วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553
"ตลาดหุ้น สอนอะไรเรา"
ผมว่าหากเราเงี้ยหูฟัง เราจะพบกับสิ่งมากมายที่ตลาดหุ้นพยายามจะสอนเรา "ตลาดหุ้น คือ ตัวแทนที่จะสอนถึงความโลภของมนุษย์" เพราะยิ่ง คุณ อยากได้เงิน มากเท่าไร และ รวดเร็ว เท่าไหร่ --"ความเสี่ยง และโอกาสที่คุณจะเสียเงินก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น" จะเห็นได้จาก ระยะสั้นตลาดหุ้นผันผวนขึ้นลงอย่างรุนแรง คนที่เล่นหุ้นในระยะสั้น มีสถิติผลลัพธ์การได้เสีย แย่ยิ่งกว่า "นักพนัน"เสียอีก
ตรงกันข้ามกับ "นักลงทุน หุ้นในระยะยาว" กลับมีผลตอบแทนที่ดี และส่วนใหญ่ชนะตลาด --- ที่เป็นเช่นนั้น เพราะ ราคาหุ้นที่ขึ้นลง (ในระยะสั้น)ถูกกำหนดด้วยอารมณ์ความรู้สึก --(เวลาที่ตลาดกำลังขึ้น ทุกคนจะรู้สึกโลภ และอยากจะเข้าไปซื้อเพื่อทำกำไร (เพราะคิดว่า เข้าไประหว่างขึ้น ยังไงก็น่าจะกำไร)
แต่ปรากฏว่า พอทุกคนคิดอยากเข้าซื้อเหมือนกัน ราคาหุ้นก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีกตาม demand ความต้องการของตลาด ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปเกินกว่าพื้นฐานความเป็นจริงมาก (ดังนั้นเมื่อถึงจุดนึงที่ทุกคนรู้สึกกลัว) ราคาหุ้นก็จะ ดิ่งตกลงมาอย่างรุนแรง เพราะทุกคนคิดว่า ราคาจะตกต่อ ก็ยิ่งรีบเทขาย ส่วนคนที่รอซื้อก็รอต่อ เพราะคาดว่าหุ้น น่าจะตกต่อไปอีก (เมื่อทุกคน ไม่มีใครอยากถือหุ้น) ราคาก็จะดิ่งตก เกินกว่าความเป็นจริงมาก
จะเห็นได้ว่า การเล่นหุ้นตามตลาดอย่างมี เหตุมีผล ไม่ได้ทำให้เรากำไรได้เลย - "กลับทำให้ทุกคนกลายเป็น(แมลงเม่า) และขาดทุน" --(คำถามคือ แล้วใครล่ะ ที่ได้กำไร)
คนที่ได้กำไรกลับเป็นคนที่ซื้อหุ้นในระยะยาว เนื่องจากเขาเหล่านั้น ไม่ได้ต้องการเงินมาก ในเวลารวดเร็ว (อย่าง Value Investor เขาซื้อหุ้น โดยแทบจะไม่คิดที่จะขายเลย เขาซื้อในช่วงกิจการมีความไม่แน่นอนสูง ได้หุ้นราคาถูก แล้วก็ถือไว้ ไม่เคยขาย ซึ่งถ้าเราสังเกตราคาหุ้นเหล่านั้น ในระยะสั้นก็ผันผวนอย่างมาก เช่น บางวัน Port เขาอาจขึ้นไป 10 ล้าน บางวันจาก 10 ล้าน ก็ลดลงมาเหลือ 5 ล้าน แล้ว อาจวิ่งไปเป็น 15 ล้าน ท้ายสุดก่อนออกขึ้นไปเป็น 30ล้าน
ซึ่งแน่นอนเมื่อเขาไม่สนที่จะเอากำไรระยะสั้น(ถ้าสนระยะสั้น เขาคงขายไปตั้งแต่ขึ้นน้อยๆแล้ว) เขาจึงไม่เคยขาย --พอขายเขาก็ขายเมื่อกิจการสูงกว่าความเป็นจริงมากเกินไปแล้ว "ทำให้เขาได้กำไรสูงกว่า นักลงทุนทั่วไปมาก"
-- (เพราะเขาไม่คิดที่จะได้นั่นเอง))เขาจึง ไม่ได้ซื้อๆขายๆ ทำให้เขาไม่เสียค่านายหน้า อีกทั้งราคาก็ค่อยๆขึ้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็สามารถชนะตลาดอย่างไม่ยากเย็น -- "ดังนั้น คนที่ไม่คิดอยากได้ จะเป็นคนที่ได้" "คนที่กลัว จะเป็นคนที่เสีย"
ตลาดสอนให้เราอดทน และสอนให้เรารู้จักแพ้ และนี่แหละคือสิ่งที่ตลาดหุ้นพยายามจะบอกเรา ((( ชนะ เพราะไม่คิด เอาชนะ ))) ซึ่งเป็นแนวทางเดียวของการเล่นหมากล้อม ของ "ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ " สุดยอดนักวางกลยุทธ์ ประธานซีพีออลล์ --ผู้นำ 7-11 ชนะในเกม "ค้าปลีก" โดยไม่ คิดเอาชนะ....
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
6 หลักการ คัดหุ้นปันผลดีเติบโตแล้วเลี้ยงเราได้ไปยาวๆ หลักการนี้สำหรับ คนชอบซื้อแล้วถือ กินปันผลยาวๆ 1. ‘หุ้นมี Market cap ขนาดใหญ่‘ …หุ้น...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
6 ข้อ มาคุยกันเรื่อง Why Nations Fail ? สิงค์โปร์ไม่ทีทรัพยการเลย ทำไมรวย …เวเนซุเอลา มีน้ำมันมากที่สุดในโลก ทำไมจน ..แล้วสวิส ประเทศเล็กๆ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 ข้อ เศรษฐกิจและการลงทุนยุค Trump 2.0 1. ‘นโยบาย American First’ …Trump จะทำทุกอย่างให้อเมริกาได้ประโยชน์ เน้นในเรื่องของเศรษฐกิจ 2. ‘Dere...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...