วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554
อะไรคือ ความหมายชีวิต และ ความสำเร็จ
"ความหมายชีวิต และ ความสำเร็จ ของแต่ละคน" ..ไม่มีใครเหมือนกันเลย ...หลายคนมองว่า เงิน คือ คำตอบของทุกสิ่ง แต่เมื่อเขามีเงิน ก็ได้พบว่า เงิน ไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง ... หลายคนมองว่า ใจสุขสุดๆ แต่ไม่มีเงินก็ได้ ..สุดท้ายมันก็ไม่ใช่คำตอบ -- ในความเห็นของผม ผมว่า ทางสายกลางและความสุข ระหว่าง ใจ และ ร่างกาย ถึงจะเป็นทางเดินที่สมบูรณ์ที่สุด
การมุ่งแสวงหาเงิน ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า มันคือ การสร้างความสะดวกสบายให้กับ "ร่างกาย" เท่านั้น ...ดังนั้น เงิน จะช่วยให้ร่างกายเราสบาย แต่เรื่องของ "ใจ" มันไม่ได้มาควบคู่กัน ..ดังนั้น การเดินทาง มันก็ขึ้นกับว่า เราจะเดินทางหาเงินก่อน หรือ ให้ใจสบายก่อน ...จริงๆ มันไม่มีกฏเกณฑ์ หรือ ใครกำหนด เพราะสุดท้าย ไม่มีใครที่เปลี่ยนชีวิตของใครได้อย่างแท้จริง นอกจากคน คนนั้น พร้อมเปิดใจ ที่จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง (ตรงนี้มันมีตัวอย่างให้เห็นของความล้มเหลวของชีวิตคู่ ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องเลิกรากันแบบเลวร้ายมากมาย เพราะเขาไม่พยายามทำความเข้าใจว่า ภาพที่เห็นหรือตัวตนที่แท้จริง ของคนๆหนึ่ง เมื่อถึงเวลาเขาก็จะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา ..ผมอ่านหนังสือ ของท่านอาจารย์ มิซูโอะ ..ผมว่ามันโดนมาก ...ท่านบอกว่า ที่สามีภรรยา หย่าล้างและเกลียดอาคาตกัน มันเป็นเรื่องของความเข้าใจที่ไม่ตรงกันเท่านั้นเอง ..เพราะก่อนแต่งงานสามีเคยเป็นอย่างไร เขาอาจจะเปลี่ยนตัวเอง เพื่อคุณได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่สุดท้ายสันดานเดิมก็คือ สิ่งที่แท้จริง ..ดังนั้น เมื่อวันที่เลวร้ายมาถึง มันก็คือ การหมดสถานะของการเป็นสามี ภรรยา เท่านั้น ...แต่สิ่งที่มันยังมีอยู่ได้ คือ ความเป็นเพื่อน เช่น เพื่อนสองคน รักเด็กซึ่งก็คือลูกนั่นเอง ..แล้วเหตุใด คนสองคนนี้ต้องมา อาคาต เกลียดกัน จนอาจถึงขั้นเข่นฆ่ากัน ..ซึ่งมันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ..สุดท้าย การหมดสถานะ ของสถานะภาพ อะไรก็ตาม รวมทั้งสถานะการเป็นสามี ภรรยา มันก็เป็นเหมือนอีกหนึ่งประสบการณ์ของชีวิต และ เรื่องราว ที่เกิด ระหว่างทางเดินของคนๆนึงเท่านั้น -- หากเข้าใจว่า ชีวิตเราเกิดมาเพื่อ เรียนรู้ และพบประสบการณ์ที่หลากหลาย แล้วสุดท้ายก็จากโลกนี้ไป โดยที่เอาอะไรไปไม่ได้เลย ..ก็คงไม่ต้องอาคาตกันให้วุ่นวายเลย -- เรื่องพวกนี้ช่างลึกซึ้งโดยแท้ แต่มันเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะสุดท้าย ชีวิต และ ความสำเร็จ ของแต่ละคน มันอยู่แค่มุมมองเท่านั้นเอง)
"ความทุกข์" ผมว่ามันเกิดจากการเปรียบเทียบ ...แม้กระทั่งความรวย ของแต่ละคน มันก็เกิดจากการเปรียบเทียบ ..การที่คนนึงรวย เพราะเขามีเงินมากกว่าคนอื่น เมื่อเปรียบเทียบกัน ..จะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณรวยพันล้าน และทุกคนก็รวยพันล้าน มันก็คงเป็นโลกของ แบงค์กงเต๊ก ที่ไม่ได้เรื่องอะไร เพราะเมื่อทุกคนรวยเท่ากัน แล้วใครล่ะจะลุกขึ้นมาทำงานเพื่อให้ เศรษฐกิจและชีวิตมันดำเนินต่อไปได้
ปีนี้ผมได้เรียนรู้ชีวิตมากมาย ผ่านมุมมองของ การเป็นอาจารย์ และ การสร้างความรู้ให้คนอื่น ซึ่งแน่นอน ผมได้เงินไม่น้อยในการทำในสิ่งที่ชอบ ผ่านอุปสรรคต่างๆบนทางเดิน ...แต่มันก็สอนให้ผมรู้ว่า ...การที่คนเราคนนึง จะประสบความสำเร็จได้ มันไม่ใช่การที่เราวิ่งไปหาโอกาส มองหาสิ่งที่ยังไม่มีใครทำ หรือพยายามหาสิ่งที่จะทำเงินได้มากที่สุด ไม่ใช่!! ..เพราะพอเอาเข้าจริง การที่เราจะทำอะไรก็ตามให้ประสบความสำเร็จ มันต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนาน (ไม่มี Overnight Success ในโลกนี้) ดังนั้น ถ้าเราไม่ชอบในสิ่งที่ทำ ถึงคุณพยายามฝืนทำมันอย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีทางที่จะทำได้ดีกว่าคนที่ รักในสิ่งที่ทำ และ ทำมันอย่างจริงใจด้วยจิตวิญญาณ และนั่นคือ สิ่งที่ลูกค้า หรือ ผู้ใช้บริการ เขาสามารถสัมผ้สได้
สิ่งที่ผมค้นพบมันก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไร เพียงแต่ผมพบว่า โอกาสมันเกิดจากเราสร้างมันขึ้นมาเอง ...โอกาสไม่ได้วิ่งหาเรา โดยที่เรานั่งอยู่เฉยๆ ..หากเราเห็นคนที่เป็นผู้นำองค์กร หรือ เจ้าของกิจการใหญ่โต ..หากคุณเข้าไปศึกษาชีวิตของเขาเหล่านั้นจริงๆจะพบว่า ..ทุก Step ก่อนจะมาสู่ความสำเร็จ ... มันสร้างจากการตั้งเป้าหมาย และมุ่งเดินทางอย่างไม่หยุดหย่อน ...ครับ!! ไม่มีแน่นอน ที่พนักงานขี้เกียจคนนึง จะถูกเลือกให้เป็น CEO ของบริษัท ..นอกเสียจากว่า เขาทำให้ตัวเอง เหมาะกับการเป็นผู้ถูกเลือก ของโอกาสที่จะเข้ามา ...การที่เราจะได้โอกาส มันก็คือ เราสร้างตัวเองให้เข้าไปเป็น ตัวเลือกของโอกาส และนี่แหละที่ผมอยากจะบอกว่า "โอกาส" น่ะ ..เราเป็นผู้สร้างมันเอง!!
ผมเอาความคิดเหล่านี้ มามองตัวเอง ..."ผมถามตัวเองว่า หากวันนี้ผมรวยหมื่นล้าน ตามชื่อหนังสือผม ด้วยความสามารถของผมเอง ไม่ใช่มรดก ..ผมจะยังคงทำในสิ่งที่ผมทำหรือเปล่า" ..คำตอบคือ "ใช่" ..นั่นหมายความว่า การเดินทางของผมยังคงดำเนินต่อไป (แน่นอน ถ้าผมรวยหมื่นล้าน ผมคงไม่นอนอยู่กับบ้าน แคะขี้มูก และทำตัวไร้ค้า เพราะมันเท่ากับว่า ประสบการณ์ต่างๆของชีวิตผมจะจบลง หลังจากนั้น ..เพราะถ้าทุกอย่างหยุดที่จุดหมาย นั่นก็แสดงว่า จุดหมาย ก็คือ จุดจบของชีวิตคุณ จริงไหม!!)
"แล้วยังไงล่ะ ถ้าจุดหมายไม่ใช่ จุดจบของชีวิต" ..ถูกต้อง คุณก็จะมีจุดหมายใหม่ เมื่อจุดหมายเดิมบรรลุแล้ว ..และนั่นแหละชีวิต "มันก็คือ การเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ..ตราบเท่าที่คุณ ยังสนุกกับมัน"
ตัวผมเอง เคยติดกับดัก ความคิดของชีวิต อยู่หลายปี ..ผมจมอยู่กับความล้มเหลว ที่วิ่งเท่าไหร่ ก็ออกไม่ได้ ..ในที่สุด ผมก็เข้าใจคำว่า "จังหวะของชีวิต" ... ซึ่งถ้ามองให้ดี ชีวิต ก็เหมือนลูกตุ้มนาฬิกา มันมี Cycle ของมัน ..มีขึ้น ก็มีลง ...คนที่ไม่เข้าใจ พอลูกตุ้มจังหวะของชีวิตคุณเข้าสู่ขาลง คุณก็บ้าบอ คุณก็พยายามด้ิน .."ดิ้นเท่าไหร่ มันก็ไม่พ้นขาลง ..ใช่ครับ!! ขาลงจะพ้นได้ ก็ต่อเมื่อลูกต้มนาฟิกา ขาลงของชีวิตคุณ แกว่งไปจนถึงที่สุดของขาลงเสียก่อน ..มันถึงจะเริ่มแกว่งกลับมา -- จุดนั้นเอง ที่เราจะได้เรียนรู้ ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเรา" ..คำพูด Classic ของโบราณ ที่พูดว่า วิกฤตสร้างโอกาส และจุดที่แย่ที่สุด ของวิกฤตก็คือ จุดเริ่มต้นของโอกาส ผมขอการันตีว่า จริง!! ... คนที่ล้มเหลวในชีวิต แล้วสามารถลุกขึ้นมาได้ ทุกๆครั้ง คุณจะเก่งขึ้น คุณได้เรียนรู้อะไรที่มากขึ้น ..."คุณรู้ไหมว่า คนที่เก่งมากๆ ก็เพราะเขาผ่านความล้มเหลวมามากมายจริงๆ ..ผมสารภาพตรงนี้เลยว่า ชีวิตผมผ่าน ความล้มเหลวในทุกด้านของชีวิต ซึ่งก็ไม่มีความจำเป็นที่ผมจะต้องเอามาเล่าให้ฟัง ...แต่ผมอยากจะบอกว่า คนที่คิดว่า เราเจออะไรที่มันสุดแล้ว บางครั้งเรื่องนั้น มันอาจเป็นเรื่องขี้ผง สำหรับคนที่ผ่านเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น" ..และจุดที่คนๆนึงไม่ไหวสุดๆ และฆ่าตัวตาย มันก็เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเอง ...เพราะวันนี้ตัวผมเอง เมื่อมองย้อนไปที่จุดตรงนั้น ก็เป็นเรื่องขำขัน ด้วยซ้ำว่า "โถ่!! เรื่องตอนนั้นที่ กูจะฆ่าตัวตาย ..มันทำไมช่าง ขี้ประติ๋ว ถึงเพียงนี้ ไร้สาระสุดๆ .."
ในเรื่องของความมั่งคั่ง ..คนที่รวยสุดๆ ก็เพราะเขาสามารถตัดเงินก้อนนั้นออกไปจากชีวิตของเขาได้นั่นเอง ...มันจึงทำให้เขาเสี่ยงได้สุดๆ และประกอบกับเขาเข้าใจในความเสี่ยงของเขาอย่างลึกซึ้ง มันจึงเป็นความเสี่ยงที่เขาได้คำนวณไว้ว่า เขารับได้แล้ว "ครับ!! เขาได้คำนวณแล้วว่า ถึงแม้เงินทั้งก้อนที่เขาลงทุนทั้งหมด มันสูญสิ้นไป ..เขาก็ไม่ได้เสียทุกอย่าง" เพราะ Asset ที่ล้ำค่า และสามารถสร้างเงินได้ หมื่นล้าน แสนล้าน มันไม่ใช่เงินก้อนนั้น ..แต่มันเป็น "ตัวเราเองต่างหาก"
หลายคนบอกว่า "ต้องมีตระกูล ใหญ่โต ..ต้องมีเงินทุน จึงจะประสบความสำเร็จได้" ..ผมว่ามันจริงเพียงครึ่งเดียว ..ผมว่า มันคือ แต้มต่อมากกว่า เพราะสุดท้าย ความสำเร็จมันมาจาก ที่ตัวบุุคคลเป็นคนสร้าง .. Steve Jobs หรือ คุณตัน ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เราเห็นว่า ความสำเร็จมันไม่ได้เริ่มจากตระกูล เงิน หรือ หน้าตาเลย ...การที่หลายๆคนชอบยกเอาตรงนี้ขึ้นมา มันเป็นเพียงแค่ข้อแก้ตัวที่ ทำให้ตัวเองไม่ต้องพยายามเท่านั้นเอง
"ผมบอกได้เลยว่า อันที่จริงแล้ว ถ้าคุณเก่งจริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มธุรกิจจากเงิน ..ร่างกายและสมองคุณนั่นแหละ ที่มันเป็น Asset เริ่มต้น ของคนที่สร้างตัวจากสองมือเปล่า"... ลองคิดดูดีๆครับ สิ่งแรกที่เราต้องหา ก็คือ "ความรู้" ..ความรู้หาได้จากทุกอย่าง ในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย คือ คุณต้องขยันอ่าน ขยันศึกษา คุณถึงจะหาความรู้ได้มาก ..จากนั้น การลองผิดลองถูกจากความรู้นั้นๆ มาปรับให้เหมาะกับ แต่ละบุคคล ก็จะแปรเปลี่ยนเป็นปัญญา ของแต่ละคน ...จากนั้น เมื่อมีปัญญาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่า คุณจะรวยทันที ..เพราะในชีวิตจริง คนเก่ง ก็ต้องอาศัยการวางแผนที่ดี กล้าเสี่ยง ได้ถูกที่ถูกเวลา มันจึงจะแปรเปลี่ยน เป็นความสำเร็จของแต่ละคน ที่บอกได้เลยว่า ไม่มีใครเหมือนกัน ... แต่ที่เหมือน ก็คือ ความมุ่งมั่น ...ความเข้าใจในความเสี่ยง และก็จังหวะและโอกาสของแต่ละบุคคล
คนที่โชคดี ก็คือ คนขยัน ..คนที่หมั่นหาความรู้ ... มีความพยายาม ..มีเป้าหมาย ..และมีแผนการที่จะเดินไปสู่เป้าหมาย .. การที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คุณต้องเริ่ม สร้าง Jig saw แล้วค่อยๆ ต่อ ต่อ และ ก็ต่อ เพื่อวันนึง ภาพที่คุณวางไว้ จะสำเร็จได้ในวันนึง
อ่านมาถึงขั้นนี้ หลายคนอาจจะบอกว่า "ถ้าความสำเร็จมันลำบาก งั้นไม่ประสบความสำเร็จก็ได้จริงไหม" ..จริง!! เพราะชีวิตนี้คุณเลือกเอง คุณเลือกที่จะทำได้ และคุณก็เลือกที่จะเป็นได้ ...คำถามคือ คุณเลือกแล้ว และคุณทำมันอย่างจริงจังหรือยังล่ะ!! (คุณเท่านั้นที่ต้องตอบเอง)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
6 หลักการ คัดหุ้นปันผลดีเติบโตแล้วเลี้ยงเราได้ไปยาวๆ หลักการนี้สำหรับ คนชอบซื้อแล้วถือ กินปันผลยาวๆ 1. ‘หุ้นมี Market cap ขนาดใหญ่‘ …หุ้น...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
6 ข้อ มาคุยกันเรื่อง Why Nations Fail ? สิงค์โปร์ไม่ทีทรัพยการเลย ทำไมรวย …เวเนซุเอลา มีน้ำมันมากที่สุดในโลก ทำไมจน ..แล้วสวิส ประเทศเล็กๆ...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 ข้อ เศรษฐกิจและการลงทุนยุค Trump 2.0 1. ‘นโยบาย American First’ …Trump จะทำทุกอย่างให้อเมริกาได้ประโยชน์ เน้นในเรื่องของเศรษฐกิจ 2. ‘Dere...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
สิ้นสุดการรอคอยซะที จัดเต็มเลยครับคุณภาววิทย์
ตอบลบผมรออ่านบทความมาเปงอาทิตย์และครับ
ผมอ่านแล้วชอบมากมากครับแต่ขอเสริมนิดครับว่า
ถ้ามีเมียชั่ว เล่นชู้เล่น ติดการพนัน ให้เป็นเพื่อนด้วยผมก็ไม่เอาอ่ะผม
สยองมาและ55+
ส่วนอันสุดท้ายขอเสริมว่า
คุณภาววิทย์พูดได้ถูกนะ คนเรารวยขึ้นมาแต่ไม่ได้ส้รางเอง
กินมรดกพ่อแม่แล้วมันจะไปภูมิใจอารั๊ย
เหมือนหนังทุกเรื่อง บทที่คนดูชอบสุดคือพระเอกต้อง
ลำบากเจอปันสะหา ก่อน
แล้วเอาชนะจนสำเร้จได้ นี่สิที่คนดูชอบ
เยสสสสสส ใช่เลย
เขียนอีกนะครับจะได้รวมเล่มฮาวทู
ชอบความคิดของพี่มากเลยคะ อ่านแล้วรู้สึกว่าเรายังทำในสิ่งที่ไร้สาระมามากเลยทีเดียว ปล่อยเวลาให้ผ่านพ้นไปโดยการมัวแต่นั่งรอโอกาศให้เข้ามา แต่ไม่ได้สร้างขึ้นเอง หนูต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่ซะแล้วล่ะ ^^
ตอบลบปล.หนูจะช่วยเลี้ยงปลาคะ :P
จริงที่สุดค่ะ ^^
ตอบลบขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ ...
ตอบลบเป็นบทความที่ดีมากครับ :)
ตอบลบอ่านแล้วชอบมากเลยค่า โดยเฉพาะที่ว่า "ถ้าเราไม่ชอบในสิ่งที่ทำ ถึงคุณพยายามฝืน ทำมันอย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีทางที่จะทำได้ดีกว่าคนที่รักใน สิ่งที่ทำและ ทำมันอย่างจริงใจด้วยจิตวิญญาณ" กด like ให้เลยง้าบ
ตอบลบสุดยอดมากเลยครับ ขอบคุณครับ
ตอบลบBlack Friday DSC-H70
เป็นบทความที่ดีมากๆๆเลย
ตอบลบเพราะคิดแบบนี้หรือ...ถึงประสบความสำเร็จ
ตอบลบเยี่ยมมาก..
เยี่ยมมากครับ
ตอบลบผมชอบการเขียนของคุณที่อ่านละสามารถเข้าใจได้ง่าย
ขอบคุณมากๆครับ
ประเทศเราจะเจริญและพัฒนาได้เร็ว
ก็เมื่อคนของเรามีความรู้
และที่สำคัญยิ่ง จำต้องมีคนที่ยินดีมอบความรู้ให้ เช่นคุณครับ
ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
ขออนุญาตินำไปแขร์นะครับ
ตอบลบชัดเจน และจริงค่ะกับประโยคที่ว่า Asset ที่ล้ำค่าคือ ตัวเรา ขออนุญาตนำไปแชร์ค่ะ
ตอบลบ