. เงินวิ่งเข้าหาผู้นำ …ผู้นำทุกที่ รวยกว่าผู้ตามเสมอ


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม


8 เรื่อง ในตลาดหุ้นเราจะรู้เมื่อเคยเสียหายหนักเท่านั้น

 8 เรื่อง ในตลาดหุ้นเราจะรู้เมื่อเคยเสียหายหนักเท่านั้น


1. หุ้นที่เราไม่ได้เลือกเอง มักทำให้เราเสียหายในที่สุด


2. หุ้นยอดฮิต มักทำให้เราเจ็บตัว …หุ้นที่ใครก็ซื้อ ใครๆ ก็มี เราขายเถอะ !!


3. ข้อมูล inside ยิ่งเชื่อมั่น ยิ่งเสียหายหนัก …เราจะมั่นใจไร้สติ เสี่ยงได้แบบไม่ลืมหูลืมตา ก็เพราะเราคิดว่ามันคือ Inside


4. หุ้นที่เราซื้อน้อยมักขึ้นเยอะ …เพราะ มันคือหุ้นต้นรอบ หุ้นเบา หุ้นรอบใหม่


5. หุ้นที่เราซื้อเยอะมักขึ้นน้อย …เพราะ มันคือ หุ้นปลายรอบ หุ้นที่เจ้าออกของโดยใช้ข่าวดี มีมวลชนแห่รับ


6. หุ้นที่เราไม่ได้ซื้อ จะขึ้นมากที่สุด ….นั่นเพราะเรามักลงทุนในจุดที่เราสบายใจ จนลืมมองหาว่า ตรงไหนที่กำไรเยอะกว่า 


7. เซียนหุ้น เกิดจากหุ้นขนาดเล็ก ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่ 


8. การเลือกอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมวลชน มักให้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอในตลาดหุ้น 


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2566

6 เรื่อง ความเสี่ยงยุคใหม่ ที่เราควรเข้าใจในโลกตอนนี้ !!

6 เรื่อง ความเสี่ยงยุคใหม่ ที่เราควรเข้าใจในโลกตอนนี้ !!


หลายคนอยากมาเล่นหุ้น แต่อยากได้หุ้นที่ซื้อแล้วรวยชัวร์แบบไม่เสี่ยง มีไหม ?


เอาตรงๆ นะ ‘ไม่มี’ …มาเข้าใจมันดีกว่า


1. ‘จุดที่เราคิดว่า ไม่เสี่ยง จริงๆ เสี่ยงสุด’ …พอเราคิดว่าไม่เสี่ยง เราจะไม่ระวัง บางทีซื้อแบบจัดเต็มแบบไม่ระวัง พอพลาดก็จะเสียหายหนักสุดๆ 


2. ‘จุดที่ความเสี่ยงต่ำ ก็มักจะแทบไม่มีผลตอบแทน’ …เอาตรงๆ ถ้าอยากลงทุนในสิ่งที่เสี่ยงต่ำ เราถือเงินสดดีกว่า เพราะ จุดที่เสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนมันสู้เงินเห้อไม่ได้ สู้ถือเงินสด รอตลาดมีวิกฤตแล้วค่อยลงทุน มันคุ้มกว่า


3. ‘อย่าลงทุนในจุดที่การันตีผลตอบแทน’ …เพราะในโลกการลงทุนจริงๆ ผลตอบแทนมันขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา …การที่เราได้การันตีผลตอบแทน แปลว่า คนอื่นเขารับความเสี่ยงตรงนั้น แล้วแค่แบ่งเศษๆ ผลตอบแทนให้เรา (พูดง่ายๆ ถ้าการลงทุนนั้นมันแย่ สุดท้ายเราก็ซวยอยู่ดี แต่ถ้ามันดี เราก็ได้แต่เศษของกำไรแค่นั้นเอง)


4. ‘พยายามเลือกการลงทุนที่ ผลตอบแทนเกิน 100% เสมอ’ …ทำไมน่ะเหรอ ? …คิดง่ายๆ ว่า ไม่ว่าเราจะลงทุนอะไร เราจะเสียหายสูงสุดคือ 100% ดังนั้น เราต้องหาการลงทุนที่ชนะความเสี่ยงตั้งแต่เริ่มลงทุน ก็ต้องหาอะไรที่ผลตอบแทนมากกว่า 100% แล้วเสี่ยงดู นี่แหละ ถึงจะ Make Sense


5. ‘คนรวยมักเลือกการลงทุนที่เสี่ยงมากๆ แล้วลงแบบกระจาย’ …การทำแบบนี้ คือ ลงทุนแบบเป็น พอร์ต กระจายเงินไปในสิ่งที่เสี่ยงและผลตอบแทนสูง …ผลลัพธ์ก็จะกลายเป็น ได้ผลตอบแทนที่ดี ในความเสี่ยงที่ไม่สูงนั่นเอง


6. ‘ความเสี่ยงไม่ใช่สิ่งที่เราควรวิ่งหนี แต่เราควรกระโดดเข้าไปศึกษา’ …ก็เพราะ ทุกที่ที่มีความเสี่ยง มันจะมีกำไรมหาศาลแอบซ่อนอยู่ 


ใช่!! เศรษฐีใหม่คนนั้น ก็มาจาก การลงทุนในจุดที่คนส่วนใหญ่มองว่าเสี่ยง ไม่กล้าเข้าไป …แต่จริงๆ แล้ว เขารู้จักความเสี่ยงตรงนั้น แล้วป้องกันไว้ก่อนแล้ว


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

5 ลักษณะหุ้น ที่ทำกำไรสูงสุดในตลาดหุ้นไทย

 5 ลักษณะหุ้น ที่ทำกำไรสูงสุดในตลาดหุ้นไทย 


มีเซียนหุ้นเล่าให้ผมฟังว่า ถ้าอยากกำไรเยอะ ก็ต้องหาหุ้นที่กำไรเยอะ …แต่ต้องวางอยู่บนพื้นฐานที่เราคุมความเสี่ยงเรียบร้อยแล้ว 


มาดูกันมีแบบไหนบ้าง


1. ‘หุ้น Commodity’ …ธุรกิจพวก Commodity จะมีลักษณะของธุรกิจที่เป็นวัฎจักรสูงมาก ..เวลากำไรจะสูงมาก เวลาแย่จะขาดทุนหนักมาก …ถ้าเราเข้าใจรอบ แล้วเข้าช่วงที่แย่มากๆ แล้วทนถือ …ก็มีโอกาสได้กำไรเป็นเด้งๆ กันเลยทีเดียว


2. ‘หุ้นที่มี Market Cap. ต่ำ’ …หุ้นที่มี Market Cap. ต่ำๆ เวลาที่เขาเล่นกัน ก็สามารถลากให้ราคาหุ้นขึ้นเป็นหลายๆ เด้งได้ไม่ยาก


3. ‘หุ้นที่ราคาไม่สูง รายย่อยจะนึกว่าเป็นหุ้นถูก’ …บางทีเป็นหุ้นราคาไม่กี่บาท หรือ เป็นหุ้นต่ำบาท …หุ้นแบบนี้เวลาเขาเล่นกันก็มักวิ่งกันไปหลายๆ เด้ง (แต่ต้องระวังว่าเจ้าโหด เพราะบางครั้งหุ้นอาจไม่ได้ถูกจริงหากเทียบจาก Market Cap.)


4. ‘หุ้นขนาดกลางหรือเล็ก ที่งบเติบโต’ …หุ้นแบบนี้พอรอบมา ก็จะสามารถวิ่งได้ไกลหลายๆ เด้ง …บางทีราคาวิ่งขึ้นไปแพงสุดๆ …ข้อสังเกตหุ้นแบบนี้มักจะมี P/E สูงตลาด …หุ้นเลยจะวิ่งจาก P/E สูงไปจนสูงมากๆ เป็นรอบๆ แบบนี้ไปเรื่อย …ล้อกับงบที่เติบโต (เขาจะเลิกเล่นเมื่องบ เริ่มโตน้อยลง …จุดนั้นราคาอาจลงแรงมากๆ ต้องระวังเจ้าออกของ)


5. ‘หุ้นปั่น’ …อันนี้ตรงๆ เลยหุ้นปั่น เพราะ เจ้าไม่สนพื้นฐานอะไรเลย …สนอย่างเดียว เขาเก็บของได้ครบก็ลาก ลากไปไกลๆ จากนั้น พอมีคนตามก็ปล่อยของทิ้งให้คนตามมารับอยู่บนดอย (หุ้นลักษณะนี้ต้องดู Volume ดีๆ …ถ้าเล่นไม่ดู Volume หากเราไปติด ก็ซวยเลย เพราะ พอเขาเลิก มันจะไม่มี Volume ให้เราออกเลย)


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ