วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553
ธุรกิจเปลี่ยนมือ จากพ่อสู่ลูก
ช่วงเวลานี้ผมว่า เริ่มเข้าสู่การ สืบทอดกิจการโดยเฉพาะ Family Business หลายธุรกิจในบ้านเราวันนี้เริ่มเปลี่ยนมือ ทำให้เราเห็น นักบริหารหนุ่มๆมากมาย แต่ประเด็นที่ผมสนใจวันนี้คือ คนเหล่านี้มีความพร้อมเพียงใด กับการสืบทอดกิจการของครอบครัว
ถ้าดูในส่วนแรกคือ คนเหล่านี้มักมีการศึกษาดี จบเมืองนอก แต่สิ่งที่อ่อนก็คือ ประสบการณ์ เพราะบ้านเราจริงๆ Know Who ยังมีน้ำหนักเหนือ Know How เห็นได้จากองค์กรใหญ่ของบ้านเรา มี Board รวมอายุได้ เป็นพันๆปี (คือ แก่ มัก มัก)ที่เขาต้องมีคนเหล่านี้อยู่ก็เพราะ Know Who นี่แหละ ไม่งั้นถ้า เท่งๆ ทำตรง ไปเหยียบโดนหางใคร มีหวังได้ปิดกิจการเอาดื้อๆ
ในเกมธุรกิจ ผมว่ามันตัดกันที่ประสบการณ์ บวก การตัดสินใจ ดังนั้น คนที่จบการศึกษาใหม่ๆ ต่อให้เป็น HBS - Harvard Business School เลย ก็ยังอ่อนในทั้งสองด้านที่กล่าวมา อย่างไรก็ตาม การเป็นสังคมอุปถัมภ์ของไทย ยังคงช่วยพยุงกิจการได้บ้าง เพราะการที่พ่อ มี เส้นใหญ่ ก็อาจช่วยผ่อนให้หนักเป็นเบา หรือ เบาเป็นไม่มีได้
--จุดนี้หลายคนมองว่าเป็น Double Standard หรือ การเลือกปฎิบัติ แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น เพราะทุกสรรพสิ่งที่เกิด ล้วนมีเหตุมีผลทั้งสิ้น -- กิจการที่ใหญ่โต ย่อมเป็นกิจการเล็กมาก่อน -- คนรวยที่สร้างตัวมาเอง ย่อมเป็นคนจนมาก่อน ซึ่งผมเรียกรวมประสบการณ์นี้ว่า "Real Life Experience"
ฟังดูเหมือน Reality Show แต่ไม่ใช่ มันคือ การเดินทางที่ยากลำบาก ซึ่งระหว่างเส้นทางที่ยากเข็น เราก็จะเก็บเกี่ยว เส้นสาย หรือ Connection ไปเรื่อย ๆและนี่คือ กลไก การสร้างตัวของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ดังนั้น การที่ลูกมาสืบต่อ กิจการพ่อแม่ ย่อมไม่ได้ผ่าน กลไกแห่งความยากเข็น และ เส้นสาย ดังที่ผมกล่าวมา ซึ่งถ่าดูให้ดี จะคล้ายกับ จักรพรรดิของจีน พอส่งบัลลังค์ให้ลูก ก็มักอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องสูญสิ้นไป คือ ถูกคนอื่นมาโค่น -- ฉันท์ใด ก็ฉันท์นั้น การสืบทอดธุรกิจต่อจาก พ่อแม่ ในสายตาผม จึงเป็นเรื่องที่ ยาก และโอกาสสำเร็จมีน้อย
ถ้าเอาประเด็นนี้มาวิเคราะห์กับหุ้นในตลาด ให้ระวัง ธุรกิจที่ Control โดย Family ใหญ่ๆ ที่ได้ส่งไม้ต่อ หรือ กำลังส่งไม้ต่อ ถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน คือ ถ้าลูกหลานไม่เก่งพอ ผมว่ากิจการนั้นๆ กำลังจะมีวิกฤต ซึ่งผมมองว่าเป็นโอกาสที่เกิดการ Turn around จากเจ้าของใหม่ หรือ มืออาชีพ
-- เมืองไทยในภาพรวมกำลังถึงจุดเปลี่ยนดังที่กล่าวมา แต่ด้วยสังคมขี้เกรงใจอย่างคนไทย ผมมองว่าบริษัท ส่วนใหญ่แม้มีปัญหา แต่คงไม่ถึงขั้นปิดตัวอย่างในอเมริกา แต่ที่เป็นไปได้สูงกว่า คือ การเปลี่ยนมือ เปลี่ยนเจ้าของ
-- และจุดนี้เองเป็นเกมของ โอกาสและการทำกำไรตอนนี้มีหลายกิจการใหญ่ที่ผมเริ่มเห็นผลลัพธ์ของการสั่นคลอนจากการเปลี่ยนมือ แต่สิ่งที่ต้องรอ คือ การสุกงอมของปัญหา ซึ่งในไม่ช้า โอกาส การลงทุนครั้งสำคัญของชีวิต ก็กำลังก้าวเข้ามาอีกไม่นาน เมื่อเวลานั้นมาถึง การล้มเป็น โดมิโน ของธุรกิจไทยจะเกิดขึ้น(อีกครั้ง) จะมีแต่คนที่มองการไกลเท่านั้น ที่สามารถฉกฉวยโอกาสทองที่จะมาถึงนี้ได้......
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
6 ข้อ ใสใส VI รุ่นใหม่ ควรต้องรู้ ขึ้นชื่อว่า ‘นักลงทุนคุณค่า’ ก็แปลว่า เราต้องข้ามผ่าน ’ราคา’(Price) แล้วพุ่งไปที่แก่นของมันคือ ‘มูลค่า’ (...
-
7 ข้อ ที่คนปกติเขาไม่ทำกันในตลาดหุ้น 1. ’หมกมุ่นอยู่ในจุดที่คนอื่นบอกไม่มีอนาคตแล้ว‘ …ตลาดหุ้นไทยไม่มีอนาคตแล้ว ไปตลาดอื่นเถอะ 2. ’ซื้อหุ้น...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ คุณ สุระ ผู้ก่อตั้ง Com7 เจ้าของ ร้านในเครือ Banana IT ..เดี๋ยวนะ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเชียร์หุ้น แต่จะมาเล่ามุ...
-
ในหนังสือ สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ ...มีอยู่บทนึงที่พูดถึง การหาตัวตนของเราให้เหมาะกับงาน ...ซึ่งก็คือ การรู้ว่า "จริตการทำงาน" ขอ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...