วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
ทำอย่างไรจึงจะมีความรู้กว้าง และเก่งขึ้นเร็วๆ
ทำอย่างไรจึงจะมีความรู้กว้าง และเก่งขึ้นเร็วๆ ?
คำถามนี้ ต้องถามโดยคนรุ่นใหม่ ที่เกิดในยุค Information Age "ข้อมูลเกินความต้องการ" ..วันนี้เด็กรุ่นใหม่ไม่ดูจอทีวี ถึงดูทีวีก็ดูจออื่นที่ไม่ใช่ทีวี ...เด็กรุ่นใหม่ถนัดการ ตัดความสนใจต่อสิ่งรอบข้าง ...คนไทยไม่อ่านหนังสือ ...ลำพังหนังที่โหลดมาจากเน๊ต ใช้เวลาทั้งชีวิตยังดูไม่จบ ...แม่เจ้า !!! แล้วเราจะเอาเวลาที่ไหน ไปสร้างให้เราเก่งล่ะ ?
"คุณคิดเหมือนผมไหมว่า คนที่จะเก่ง มันต้องมีเวลาที่จะเอาไปพัฒนาความเก่ง แต่ปัญหาคือ วันนี้ไม่เหลือเวลาแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปพัฒนาความเก่งเล่า ?" ....ตอบได้ไหม
"ไม่มีไง ...แค่นั้นเอง" ...ยุคนี้ Information Overload ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจที่คนรุ่นใหม่ ขนาดสามารถ Multitask ได้หลายอย่างในเวลาเดียว ยังไม่มีเวลาเหลือเลย ดังนั้น คนยุคนี้เรียนรู้ได้จากสิ่งเฉพาะหน้าเท่านั้น"
ทางแก้ ให้มีเวลาคือ "จ่ายเงินให้กับสิ่งนั้น" ...ลองสังเกต เราได้จ่ายเงินให้กับงานอดิเรกใด เราจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นไปโดยปริยาย
ผู้หญิงจ่ายเงินให้กับความงาม และ ช๊อบปิ้ง จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นโดยที่แทบไม่ต้องเหนื่อยยาก
กลับมาเรื่องความรวยและความสำเร็จ ...ถ้าอยากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรวยและความสำเร็จ ลองจ่ายเงินให้กับเรื่องนี้ซิครับ ...หนังสือ และ สัมมนา และ Online -- คุณอาจจะมองว่า ผมพยายามขายหนังสือหรือสัมมนาผมหรือเปล่า ?
ใช่!! แต่ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ได้ คุณก็ได้ด้วย ...ผมเองพัฒนาตัวเองก้าวกระโดดจากคนล้มเหลวในชีวิตและธุรกิจเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็นเซียนหุ้น ที่ปรึกษาการลงทุน และ นักเขียน นักพูดระดับประเทศ ไม่ใช่เพราะผมอยู่เฉยๆ ก็โชคดี นั่งนโนแล้วจะเล่นหุ้นเป็น , นั่งนโนแล้วจะเขียนหนังสือได้ , นั่งนโนแล้วอยู่ๆ จะพูดต้อหน้าคนเยอะๆ ได้ , นั่งรอโอกาสแล้วบริษัทใหญ่จะมาจ้างเป็นผู้บริหาร ตลก ไม่มีหรอกถ้านั่งเฉยๆ รอแต่โอกาส ...แต่เป็นเพราะ ผมจ่ายทั้งชีวิต "จ่ายทั้งเงิน และจ่ายเวลา" ให้กับสิ่งที่ผมอยากเรียนรู้และอยากที่จะเป็น
คุณอยากเก่งเร็วๆ ...ลองจ่ายเงินและเวลา ให้กับสิ่งนั้น
..."ผมได้ คุณก็ได้ ..Give and Take ...ยุคนี้ ยิ่งให้ ก็ยิ่งได้ ...การแลกเปลี่ยน คือ ความสำเร็จ ..และสิ่งที่แพงที่สุดในยุคนี้คือ เวลา ...ถ้าคุณไม่กล้าจ่าย เงินและเวลาให้สิ่งที่คุณอยากเก่ง คุณจะเสียเวลาและเงินมากกว่านั้น ...จริงๆ"
...ไปซื้อหนังสือ ไปเข้าสัมมนา มันจะเปลี่ยนทั้งหมดของชีวิตคุณ ...ผมท้าให้คุณลอง อย่างมากก็เสียเงินไม่กี่บาท แต่อย่างน้อย มันอาจจะเปลี่ยนทั้งชีวิตของคุณ !!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
11 ตัวอย่าง หุ้นขึ้น 100 เด้ง ทำไมคนซื้อยังเจ๊งได้ ? 1. Nvidia …ขึ้น 4,470 เด้ง จากปี 2000 ถึงปัจจุบัน 25 ปี … แต่ถ้าซื้อผิดจังหวะ ก็โดนหนั...
-
ซื้อทองวันนี้อีก 10 ปีเราจะรวยขนาดไหน ? 1. ทองคำตั้งแต่ยกเลิกผูกกับค่าเงิน …ยกเลิก Bretton woods system ในปี 1971ตอนนั้น 1 troy ounce ราคา ...
-
ทำความเข้าใจทำไมไทยเรา เงินเฟ้อต่ำแต่ค่าครองชีพดันแพง ? 1. เงินเฟ้อรวมเราไม่สูง แต่ราคาอาหารสูงขึ้น …คนส่วนใหญ่จ่ายค่าอาหารเป็นสัดส่วนที่สู...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
7 ข้อคิด ของปัญหาที่นักลงทุนต้องผ่านให้ได้ 1. ‘ทุกปัญหามีอายุของมัน‘ …ปัญหาทุกอย่างมีอายุ มีเวลาของมัน …พอเวลาผ่านไป ปัญหาก็จะผ่านไปเช่นกัน...
-
หุ้นกลุ่มอสังหาไทย ยังลงทุนได้ไหม เห็นปันผลสูงมาก ? 1. ปันผล อสังหา ส่วนใหญ่สูงมาก หลายๆ ตัว 10% ขึ้น นั่นแปลว่า ถ้าเขาปันผลได้แบบนี้ เราซื...
-
ทำไมสินทรัพย์ที่ทำให้คนแต่ละ Gen ร่ำรวย ถึงไม่เหมือนกัน ..แล้วสินทรัพย์แห่งยุคตัวต่อไป คืออะไร ? 1. ‘ที่ดิน’ ทำให้ Gen Baby Boom รวย …ในยุค...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น