'เมื่อ bedrooms เป็น boardrooms ..เมื่องานส่งอาจารย์ เอามาสร้างเป็น Start-ups ...เด็กอายุต่ำกว่า 21 ยุคนี้เลยเป็น CEO บริษัทได้'
คนยุค Millennials 'Gen Y' อายุ 18-35 ปี กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งใน ตลาดหุ้น และ โลกธุรกิจ
งานวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับ Gen Y พบว่า
- Gen Y เกิดมาในยุคที่พ่อแม่ไม่ลำบาก เหมือน Gen ก่อนๆ ..จึงทำให้ Gen Y มีแนวโน้มที่จะกล้าคิดและกล้าทำอะไรที่เสี่ยงและนอกกรอบ ส่งผลให้ Gen Y จะกล้าสร้างธุรกิจเป็นผู้ประกอบการมากกว่า
- เมื่อพ่อแม่สบายขึ้น ภาระในการดูแแลคนอื่นลดลง ทำให้ Gen Y มีอิสระที่จะวิ่งตามฝันของตัวเองมากขึ้น
- Gen Y เกิดท่ามกลางเปลี่ยนแปลงของ Technology ครั้งใหญ่ ซึ่งมันเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจในหลายๆ อุตสาหกรรมอย่างสิ้นเชิง (ใครจับทางไม่ทัน อาจเจ๊งเลย ..ใครจับถูก ก็รวยเร็วเลย)
- Gen Y เกิดในช่วงเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม และ การทำงาน แต่ระบบการศึกษายังปรับตัวตามไม่ทัน ส่งผลให้ Gen Y กลายเป็น 'Gap Generation' ที่สับสนมากที่สุด ..ทำให้ Gen Y แต่งงานช้า มีลูกช้า ..อยู่กับพ่อแม่นานกว่า Generation อื่น เพราะ อยากเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลง
- 'การท่องเที่ยวที่เยอะของ Gen Y' เพราะต้องการเข้าใจ 'การเปลี่ยนแปลงของโลก' สิ่งนี้จะเพิ่มขึ้น และทำให้ การท่องเที่ยว การหาประสบการณ์ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต Gen Y
...ยุคของ Gen Y ประสบการณ์มีค่ายิ่งกว่าเงิน
- Gen Y เกิดในโลกที่เจอกับวิกฤตเศรษฐกิจตลอดเวลา ทำให้คน Gen Y มองความสำเร็จที่สั้น ต้องการความเร็ว ..อันนี้เป็นทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อนในเวลาเดียวกัน ทำให้คน Gen Y มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง แต่ขาดความอดทน ...เห็นจากตลาดหุ้นได้ว่า คน Gen Y เน้นการลงทุนระยะสั้น มากกว่าการลงทุนยาว
คำแนะนำของผมในฐานะ คนที่สัมผัสและทำงานท่ามกลางคน Gen Y คือ
'ให้มองความยั่งยืน ให้อดทน ให้เน้นพัฒนาตัวเองจากข้างในออกข้างนอก (inside - out)
..ในขณะที่คนส่วนใหญ่ อยากโชว์ความสำเร็จเร็วๆ อยากโชว์รวย ให้เราเก็บความรวย และสั่งสมพอร์ตการลงทุนระยะยาว สั่งสมความรู้และความแน่นไม่ต้องโชว์ (อย่าสนคำวิจารณ์จากคนที่ไม่เข้าใจเรา)
..ค่อยๆ สร้างเพื่อน สร้างเครือข่าย ที่คิดและทำในเป้าหมายระยะยาวแบบยั่งยืนคล้ายๆเรา ร่วมเดินไปด้วยกัน
สุดท้ายผลลัพธ์จะพิสูจน์ให้เห็นเมื่อถึงเวลาของมัน'
ความสำเร็จ ไม่ใช่การพยายามโชว์ในสิ่งที่เราไม่มี ...แต่ความสำเร็จคือ การขยายสิ่งที่เรามี ให้เกิดประโยชน์ต่อคนรอบข้าง
ไม่จำเป็นต้องโชว์ แต่ให้ผลลัพธ์ของสิ่งที่เราทำ การเปลี่ยนชีวิตคนรอบข้าง ให้มันค่อยๆ เล่าเรื่องความสำเร็จในแบบของเราเอง
- 'ผมเรียกสิ่งนี้ว่า แรงบันดาลใจในสิ่งที่เราเลือกทำ'
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น