แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

คุยกับพี่บอย (วิสูตร)

 คุยกับพี่บอย (วิสูตร) ..


พี่บอยเป็นคนที่อ่านและสรุปหนังสือเยอะมาก …เล่มล่าสุดที่แกชอบคือ ‘ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์’ เขียนโดย Oliver Burkeman …’เหมือนจะเป็นหนังสือเรื่องการบริหารเวลา แต่ไม่ใช่เลย …มันแทบจะตรงข้าม และ จับเราตีลังกาคิดกันเลยทีเดียว’ 


พี่บอยเล่าว่า แกเป็นคนรุ่น GenX จะรู้สึกผิดมากๆ หากใช้เวลาไม่คุ้มค่า จะรู้สึกว่าตัวเองไร้สาระ …ทำให้ต้องขยันตลอดเวลา หรือ อย่างน้อยต้องทำตัวยุ่ง เพื่อให้ไม่รู้สึกผิด 


‘แพ้ท เป็นเหมือนกันป่ะ?’ 


‘อ๋อ !! เคยพี่ เคยเป็น ตอนที่ไปเรียนโทอยู่ออสเตรเลีย ตอนนั้นเรียนด้วย ทำงานด้วย’ …มองหาลู่ทางตลอด อยากเปิดธุรกิจให้ได้ก่อนเรียนจบ …สุดท้าย!! เปิดร้านอาหารได้จริงๆ แต่เรียนไม่จบ …555


ไอ้เรียนโท ไม่จบนี่ มันทำให้โคตรกดดัน …ว่าธุรกิจต้องสำเร็จ …เอาตรงๆ ชีวิตแบบนั้น ทำงานโคตรหนักเลยนะ แต่โคตรไม่มีความสุข ชีวิตเหมือนแรงงานเถื่อนอ่ะ …วันๆ มองเงิน ว่า ขายอาหารได้เท่าไหร่ …อยากเก็บเงินสร้างตัว และ ขยายร้านอาหาร


โอเค !! สรุปคือ 


ที่ผ่านมาจุดนั้น สอนให้ผมรู้ว่า 


1. ‘การ Work Hard กับ Work Smart ต่างกันมาก’ …เราจะ Work Hard เมื่อเรายังไม่เจอทาง …แต่ถ้าเจอทางแล้ว ต้อง Work Smart ทันที 


2. ‘เราจะเจอทาง เมื่อเราทำงานน้อยลง แต่ผลลัพธ์มากขึ้น’ …มันคือวิธีการค้นหาความถนัดของเราเองนั่นแหละ ….สุดท้ายให้ทำเฉพาะที่เราถนัดเท่านั้น


พี่บอย ‘นี่มันก็คือ เน้น Productivity เป็นหลัก ?’ 


‘ใช่’


พี่บอย ‘แล้วแพ้ทคิดยังไง กับ คนที่ทำงานหนัก แต่ไม่ใช้เงิน ไม่ใช้ชีวิตเลย ?’ 


นี่ไง !! ผมว่า เรากำลังจะเข้า Topic ของ ‘วิกฤตวัยกลางคน !!’ …เราเห็นคนวัยกลางคน ลุกขึ้นมาซื้อรถสปอร์ต แล้วก็เปลี่ยนการแต่งตัว ทำอะไรใหม่ๆ เปลี่ยนงานอดิเรก …เปลี่ยนตัวเองว่างั้น 


ตอนเด็กๆ เรามองคนเหล่านี้ ก็รู้สึกว่า ‘ลุงคนนี้ อยากเด็กนี่หว่า นึกขำ ..555’ …เฮ้ย!! แต่วันนี้มันเกิดกับตัวเราเองอ่ะ 


พี่บอย ‘ทำไมล่ะ ? …มันเกิดอะไรขึ้น ?’ 


‘ผมว่ามันเกิดกับทุกคนแหละ’ …มันคือจุดเปลี่ยนของแต่ละคน …ตอนทำงานใหม่ๆ เราจะทุ่มเททั้งหมดไปที่เป้าหมาย อยากไปถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด …แต่เอาตรงๆ นะ พอเราทำมาถึงจุดนึง เราจะเริ่มรู้สึกว่า …เฮ้ย!! ทำแบบนี้เมื่อไหร่จะได้ใช้เงินวะ ? 


เหมือนหนังสือเล่มนี้เลย …ชีวิตคนเราเฉลี่ยมีแค่ 4 พันสัปดาห์ …อย่างพวกเราใช้มาเกินครึ่งละ แถมเหนื่อยตลอด 


มองไปรุ่นปู่ย่า พ่อแม่ …ทำงาน ทำงาน ทำงาน …ไม่ได้ใช้ พอถึงจุดนึง มะเร็งมาละ …ตายละ …สรุป ไม่ได้ใช้เงิน …ที่ใช้มากสุดก็ ตอนนอนอยู่ รพ. ตอนใกล้ตาย …ที่เหลือลูกหลานเอาไปผลาญสบายๆ ….’ผมเห็นแบบนี้ โคตรรู้สึกว่า เป็นปมชีวิตผมเลย คือ เราจะไม่ทำแบบนั้น’ 


หนึ่ง เงินมากเกิน มันทำลายลูกหลาน เพราะ มันจะเริ่มหลุดโลก (คนที่ไม่ต้องทำงาน ก็อยู่ได้ …แม่งจิตตกทุกคน ไปดูดิ สบายกาย แต่ใจจะหนัก แล้วสุดท้ายมันจะฟุ้ง) …สอง งั้นสู้เราเอามาใช้บ้าง เหลือให้มันน้อยลง น่าจะเป็นประโยชน์กว่า


ก็น่าจะประมาณนี้แหละ วิกฤตวัยกลางคน …ทำงานหนักมาถึงจุดนึง สำเร็จระดับนึง ยังมีเป้าหมายต่อนะ แต่พอมองไปก็เห็นว่า ชีวิตมันไม่ได้ยืนยาวขนาดนั้น เลยเริ่มมองหาวิธีใช้ชีวิต 


…แต่!! 


ใช่พี่ …แต่มันรู้สึกผิด เหมือนเราทำตัวไร้สาระ ไม่ Productive !!


‘แพ้ทแก้ยังไง ? ความรู้สึกนี้ ?’ 


…เอาตรงๆ นะครับ …’ช่างมัน!!’ 


1. เปลี่ยนมุมมองใหม่ เราต้อง Work Smart ไม่ใช่ Work Hard …แปลว่า คนนั่งเฉยๆ ยุคนี้ อาจ Productive กว่าคนที่ดูยุ่งตลอดวันก็ได้


2. พยายามให้รางวัลตัวเองแบบสมเหตุสมผล …อันนี้คน GenX หรือ Gen ก่อนหน้า จะเข้าใจดี เพราะ เขามักทำงานเพื่อคนอื่น …ทำเพื่อครอบครัว เพื่อลูก …ใช้กับตัวเองน้อยเกิน ….ก็แค่เพิ่มการใช้กับตัวเองบ้าง แค่นั้นแหละ 



#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ