แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

This is my Future เจ๋งเป้ง!!




“ปี 2011 นี้มูลนิธิไทคม ..เลือกผม เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ สาขาอาชีพนักลงทุน -- ที่จะมาพูดสร้างแรงบันดาลใจให้กับ นักศึกษา ที่อยากประสบความสำเร็จ” ..ผมยัง งงๆ ว่า ตกลงผมสำเร็จแล้วหรือ … เออ!! ช่างเถอะ เอาเป็นว่า ผมและน้องๆ จะเดินทางสู่ความสำเร็จไปพร้อมๆกันละกัน …ไปด้วยกันครับ …. เอ้า!! ว่าไป …..

“อนาคตของฉัน” …ฮึม!! ฟังดู เหมือนตอนสมัยเรียนอยู่ประถมเลย แล้วคุณครูให้เลือกอาชีพในฝัน แล้วให้มายืนหน้าห้อง.. คุณรู้ไหมเด็กประถม เลือกอาชีพในฝันจากสิ่งที่ตัวเองชอบ ..จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป เขาเหล่านั้นโตขึ้น ถึงระดับมัธยม ผ่านประสบการณ์ “สุข ทุกข์ คลุกเคล้า เป็นความแกร่งของแต่ละบุคคล”

“อยากฆ่าตัวตาย!!” ..เสียงก้องจากมุมตึก ดังขึ้นมา และ ชายหนุ่มที่ชื่อ อาเต้า ก็กำลังเอาปืนจ่อที่ขมับของตัวเอง … สาเหตุเพราะโดนแฟนที่รักกันปานจะดูดตูด หลังจากคบกันมา 3 เดือน …ทิ้ง!! “โฮ ๆ ๆ ..ชีวิตผม ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ..น้องแต้ว ไม่น่าทำกับผมอย่างนี้เลย …ผมจะตายให้มันรู้แล้วรู้ลอด ให้มันจารึกเป็นตำนาน!! -- ตำนานความรักอาเต้า!!” ..อ่ะนะ !! รู้สึกว่าถ้าทำหนังออกมา ยังซึ้งไม่พออ่ะ ..ผมว่าขายไม่ออก และ ไม่มีใครอยากสร้างด้วย ..เพราะถ้าจะเอาให้ขายออก ต้องเอา ความรักดาวพระศุกร์ …ถึงจะเข้าถึงก้นบึ้งของหัวใจได้!!

ประเด็นที่ผมอยากจะกล่าวคือ … “เวลาเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยน …ดังนั้น ให้เวลาเป็น เครื่องมือตัดสินชีวิต ก่อนปืนได้ไหม!!” …เพราะอะไรรู้ไหม ..เพราะเรื่องที่คุณว่ามันสุดๆแล้ว ปวดสุดๆ รับไม่ได้สุดๆ จนอยู่ในโลกนี้ไม่ได้แล้ว … เมื่อเวลาผ่านไป (ถ้าคุณยังไม่ได้ฆ่าตัวตาย) เรื่องนั้นๆ จะกลายเป็นเรื่องเล่า ขำขำ ในหมู่เพื่อนๆและคุณ .. โห!! ตอนมัธยมนะ ผมรัก น้องแต้วมากเลย ..ผมเกือบจะฆ่าตัวตายเพราะน้องแต้วด้วย … (เพื่อนสนิทคุณก็ถามขึ้น) .. “แล้วตอนนี้ น้องแต้วไปไหนแล้วล่ะ” … “ตลกโคตรๆ รู้ไหม ตอนนี้ น้องแต้ว ก็เป็นเมียไอ้จิวไง …สาวใหญ่ที่อ้วนกลมๆนั่นแหละ น้องแต้ว!! ..สมัยที่รักกับกูนี่ ..โอโห หุ่นยังกับ นางแบบ… 555” (เออ..สรุป แต่ก่อน เกือบฆ่าตัวตาย ..ตอนนี้มันเอามาคุยเป็นเรื่องตลก)

“นั่นหมายความว่า … การคิดสั้น คือ อารมรณ์ชั่ววูบ!!”

“เข้าเรื่องดีกว่า” คือ วันนี้ผมอยากแชร์ประสบการณ์ จากจุด “สุดขั่ว” นั่นคือ จากจุดที่ล้มเหลวที่สุดในชีวิตคุณ ..คุณจะผ่านมันอย่างไร (เมื่อคุณเงยหน้าขึ้นมา ในเวลาที่คุณล้มเหลวสุดๆ ..สิ่งที่คุณจะเจอ มันไม่ใช่มืออันอ่อนโยน ที่จะช่วยคุณ ..แต่มันคือ ตีน!!) …ชีวิตจริง ไม่ใช่นิยาย จะได้มีพระเอกสุดหล่อ พ่อรวย มาช่วยคุณออกจากวิกฤต …ใช่!! พระเอกไม่มี มีแต่ ตีน!! --- คำถามคือ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ!!

“จ๊าก!! ผมเอ็น ไม่ติด … ไม่ติด .. ผมอ่านหนังสือ หนักมาก ..แต่!! ผมเอ็นไม่ติด “พระเจ้า ทำไมไม่ยุติธรรมเลย”.. ผมเอ็นไม่ติด” …คุณรู้ไหมว่า มีคนพูดประโยคนี้ อีกเป็นล้านคนในประเทศ และ หนึ่งในคนที่พูดประโยคนี้ ก็กลายเป็นเศรษฐีพันล้าน หมื่นล้าน ..เอ่อ!! ไม่ใช่ซิ .. เศรษฐีหมื่นล้านบางคนไม่ได้ไปเอ็นด้วยซ้ำ .. บ้านจนน่ะ ไม่มีตังค์ค่าสอบ.. อ่ะนะ!!

“เรียนจบ …เข้าทำงาน ..ตามค่าแรงขั้นต่ำ ที่รัฐบาลกรุณา ..แม่เจ้า!! ได้ หนึ่งหมื่นห้าพันบาท ..หักค่า ผ่อน รถยนต์ หักค่าผ่อนคอนโด ..ค่าผ่านมือถือ ..ค่าอินเตอร์เน็ต ..ค่า Starbucks และ ก็ค่าตั๋วดูหนัง… ค่าน้ำมัน ..สรุปไม่เหลือเงินเก็บเลย” …คำถามคือ ผมอยากรวย ผมจะรวยไหม … “ถ้าทำแบบนี้ ชาติหน้าก็ไม่รวย ..เพราะรายจ่ายมันมากกว่า รายรับ จะรวยได้อย่างไร” …ประเด็น มันไม่ได้อยู่ที่ “หามากเท่าไหร่ ..เพราะเท่าไหร่มันก็ไม่พอ ..เพราะทั้งรถ และ บ้าน มันแพงตามรายได้ คุณมีพันล้าน คุณก็ซื้อบ้านพันล้านได้ รถยนต์ Ferrari ได้.. ดังนั้น หาได้เท่าไหร่ ไม่สำคัญเท่ากับ คุณเก็บได้เท่าไหร่ต่างหาก!!”

“เก็บวันละ 100 บาท หนึ่งเดือน 3,000 บาท หนึ่งปี 36,000 บาท ..ฝากธนาคาร ได้ดอกเบี้ยปีละ 0.75% ..หักเงินเฟ้อปีละ 10% ++ (เพราะในอนาคตอันใกล้เงินมันโคตรจะเฟ้อเลย .. ของแพงขึ้น เงินซื้อของได้น้อยลงเรื่อยๆ ..คุณเห็นภาพไหมว่า เงินมันเฟ้อ!!) … ดังนั้น ทุกๆปี เงินออมเราลบ 9% ต่อปี .. ยิ่งเก็บ ก็ยิ่งจน เพราะ ราคาน้ำมัน กับ เนื้อหมู มันดันขึ้นเร็วกว่า เงินที่เก็บได้.. แต่!! แต่คุณก็ยังโชคดีกว่า คนที่เก็บเงินไม่ได้เลย ..เพราะไอ้เก็บเงินไม่ได้เลย มันไม่มีอะไรเลย ..มันเลย ไม่มีอะไรเลย ..หาเช้า กินค่ำ ..พรุ่งนี้หาใหม่ .. อ้าว!! เฮ้ย กูตกงาน .. มองขึ้นฟ้า .. ฮึม!! ใช่ ..เจอตีน!! (เงินเดือนเท่าไหร่ มันก็เก็บเงินได้ทั้งนั้น ถ้าจะเก็บ ..คิดดีๆ ..ทำไมพระรวยทุกรูปเลย ..ก็ใช่ดิ ไม่มีรายจ่าย มีแต่รายรับ ..นี่แหละผลบุญ!! ..อิ อิ “ขำขำ”)

ย้อนกลับไปเรื่องอาชีพในฝัน ที่ผมพูดตอนต้น … คือ อาจารย์ให้โจทย์ให้นักเรียนทุกคน ไปเลือกอาชีพในฝัน ก็คือ เลือกสิ่งที่เรารักจะทำ … “ผมจะบอกว่า อาจารย์ประถม นี่ สอนถูกต้อง โคตรๆ” …คือ ส่วนใหญ่ ยิ่งเรียนยิ่งโง่ ไม่ยอมเชื่ออาจารย์ประถม เพราะพอรู้มาก เช่น รู้ว่า จบวิศวะ หรือ หมอ แล้วได้เงินดี ..คือ ต้องเรียนให้ๆได้ ..แต่เผอิญ พรสวรรค์เรามันไม่ได้อ่ะ ..ชอบก็ไม่ชอบ .. ทำงานก็ทนทำไป (ไอ้พวกที่ไม่รักในสิ่งที่ทำ ก็สังเกตง่ายๆ คือ เวลาเช้าวันจันทร์ปั๊บ จิตตก!! ทำงานไป อึดไปเรื่อยๆ พอวันศุกร์ จิตขึ้น!! วันหยุดนี่ ดี๊ด๊า!! ..อย่างนี่สำเร็จยากนะ) .. “ถามหน่อย คนที่รวย และ ประสบความสำเร็จ …เขาทำแบบนั้นหรือเปล่า”

“คุณก็รู้นะว่า ในโลกนี้ ไม่มีใครโง่ จริงไหม.. ดังนั้น ทุกคนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ..เวลาซื้อผลไม้ต้องเอาลูกที่แจ๋วสุด ใช่!! ไม่มีใครเลือกลูกเน่าๆหรอก … พี่ครับ!! ผมขอแอ๊บเปิ้ล ลูกนึง เอาลูกที่ห่วยแตกที่สุด!! ..ฮึม!! มันไม่มีนะ” …ชีวิตก็เช่นกัน ..สังคมเลือก คนเก่งที่สุดใน อาชีพต่างๆ ให้ได้รับการเลือก ดังนั้น หมอที่เก่งที่สุด จะรวยมาก … วิศวะที่เก่งที่สุด จะรวยมาก … นักแสดงที่เก่งสุดจะรวยมาก …นักร้องที่เก่งที่สุด จะรวยมาก… นักเต้นเก่งที่สุดจะรวยมาก … นักลงทุนที่เก่งที่สุดจะรวยมาก … “เห็นไหมครับ ว่าอะไรที่เหมือนกัน ของคนที่รวยและประสบความสำเร็จ …ใช่!! คุณต้องเก่งที่สุด .. คือ มีอาชีพอีกเป็นล้านอาชีพ ตั้งแต่ สัปเหร่อ ยัน นักมวย นักบอล นักการเมือง ..บ้าบอ.. อะไรก็ได้ ..ถ้าคุณเก่งที่สุด หรือ เก่งอันดับต้นๆของส่ิงนั้น คุณจะรวย!!” -- เชื่อไหม !!

ถ้า ไมเคิล จอแดน ไม่เป็นนักบาส แล้วมา เป็นนักกอล์ฟ เขาจะรวยน้อยกว่านี้ สำเร็จน้อยกว่านี้ เพราะ เขาเล่นบาสดีกว่า … แต่!! นั่นยังสำคัญน้อยกว่า ..คุณชอบอาชีพที่คุณทำหรือเปล่า …เดี๋ยวก่อน!! อาชีพ ผมไม่ได้พูดถึง อาชีพ หมอ พยาบาล หรือ อาชีพพื้นๆที่คนส่วนใหญ่ทำ นั่นมัน “กับดัก” ทางอาชีพ คือ เราโดนจำกัดความคิดอยู่ในกล่องว่า อาชีพมีอยู่แค่นี้ ต้องแข่งกันแค่นี้ !! ..ผมกำลังพูดถึง อะไรก็ได้ ที่ทำแล้ว มันมีความสุข และ มันสร้างรายได้ “นั่นแหละ อาชีพ -- มันไม่มีกรอบ” …เช่น มีไอ้หนุ่มคนนึง ชอบเขียนโปรแกรม ที่ทำให้คนสามารถ Chat กันได้ ตั้งชื่อมันว่า FACEBOOK จากนั้น คนทั่วโลก อยากใช้มัน ..และธุรกิจก็อยากโฆษณาในนั้น ..มันก็เลยทำเงินมหาศาล!! “อาชีพในคำจำกัดความของผม คือ สิ่งที่คุณรัก และ ทำแล้วอยู่ได้ ..แล้วก็ทำต่อไป จนคุณ เจ๋งสุดๆ .. บางคนชอบถ่ายวีดีโอตลก ถ่ายแล้วไป Post ใน Internet แล้วคนติด อยากดู ..จากนั้น รายได้ก็เข้ามา โฆษณาก็เข้ามา ..มีคนเชิญให้คุณไปเป็น สุดยอดผู้เชี่ยวชาญ ด้าน คลิปสั้น …และแล้ว คุณก็ได้รับรางวัลจาก ช่อง 3 ให้เป็น Man of The Year ผู้สร้างรอยยิ้ม และ แรงดลใจ ให้กับคนทั้งประเทศ เพราะคุณทำให้สังคมยิ้มได้ สุขขึ้น …อะไรแบบนี้ ..และแล้ว Brand ต่างๆ ก็ติดต่อ คุณไปเป็น IDOL ของคน ไม่หล่อ แต่เจ๋ง เพราะคุณ ทำในสิ่งนั้นๆ “คลิปตลก” ได้ดีที่สุดในประเทศ … จากนั้น นิตยสาร Time ก็มาสัมภาษณ์ “เอ่อ!! อะไรคือ แรงดลใจของ ผลงานคุณครับ” ….. (ตอบสั้น) … “กูแนว ... กูชอบ!!”

สรุป ที่มันรวยและ ประสบความสำเร็จสุดๆ เพราะ “กูแนว …กูชอบ” … กูก็เลยทำมันไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ ยิ่งทำ ก็ยิ่งทำได้ดี ยิ่งดี มันก็ยิ่งดีขึ้น … จากนั้น ทุกอย่างมันก็เข้ามา --- คำถามคือ “ความสำเร็จในครั้งนี้ มันเกิดจากอะไร” -- ใช่!! “กูแนว ..กูชอบ” ..ไง ..อิ อิ

จริงๆ ประเด็น ที่ผมจะชี้คือ ..ทุกคนพยายามทำเป็น ทุกสิ่ง ทุกอย่าง จนสุดท้าย มันไม่มีอะไรเลยที่เราทำได้ดี ..คิดดีๆ การที่คนๆนึงจะทำอะไรได้ดี ..คุณต้อง ทุ่มชีวิตทำสิ่งนั้น ..อย่างนักร้องเกาหลี Rain กว่าเขาจะดัง และเป็น Person of the Year ที่เป็นคนเอเซียอายุน้อย ..เขาทุ่มชีวิตให้กับการเต้นและร้องเพลง … “ผลงานที่เขาแสดงออกมา คือ การเต้นของคนหน้าตาธรรมดา ที่ดีที่สุดในเอเชีย ในการเต้นแบบโชว์ Six Pack ..สาวกรี๊ด!! ..เออ Rain รวยเป็น พันล้าน ..ด้วยการเลิกเป็นจับฉ่าย แล้วทุ่มทั้งชีวิตให้กับสิ่งที่คุณรัก”

“โน๊ต อุดม …แม่เจ้า IDOL ของผมเลย …(คือ ผมจะบอกว่า ชีวิตผมมี IDOL หลายคนมากๆ เพราะจริงๆ แล้ว การชื่นชมคนอื่น มันคือ การปลุกพลังในตัวเองให้ลุกสู้ต่างหาก …และ มนุษย์ทุกคน ก็คือ แรงดลใจให้กับอีกคน …และนี่คือ แรงดลใจ ที่เกิดจากชายตลกๆ มีเสน่ห์อย่าง พี่โน๊ต!!” … หลายคนบอก ..แล้วไงล่ะ .. ก็พี่เขาตลกดีนะ … นั่นไม่ใช่ประเด็น!! …คุณรู้ไหมว่า โน๊ต อุดม เป็นผู้เปิดวงการ Standup Comedy คนแรกของเมืองไทย ..และทำมันมาเป็น 10 ปีแล้ว ..รอบล่าสุด เดี่ยว 9 … ขายบัตรหมดใน 2 ชั่วโมง ..ได้เงินมาร้อยล้าน … “ฮึม!! Overnight Success …โห พี่โน๊ต ฟลุ๊กว่ะ … อ่ะนะ !! คิดดีๆ 10 กว่าปี กับการมุ่งมั่นทำ Standup Comedy ให้ดีที่สุด และ ทำอย่างมุ่งมั่น …นี่ไม่ใช่ Overnight Success แต่มันคือ ความมุ่งมั่นของชายคนหนึ่งที่ มุ่งทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ให้ดีที่สุดต่างหาก” … คนส่วนใหญ่ มักมองเห็นที่จุดสุดท้าย แล้วบอกว่า “Overnight Success”… พูดก็พูดเถอะ ถ้าถอยดูกันจริงๆ ไอ้ที่เห็น Overnight Success มันเกิดจากความพยายามและ ความมุ่งมั่นของคนๆหนึ่ง เป็นเวลาที่นานเพียงใด

เคล็ดลับความสำเร็จจริงๆ มันเกิดจาก “ปัญญา + เวลา” … สิ่งทั้งหมดที่เราเรียนรู้จากโรงเรียนและมหาวิทยาลัย มันเป็นเพียงความรู้ เพราะความรู้ มันอาจจะเหมาะกับ บางคน บางอาชีพ ..สุดท้ายการจะเปลี่ยนความรู้ เป็น “ปัญญา” แต่ละคนต้องเอาความรู้ ที่เหมาะกับตัวเอง ในสายอาชีพต่างๆ มาปฏิบัติ ..เมื่อปฎิบัติ และ เหมาะกับตัวเรา สิ่งนั้นถึงจะเรียกว่า “ปัญญา” (แต่ไม่ใช่ มีปัญญา แล้วจะรวยทันที ..มันต้องอาศัย เวลา “ซึ่งเวลาสู่ความสำเร็จ ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน” --- ดังนั้น ปัญญา + เวลา …นั่นแหละ หลักของการสร้างความมั่งคั่งและ ความสำเร็จของแต่ละบุคคล

“ฝากไว้ก่อน.. เดี๋ยวมาคุยกันต่อ -- ความสำเร็จน่ะเหรอ ..เกิดจาก สิ่งที่คุณรัก และทำได้ดี …ฮึม!! กูแนว กูชอบ..อิ อิ” (นี่มีหลายคนมาเถียงนะ .. ก็บ้านผมจนอ่ะ ไม่มีโอกาสเลือก … วันหลังสงสัยต้องเอาคุณตันมาเล่าให้ฟังว่า เริ่มจากศูนย์ มันก็ หมื่นล้านได้ คุณตันบอกว่า เคล็ดลับมันอยู่ที่ว่า “คุณต้องรูปไม่หล่อ และ พ่อไม่รวย” … ฮึม!! อ่ะนะ สงกะสัย ผมจะอด หมื่นล้าน…หุ หุ หุ)

-- เอาล่ะครับ "แล้วเจอกัน ในงานสร้างแรงบันดาลใจ This is my Future 2011 ...คุณก็ทำได้ ถ้าคุณมีความมุ่งมั่น!!"



5 ความคิดเห็น:

  1. แล้ว THCOM ซื้อดีมั้ยครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ คับ

    ตอบลบ
  3. บทความเจ๋งสุดๆครับ ให้เต็ม 100 เลย

    ตอบลบ
  4. สุดยอดคุณแพท ขอชื่นชมกับความสำเร็จอีกขั้นของคุณ ขอให้คุณ จงยิ่งให้ และยิ่งได้ต่อไปนะครับ

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ