วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553
โห --หุ้นช่วงนี้แรงจริงๆ สวนกระแสการเมือง
โบราณว่า "น้ำเชี่ยวอย่างขวางเรือ" ถ้าขวางเรืออาจคว่ำได้ -- ปีที่แล้ว ทุกคนมองตลาดว่า Bear Rally จึงกล้าๆกลัวๆ ผมก็คนนึงล่ะ ที่กลัว -- คือพอตลาดขึ้นผมหันเรือขวางทันที คือ "ขายทิ้งทั้ง Port"
--สรุป เรือคว่ำ ที่ขายไปคือ "ขายหมู" ตลาดวิ่งต่อไปอีก level เลย จากที่เทกระจาดหมูตอน SET 600 ต้นๆ ผมต้องกลับไปซื้ออีกทีตอน SET 700 เรียกได้ว่าผมคือ "แมลงเม่าขั้นเทพ"ดีๆนี่เอง
ปีนี้ตลาดวิ่งมาถึง ปากเหวให้ ตัดสินใจอีกแล้ว -- "ช่างโหดจริง" คือ ผมลองย้อนนึกว่าไอ้ที่ SET 600 ผมไม่เทขายกระจาดหมู นี่ เวลานี้ผมคงไม่ต้องมาเหนื่อยลุ้นรอบนี้อีกแล้ว
อาทิตย์นี้ผม จับตัวเลข เริ่มเห็นฝรั่งเริ่มขายทำกำไรบ้าง แต่พอสิ้นวันก็ยังเป็นซื้อสุทธิต่อ
-- ตอนนี้ถ้าให้เดาใจพวก สถาบัน กับ Broker ผมว่า พวกนี้เริ่มใจเสียแล้ว เพราะเริ่มเทกระจาดหมู ตั้งแต่ก่อนชุมนุมเสื้อแดง ตอนSET 690 ตอนนี้ยิ่ง สถาบันและ Broker เทกระจาดหมูเท่าใด ตลาดก็ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ตอนนี้จะแตะ SET 800 แล้ว (ถ้าให้ผมทาย อีกไม่นาน พวกสถาบัน กับ Broker ต้องกลับมาซื้อสุทธิ และกลับกัน ฝรั่งก็จะเริ่มทยอยทำกำไร) จากนั้น พอตลาดขึ้นไป 800 ปลายๆ ผมว่าฝรั่งน่าจะเทขายออกมาทำกำไรอย่างแน่นอน
-- คุณลองเดาซิครับว่า ตอนฝรั่งปล่อยหนักๆ แล้วใครจะเข้าไปรับ
"ถูกต้องแล้วครับ" พอตลาดวิ่งไป เกือบ 900 ฝรั่งก็จะเทขายอย่างหนัก ตลาดอาจตกรูดที่ 50 -60 จุด
-- จากนั้นครับ "แมลงเม่า" ก็รายย่อย นี่แหละ จะเข้าไปรับ
--ในใจหวังเพียงว่า เมื่อเขารับที่ SET800 ต้นๆ จะเป็นอะไรที่ถูกมาก ซึ่งเขาก็จะลุ้นต่อไปว่า เมื่อใดโชคดีฝรั่งก็จะมาเล่นต่อ (แต่ถ้า สถานการณ์พลิก เศรษฐกิจโลก เริ่มท่าทางไม่ดี กลายเป็นไอ้ที่หวังว่าฝรั่งจะมารับต่อ ก็ไม่เป็นเช่นนั้น
--- "สรุป "แมลงเม่า" ติดดอยตามเคย")
แต่ก็ไม่แน่ครับ ถ้าทุกตัวเลข ออกมาดี ฝรั่งก็จะกลับมารับจากรายย่อย แล้วก็จะปั่นขึ้นอีกรอบ เช่น เขารับมาที่ 800 เขาก็จะปั่นไปให้ถึง 1000 จุด แล้วค่อยปล่อยออกให้รายย่อยมารับที่ประมาณ 900 จุด (เฮ้อ.. เหนื่อยแทนรายย่อย ไหมครับ สรุปทุกๆรอบ คนที่เข้ามารับรายสุดท้าย (ในใจคิดว่าได้ของถูก) กลับกลายเป็นว่า ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนทาง "รายย่อย" ติดดอยทุกที
เมื่อเป็นเยี่ยงนี้แล้ว --"คุณจะเลือกเป็น ฝรั่ง หรือ รายย่อย ละครับ" -- คุณรู้ไหมมีนักลงทุนอีกกลุ่มที่เขาเรียกตัวเองว่า Value Investor เขาไม่ได้ บ้าตามทั้งฝรั่งและรายย่อย เขามอง "รายย่อยกับฝรั่ง" เป็น "ตาอินกับตานา" คือ เขาซื้อตั้งแต่หุ้นราคาถูกๆ แล้วปล่อยให้พวกบ้า(ทั้งฝรั่งและรายย่อย)" โยนกันไปโยนมา สรุป "ตาอยู่" กลับเป็นคนที่รวยที่สุด --- "อยากเป็นตาอยู่จังครับ!!!!
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
5 ข้อควรรู้ ‘การคิดเผื่อคนอื่น‘ ทำไมทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น 1. ’คน Gen ก่อน โดยรวมรวยกว่าคน Gen ใหม่ เพราะ เขาคิดสร้างใ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ตอนนี้แนวทางที่พิสูจน์ตัวเอง ได้สวยในระยะยาวก็เห็นจะเป็นแนว Value Investor (จริงๆแนวอื่นก็สวย แต่เผอิญนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก คือ Warren B...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...