วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2563
ถ้าไม่รู้หุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ ..จะซื้อทำไม
‘ถ้าไม่รู้ว่า หุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ ..แล้วเราจะซื้อหุ้นไปทำไม ?’
คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า คนที่รวยจากหุ้น คือ รวยเพราะซื้อแล้วราคาขึ้นไปเรื่อยๆ
จริงๆ ไม่ใช่เลย !! ...ในตลาดหุ้น มีทั้ง นักเก็งกำไร และ ก็นักลงทุน ....ความแตกต่างของ คน 2 ประเภทนี้ คือ
วิธีคิดต่าง / การวางเงินต่าง / จังหวะต่าง ...พูดง่ายๆ ต่างกันเกือบทุกอย่าง มีอยากเดียวที่เหมือนกัน คือ ‘อยากรวยเหมือนกัน’
แต่ความตลกร้าย ก็คือ ทั้งนักลงทุน และ นักเก็งกำไร แม้ว่า จะอยากรวยเหมือนกัน ...แต่ ‘วิธีการรวย’ ยังไม่เหมือนกันเลย
ยังไง ?
1. ‘ความรวยของนักเก็งกำไร’ คือ ต้องการโกยเงินมาหาตัวเองให้เร็วที่สุด ...เขาจึง ซื้อขายหุ้นเร็วๆ โดย อาศัยจังหวะ ข่าว และ อารมณ์ตลาด ในการเข้าซื้อขายเก็งกำไร ...การรวยในแบบนี้ มีข้อดี คือ ได้เงินเร็ว แต่ปัญหาของการรวยแบบนี้คือ มันได้เงินน้อย ไม่ค่อยยั่งยืน และ มันเหนื่อย ...มันต้อง เครียด ต้องหนักตลอดเวลาที่ซื้อขายหุ้น เพราะ ถ้าพลาดมันก็เสียหายทันที ....แถมเวลาเสีย มันเสียก้อนใหญ่ และ เสียเร็ว นี่คือ ความโหดของชีวิตนักเก็งกำไรครับ
2. ‘ความรวยของนักลงทุน’ คือ ต้องการรวยจาก สินทรัพย์ ไม่ใช่รวยจากเงินสด ...วิธีคิดของนักลงทุน ก็คือ เขาต้องการมีสินทรัพย์ ที่สามารถทำเงิน ทำงานแทนเขาในระยะยาว
วิธีการของนักลงทุน ...เขาจะ ทยอยซื้อ สินทรัพย์ เช่น หุ้น ในเวลาที่มันราคาถูก ซึ่งมักจะเป็นช่วงที่ตลาดมีวิกฤต แล้วราคาหุ้นลงเยอะๆ ...พอซื้อแล้วก็เก็บยาวไปเลย ไม่ขาย ...”อ้าว!! ซื้อหุ้นแล้วไม่ขาย จะรวยได้ไง เดี๋ยวราคาหุ้นลงไป ก็เสียโอกาส” ...คนทั่วไปคิดว่า ถ้าไม่ขายหุ้น พอราคาขึ้นไป แล้วลงมาก็เสียโอกาส แต่นักลงทุนมองโอกาสไม่เหมือนคนทั่วไป
เขาจะมองว่า โอกาส คือ ‘โอกาสในการซื้อเครื่องผลิตเงิน เวลาที่ราคามันถูก ..จากนั้น เขาจะรับปันผลไปเรื่อยๆ ค่อยๆ รอปันผล โตไปกับบริษัท กับหุ้นที่ลงทุน’
....ใช่ !! เขียนมาซะยาวเลย เพื่อจะบอกว่า ‘ถ้าไม่รู้ว่าหุ้นจะขึ้นเมื่อไหร่ แล้วจะซื้อไปทำไม?’
ก็ตอบง่ายๆ ว่า ‘ซื้อเพื่อสะสมสินทรัพย์ เวลาที่ราคามันถูก แล้วก็อดทนรวยนั่นเอง’
ผมเอง เลือกแนวทางของนักลงทุน ...ซื้อสะสม ไม่ขาย ‘ออมในหุ้น!!’ บางตัวขึ้นไปไม่ลง บางตัวขึ้นไปแล้วลงมาที่เดิม แต่สิ่งที่ได้สม่ำเสมอ คือ เงินปันผลผมค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ...ผมกำลังเพิ่มจำนวนเครื่องผลิตเงิน ทุกครั้งที่มีวิกฤต
...ยิ่งผมทำมันนานขึ้น ผมก็เรียนรู้ว่า ผมเข้าใจนักลงทุนมากขึ้น เข้าใจตัวเองมากขึ้น
...เรียนรู้แล้วเติบโตทางความคิด ไปกับมันครับ !!
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สนใจเปิดบัญชีหุ้น หรือ ออมหุ้น คลิ๊กที่นี่เลย
http://bls.tips/pawawitTeam
หรือ โทร 02-618-1111 บอกทีมงาน ว่า “เอาแบบออมหุ้นอัตโนมัติ ที่พี่แพ้ทแนะนำ”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
‘เป็นล้านเลยเหรอพี่ ?‘ …ทำอะไรมีเงินเป็นร้อยล้าน !! 1. อยากได้เงินล้าน …ต้องทุ่มพัฒนาทักษะ เพราะ ทักษะจะทำให้เราได้งาน ได้ธุรกิจ ได้โอกาสให...
-
10 ข้อควรรู้ เพื่อเข้าใจตลาดหุ้นมากขึ้น 1. ตลาดหุ้นสามารถเล่นแบบการพนัน และก็สามารถเล่นแบบการลงทุน คนกำหนดคือคนเล่นเอง ไม่ใช่ตลาด ..คน...
-
ทำไมคนที่รายได้มั่นคง ควรลงทุนให้เสี่ยง ? 1. รายได้ที่มั่นคงมักจะมีข้อจำกัด คือ มีรายได้เรื่อยๆ แต่ไม่โต …ดังนั้น การลงทุนควรหาโอกาสที่เสี่...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 เคล็ดลับ หาจุดเปลี่ยนชีวิตที่นานๆ จะมาสักทีนึง สำหรับผม ผมเจอจุดเปลี่ยนชีวิตมา 3 ครั้งใหญ่ๆ …ครั้งแรก สมัยเรียน จากเด็กเรียนธรรมดา ..ผมไป...
-
7 ข้อ ทำไมผมถึงชอบตลาดหุ้นไทยในเวลาที่ใครๆ ก็ไม่เอาแล้ว 1. หุ้นไทยเป็นหุ้นอุตสาหกรรมเก่า ที่เข้าใจง่ายกว่า …’หุ้นที่ใครๆ มองว่าดี ส่วนใหญ่ไ...
-
7 ข้อ ความเชื่อในการลงทุนที่เปลี่ยนไป ในตลาดวันนี้ 1. ยิ่งเสี่ยงยิ่งโชคดี …จริงๆ ไม่ใช่ …ต้อง ‘ออกแบบให้ตัวเองมีโอกาสเสี่ยงได้เรื่อยๆ’ อัน...
-
10 อันดับ สินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก 1. ทอง มีมูลค่ารวม 20.5 Trillion 2. Microsoft มูลค่ารวม 2.6 T 3. Apple มูลค่ารวม 2.59 T 4. N...
-
8 ข้อคิด จาก The Psychology of Money 1. ความมั่นคงทางการเงิน คือ ความยืดหยุ่นในชีวิต 2. ความมั่นคงทางการเงิน ไม่ใช่ การได้เยอะ แต่คือ การไม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น