หลายคนอยากให้ผมขยายความที่ผมพูดว่า "อาชีพ" มันเป็นสิ่งที่หมดอายุ หรือ ล้าสมัย ..หมายความว่าอย่างไร -- ช่วยอธิบายหน่อย ?"
สิ่งที่เปลี่ยนไปในโลกยุคใหม่ คือ "การทำเงิน" ..ในสมัยก่อนการทำงาน ก็คือ การทำเงิน แต่สมัยนี้คนที่ทำเงินได้เก่ง กลับเป็นคนที่ไม่ได้ทำงาน
แต่เดี๋ยว "คนที่ไม่ได้ทำงาน" ที่ผมพูดถึง ไม่ใช่เขานอนอยู่เฉยๆแล้วเงินลอยมา ไม่ใช่!! ...แต่คนเหล่านี้ เขา "เล่นเป็นเงิน" ...คือ เขาเล่น เขาทำงานอดิเรก เขาทำสิ่งที่เขาชอบ และก็ได้เงินไปพร้อมกับทำสิ่งเหล่านี้ที่เขาชอบ -- นี่คือ นิยามของอาชีพในโลกยุคใหม่ "เล่นเป็นเงิน"
อย่างครูหยง เขาชอบเรื่องการเทรด ..เขาก็เริ่มจากฝึกเทรดสมัยยังทำงานประจำ จนเขาแน่ใจว่า เขาทำสิ่งนี้เป็นอาชีพได้ ก็ลาออกมาเพื่อมาเทรด โดยให้ชื่อกับอาชีพใหม่ที่ทำว่า Freedom Trader ...นี่ก็คือ "เล่นเป็นเงิน ...แต่ไม่ใช่เล่นๆ ...ครูหยง บอกว่า กรูเอาจริง ...เพียงแต่มันสนุก ซึ่งนี่แหละความแตกต่างระหว่างอาชีพปกติที่น่าเบื่อ กับ การค้นหาสิ่งที่เราอยากทำ แล้วหาทาง 'คิด วิเคราะห์ แยกแยก' มันคือ 'ค.ว.ย.' ให้หนักในการปั้นอาชีพในฝัน ...ไม่ง่าย แต่ทำได้ ..ได้ทุกอาชีพ ...ประเด็นอยู่ที่เอาจริงหรือเปล่า" ...คนส่วนใหญ่ไม่เอาจริง ท้อนุ่น ท้อนี่ อ้างนุ่น อ้างนี่ ...ก็ทนทำอาชีพของตัวเองต่อไป นั่นคือ ผลลัพธ์ไง !!
อย่างตัวผมเอง ผมก็เริ่มจากทำอาชีพทำงานธนาคาร ..แต่งานอดิเรกผมคือ "การเล่นหุ้น" ..ในเวลานั้น ผมโคตรเอาจริง อ่านหนังสือทุกเล่ม เข้าสัมมนาทุกอัน วิ่งไปหาอาจารย์ หาคนที่จะสามารถสอนผมได้ เรื่องหุ้น ...และผลลัพธ์ก็คือ "อาชีพใหม่ของผม ...อาจารย์ในห้องค้า ที่บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง เขาตั้งตำแหน่งใหม่ให้ผม เป็นอาจารย์ในห้องค้า ซึ่งไม่มีมาก่อน ...ก่อนหน้านี้ไม่มีครับ ...ดังนั้น ไม่มีกำหนดว่าต้องเงินเดือนน้อย ...อันนี้เงินเดือนเยอะได้ ...ไม่ต้องมีกำหนดว่า เวลาทำงานคืออะไร ..เพราะ มันวัดที่ผลของงาน ซึ่งก็คือ เปลี่ยนให้ลูกค้าลงทุนแล้วไม่เจ๊ง ...ซึ่งผมมานั่งคิดว่า โคตรดี ...อาชีพที่นั่งอยู่ฝั่งเดียวกับลูกค้า ...ผมรุ่งแน่ -- เอาครับ ผมทำ !! ...และนี่คือ จุดกำเนิดของอาชีพใหม่ อาจารย์ในห้องค้า ภาววิทย์ กลิ่นประทุม"
ผมว่า เรื่องราวของ ผม และ ครูหยง เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ในยุคนี้ ..ยุคที่ "อาชีพ" มันต้องออกแบบเอง เพราะ ถ้าให้คนอื่นของแบบมันจะเป็นอาชีพโหลๆ ที่เงินเดือนต่ำ น่าเบื่อ อนาคตไม่มี คู่แข่งเยอะ เพราะ มันคือ ตลาดของคนทำงานแบบขอไปที เช้าชามเย็นชาม ...แค่คิดก็ดีใจ ที่ผมและหยง ผ่านจุดนั้นมาได้ แล้วมาออกแบบอาชีพของตัวเอง
ไม่ง่าย!! แต่ทำได้ ...ได้ทุกอาชีพ ...ไปนั่งคิดซิครับ ...เริ่มวางแผน ...หาก่อน ชอบอะไร และ จะเปลี่ยนอะไร เป็นเงิน ...ว่างๆ ผมจะมาเล่า วิธีการทำ อาชีพในวันนี้ ....แต่วันนี้ว่างๆ ไปร้าน SE-ED หยิบ หนังสือ สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ มาอ่าน ...นี่คือ คำภีร์การปั้นอาชีพในฝันแบบโคตร Basic ...เอาไปอ่านก่อน แล้วผมจะมาเล่า Step ต่อไป
....เอาจริงรึเปล่าคุณน่ะ ?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
5 ข้อควรรู้ ‘การคิดเผื่อคนอื่น‘ ทำไมทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น 1. ’คน Gen ก่อน โดยรวมรวยกว่าคน Gen ใหม่ เพราะ เขาคิดสร้างใ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ตอนนี้แนวทางที่พิสูจน์ตัวเอง ได้สวยในระยะยาวก็เห็นจะเป็นแนว Value Investor (จริงๆแนวอื่นก็สวย แต่เผอิญนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก คือ Warren B...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น