'โลกวันนี้ไม่มั่นคง คนรุ่นใหม่จึงต้องวางตัวเองให้มั่นคง'
มีคำถามเยอะมาก ว่า วันนี้อะไรคือ ความมั่นคงในชีวิต
ถ้าเป็นสมัยก่อน การทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ มันคือความมั่นคงของชีวิต ...แต่โลกวันนี้ ยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia ยังสามารถเจ๊งได้เลย
บริษัทต่างๆ จึงพยายามลดต้นทุนการพัฒนาคน เพราะรู้ว่า พนักงานย้ายงานทุก 3 ปี ..ยิ่งบริษัท ตัดงบ ..คนก็ยิ่งเปลี่ยนงานบ่อยขึ้น
จากเดิมการเกษียณเราหวังได้เงินก้อนที่นายจ้าง ร่วมกับเราสะสม แต่จากนี้ไป แทบจะการันตีว่าไม่มี เพราะวันที่คนแต่ละ Generation เกษียณพร้อมกัน เขาก็จะต้องการเอาเงินที่ลงทุนไปใช้พร้อมกัน เราจึงเห็นตลาดหุ้น crash ตลาดพัง ในเวลาที่เราต้องการเงินที่สุด
จำได้ไหมอเมริกาปี 2008 เป็นปีที่ กลุ่ม Baby Boomer จำนวนมากเกษียณ ทุกคนต้องการเงิน ส่งผลให้คนจำนวนมากขายหุ้น ตลาดพัง เงินที่แต่ละคนเก็บสะสม หรือ แม้แต่บ้านที่ผ่อนมานาน ราคาของทุกอย่างหายไปเกินครึ่ง ...วันนั้น คนอเมริกาส่วนใหญ่ ตัดสินใจขายทั้งบ้าน และพอร์ตการลงทุน ยอมขายขาดทุนในเวลาที่ราคาถูกที่สุด ขาดทุนมากที่สุด
'ใช่!! หลายคนทำงานเก็บสะสมความมั่งคั่งทั้งชีวิต เพื่อที่จะเห็นว่า วันที่เขาต้องการเงินมากมี่สุด เป็นวันที่ทรัพย์สินเขาลดลง มากที่สุด'
ผมหวังว่า เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นกับผม ...ทำให้ผมตั้งใจศึกษา การลงทุน และ ศึกษาประวัติศาสตร์ของเศรษฐกิจโลก จนพบคำตอบ
มันสรุปได้ง่ายๆ ว่า
1. คุณรู้ไหมว่า มนุษย์เงินเดือนแทบทุกคน มีความเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นผ่านกองทุนเกษียณ , บำเหน็จ , บำนาน , บ้าน , ที่ดิน แม้แต่เงินในธนาคารของเขา ล้วนเกี่ยวข้องกับตลาดหุ้น ...แต่คนส่วนใหญ่ไม่พยายามทำความเข้าใจตลาดหุ้นเลย (ทั้งที่ผมว่า เรื่องหุ้นควรสอนไว้ในหลักสูตรประถมศึกษาด้วยซ้ำ)
2. สิ่งที่เราไม่เข้าใจ เรื่องระบบเงินและตลาดทุน(หุ้น) มันยิ่งทำร้ายเรา ...คนส่วนใหญ่ถึงกับพูดว่า ตลาดหุ้นคือบ่อนการพนันที่ถูกกฏหมาย แต่คุณไม่เห็นหรือว่า ผู้ชนะในตลาดนี้ วัดกันที่ความรู้และความอดทน
ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า ความมั่นคงสูงสุด ของระบบทุนนิยม คือ 'คนที่เข้าใจกลไกตลาดหุ้น'
อยากเล่นสั้นก็ทำได้ ..อยากแต่วางเงินทำงานเฉยๆ นั่นก็ทำได้
ศึกษาการลงทุน และตลาดหุ้นกันเถอะครับ ..เพราะมันคือคำตอบ ของความมั่นคงทางการเงินของทุกคนที่เข้าใจมัน
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น