แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

คนชั้นกลาง กำลัง หดตัวลง --คุณจะปรับตัวอย่างไร ให้คุณไม่จนลง เหมือนคนอื่น


ทุกวันนี้มีการพูดกันอย่างมาก เกี่ยวกับการที่กลุ่มชนชั้นกลาง กำลังหดตัวลง ผมว่า Trend นี้เห็นได้ชัดๆ จากประเทศพัฒนาแล้ว เพราะการขยายตัวของประชากรลดลงเรื่อยๆ ทำให้กลายเป็น “สังคมคนแก่” ปัญหาคือคนแก่ไม่ทำงานทำให้การสร้างรายได้ไม่เกิด ก็ส่งผลให้ เกิดภาวะเงินฝืด

(แต่ถามจริงเถอะ คุณคิดว่า มันจะเป็นอย่างที่พูดกันจริงหรือ -- คือ สรุปว่า ถ้าคุณแก่ตัวลง คุณก็จะหยุดทำงาน นอนรายได้ลดอยู่กับ บ้าน วันๆนั่งดูเงินตัวเอง ลดลงเรื่อยๆ -- จริงหรือ) สำหรับผม ผมไม่คิดอย่างนั้น ผมคิดว่า การทำงานของคนจะเริ่ม Shift จากการทำงานที่เกษียณอายุที่ 60 กลายเป็นทำงานจนตาย (เพราะแต่่ก่อนที่กำหนดให้คนเกษียณที่ 60 เพราะอายุขัยของคนในขณะนั้น ไม่เกิน 70 แต่ถ้าตอนนี้การแพทย์ดี อยู่ได้ถึง 100 ผมว่าก็ควรจะเกษียณที่ 90 ปี ถึงจะไม่ก่อให้เกิดปัญหา เศรษฐกิจหดตัวอย่างที่ทุกคนคาด)

ส่วนแนวทางในการพัฒนาไปสู่การเกษียณที่นานขึ้น ต้องเริ่มจาก การสร้างงานในอุตสาหกรรมที่”คนแก่” ทำได้ดีกว่าคนหนุ่ม นักวิทยาศาสตร์แบ่งให้ คนเรามี 3 ช่วง
ช่วงแรก “วัยจำ” คือ การเรียน คนที่จำเก่งก็จะเรียนดี
พอถึงวัยรุ่น จะเริ่ม”วัยจินตนาการ” จะเห็นว่า คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานออกแบบ คนหนุ่มจะทำได้ดีกว่าคนแก่
พอมาถึงช่วงสุดท้าย คือ “วัย วิจารณญาณ” เป็นช่วงที่ประสบการณ์ต่างๆที่หล่อหลอมเป็นปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งส่งผลให้ คนแก่ ทำได้ ดีกว่า คนหนุ่ม เช่น การลงทุน

(คนที่ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมามากมาย ย่อมตัดสินใจในการลงทุนได้ดีกว่า คนหนุ่มที่ไม่มีประสบการณ์)
--ดังนั้น สำหรับผม ผมมองว่า อุตสาหกรรมการลงทุน และการเงิน(รวมถึง Consulting)เป็นสิ่งที่คนแก่ทำได้ดี ดังนั้น โอกาสที่อุตสาหกรรมเหล่านี้ จะรองรับ”คนแก่” ย่อมเป็นไปได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าแตกต่างจาก “ผู้ใช้แรงงาน” แน่นอน (พวกนี้ทำงานใช้สมองรายได้สูง)

จากมุมมองที่ผมกล่าวมา ผมเชื่อ เศรษฐกิจที่ตั้งอยู่บนฐานความรู้ จะขยายตัวอย่างมหาศาลโดยเฉพาะ การเงินและการลงทุน ถ้าพูดในทางอ้อม ที่หลายคนคาดว่า อีกหน่อยโลกเราจะพัฒนาสู่ภาวะเงินฝืด จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ สิ่งที่น่าจะเป็นมากกว่าคือ “เงินเฟ้อ” เพราะการขยายตัวของเศรษฐกิจความรู้ ตั้งอยู่บน “White Collar” ซึ่งก็คือ ชนชั้นกลางที่มีการศึกษาดี ดังนั้น ผมฟันธงได้ว่า “คนชั้นกลางกำลังขยายตัว ไม่ใช่หดตัว” ในประเทศพัฒนา ส่วนประเทศที่กำลังพัฒนาอย่าง จีน อินเดีย บลาซิล ก็ไม่ต้องสงสัย เพราะ ประเทศเหล่านี้มีการขยายตัวของ คนชั้นกลางอย่างมหาศาลเช่นกัน

คำถามที่เกิดขึ้น แล้วเราจะได้ประโยชน์อะไร จากการที่กลุ่มชนชั้นกลางจะขยายตัวอย่างมหาศาล --- ฮิ ฮิ ใช่แล้วครับ จะเกิดการบริโภคที่เยอะกว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา นั่นหมายถึงความมั่งคั่งโดยรวมของโลกที่ก้าวไปอีกระดับหนึ่ง (จากที่ปัจจุบัน หลายคนพูดกันว่า โลกเรามาถึงจุดสูงสุดแล้ว ต่อไปจะต่ำลง หุ้นจะมีแต่ลง

-- ผมว่าใครเชื่ออย่างนั้นก็ตามใจท่าน แต่ท่านจะจนลง เพราะท่านจะเอาเงินฝากธนาคารซึ่งโดน เงินเฝ้อ กินไปเรื่อยๆ น่าสงสารจริงๆ) สำหรับผม เศรษฐกิจโลกจะ พุ่งขึ้นอย่างมหาศาล อย่างที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้น การเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจย่อมให้ผลตอบแทนที่น่าทึ่งอย่างแน่นอน

-- ผมจะยกตัวอย่างบริษัท PTT ให้เห็น คือ เมื่อ 9 ปีก่อน เพิ่งเข้าตลาด ราคา BOOK อยู่ที่ประมาณ 20 บาทต่อหุ้น ส่วนราคาหุ้น IPO ที่ราคา 30 บาท ถ้าเทียบก็คือ ตอนนั้น ใครก็ว่าหุ้นไม่ถูก แต่ใครจะคาดคิดว่า ถ้าถือหุ้นไว้ 8 ปี ราคาจะขึ้นเป็น 440 บาท แถมปันผลต่อปีก็เกิน 5% ลองนึกซิครับว่า ถ้าปี 2001 คุณเอาเงินสัก 30 ล้านมาซื้อหุ้น PTT จากนั้น 8 ปี เงินคุณจะเพิ่มกว่า 500 บาท กลายเป็นโคตรรวยเลย ฮ่า ฮ่า

-- ถ้าถามว่าโอกาสอย่างนี้มีอีกไหม ผมเชื่อว่า มันยิ่งกว่านี้อีก ในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ประเด็นคือ คุณเลือกหุ้นถูกตัวหรือไม่ (ฮ่า ฮ่า ไม่ง่าย ถ้าง่าย มันรวยทุกคนแล้วครับ)

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ