วันนี้ขอโพสเบาๆ หลังผ่านกระแส นะครับ
(ซึมไปหนึ่งวัน อิ อิ ..ผมอ่าน Comment นึงก็เข้าใจเลยว่า บางคนเขาไม่ได้อ่านสิ่งที่ผมถ่ายทอดเพื่อเอาประโยชน์ แต่เขาอ่านเพื่อจับผิด ..อันนั้นก็เกินความควบคุมน่ะครับ -- ยังไงผมก็ยังเสนอจุดยืนของผมตรงๆแบบนี้นะ ใครไม่ชอบผม อย่ามา Follow เพื่อจับผิดผมเลย ..การที่ผมวางตัวถ่ายทอดความรู้และมุมมองในโลกที่เปลี่ยนแปลง ย่อมมีหลายๆ คนที่เสียประโยชน์ ก็ว่ากันไปครับ)...555
สิ่งที่เปลี่ยนไปในวันนี้ ผมเชื่อว่า โลกเรากำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า "สินค้าบางอย่างที่เคย ขายได้ดี วันนี้อาจจะขายไม่ได้" , "สื่อเดิม ที่เคยมีอำนาจในการตัดสินใจ กลับกลายเป็นวันนี้แทบไม่มีอำนาจ" , "สื่อใหม่อย่าง Social Media มีพลังจริง แถมฟรีอีกต่างหาก แต่ปัญหาคือ ไม่สามารถควบคุมได้เลย" ..ทั้งหมดที่ว่ามา มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
หนังสือในช่วงที่ผ่านมาของผม ล้วนแล้วแต่เป็นการใช้ตัวผมเองนี่แหละ เป็นหนูทดลองในเรื่องราวใหม่ๆ ...แล้วลองผิดลองถูก จากนั้นก็ถ่ายทอดบทเรียนผ่าน Facebook และ ก็รวมเล่มเป็นหนังสือ หลายๆ เล่มใน SE-ED ...
ผมรวมเป็นแนวคิดสั้นๆ เบาๆ วันนี้ 5 เรื่องครับ
1. ยุคนี้เส้นแบ่งระหว่างลูกจ้าง กับ นายจ้าง ไม่ชัดแล้ว ..เพราะ ลูกจ้างยุคนี้สามารถเริ่มธุรกิจส่วนตัว ที่สามารถทำหลังจากเวลางาน เป็นแนว Part-time Passion เหมือนอย่างที่ผมทำ ..ผมทำ ธุรกิจหนังสือ และ การสัมมนา นอกเวลางาน , ผมทำ Start-Up ธุรกิจเล็กๆ เกี่ยวกับ Robot ...ผมพบเลยว่า ใครเข้าใจแก่นของยุค Information Age คุณสามารถ 'เริ่มธุรกิจ ใช้เงินนิดเดียว แต่โอกาสมหาศาล' ...ใช่ ธุรกิจ Start-up ใช้เงินทุนต่ำกว่าเปิดร้านกาแฟเสียอีก แต่โอกาสทำเงินมหาศาล ...อันนี้เป็นหนึ่งในองค์ความรู้ที่ผมอยากนำเสนอคนรุ่นใหม่เรื่องที่หนึ่ง "คือ คุณรวยได้ ไม่ต้องเริ่มที่เงินนั่นแหละ"
2. การสร้าง Connection หรือ เส้นสายในยุคใหม่ ไม่ได้แบ่งด้วยตระกูล แบบยุคก่อน ...เดี๋ยวนี้สังเกตไหมครับ เรามีสังคมต่างๆ เช่น สังคมนักลงทุน , สังคมของคนที่สนใจเรื่องต่างๆ ...พวกนี้คือ Connection ชั้นดี ของคนที่สนใจเรื่องต่างๆ มารวมตัวกันด้วย "งานอดิเรกที่รัก" ..จากนั้น คนเหล่านี้แหละที่เปลี่ยน งานอดิเรกให้ทำเงิน ...อย่างเล่นหุ้นนี่ ผมเป็นหนึ่งใน Founder ของชุมชน Stock2morrow ร่วมกับ คุณป้อม ปิยพันธ์ ...มันเริ่มจากคนไม่กี่คนที่รักการลงทุน จนกลายมาเป็นสังคมนักลงทุนรายย่อย ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ซึ่งวันนี้ขยายไปสู่การพัฒนาตัวเองด้านต่างๆ ...ยุคนี้ไม่มีชนชั้นที่แบ่งจากตระกูล แต่มันแบ่งจากความชอบ หรือ Passion ต่างหาก ...ผมว่า คนสุดยอดของแต่ละอุตสาหกรรมในยุคต่อไป ก็เริ่มจาก Passion นี่แหละครับ ...อันนี้เป็นเรื่องที่สองที่ผมนำเสนอ คือ "หาเพื่อน" หาคนเดินด้วย ที่มี Passion คล้ายๆ คุณ คนเหล่านี้แหละคือ เพื่อนร่วมเดินทางสู่ฝันของคุณ
3. ยุคนี้ชีวิตเปลี่ยนเมื่อเปลี่ยนความคิด ...ผมได้มีโอกาสรู้จักกับ ดร.ต้อง ผู้เชี่ยวชาญด้านศักยภาพมนุษย์ ...สิ่งที่น่าสนใจคือ เราทุกคนล้วนวิ่งมาเจอปัญหาหรือทางตันในชีวิต ไปต่อไม่ได้ ..ดร.ต้อง ทำให้ผมรู้ว่า การข้ามความกลัวตรงนั้น มันคือ การ Change Mindset ..ภาษาวิชาการเรียกว่าการ Re-define ..พูดแล้วเหมือน ตลก แต่อันนี้ของจริง คือ คนที่ Re-define ตัวเองได้ ชีวิตจะพุ่งขึ้น 10 เท่า ...ถ้าดูจากเงินในกระเป๋า ก็คือ จะรวยขึ้นได้ 10 เท่า ทุกครั้งที่ยอมเปลี่ยน "ชุดความคิด" ...อันนี้เป็นหนึ่งในองค์ความรู้ ที่ผมเขียนหนังสือ ร่วมกับ ดร.ต้อง ..วันนี้มาถึงเล่มที่ 3 "สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ" ..คนเราเปลี่ยนง่ายนิดเดียว Change Mindset ..จากนั้นที่เล่นหุ้นเจ๊งจะพลิกเป็นกำไร ..ผมทำเห็นผลกับคนหลายๆ คนจริง มันน่ามหัศจรรย์มาก
4. "คนเราไม่มี Limit หรอกครับ" อันนี้ผมร่วมเดินทางกับ หยง ...ผมกับหยงรู้จักกันเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตัวผมยังไม่มีอะไร ..ตัวหยงก็เทรดหุ้นเจ๊งอย่างหนัก ...เรามาเจอกัน เหมือนคนที่มันโดนกัน คือ "กรูกับมึงเจ๊งเหมือนกันเลย" ..ผมเลือกเดินสาย ลงทุนระยะยาว ส่วนหยงเลือกเดินสายเทรดเดอร์มืออาชีพ ..เราร่วมกันเขียนหนังสือ Freedom Trader ..จากวันนั้นถึงวันนี้ Port ส่วนตัวของพวกเราโตเป็นสิบเท่า จริงๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น เพราะหลายๆคนในตลาดมีเก่งกว่าพวกเราเยอะ ...แต่พวกเรามี Passion อย่างนึง ระหว่างผมและหยงที่ตรงกัน คือ "เราชอบสอนคน เราชอบเป็นอาจารย์" ...วันนี้ผมกับหยงกำลังจะออกหนังสือ Freedom 2 ซึ่งมันเป็นการฟันธงตลาดหุ้นแบบโคตรตรง เพราะพวกผมไม่เชื่อฝรั่ง ไม่เชื่อใคร ..องค์ความรู้ที่เรามี เราเรียนตรง ล้มลุกจากเลือด แผลเต็มหลัง ดังนั้น นี่คือ ความเชื่อของพวกผม ซึ่งไม่ได้บังคับให้ใครเชื่อตาม ดีก็รับไป ไม่ดีก็ทิ้งไว้ตรงนี้ ...อันนี้เป็นองค์ความรู้เรื่องที่สี่ ผมและหยงเชื่อว่า เราทุกคนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่เราไม่หยุดเรียนรู้ และ ถ่ายทอดในเวลาเดียวกัน -- พูดแล้วแมร่งดูหล่อ แต่ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ ผมและหยงจะไม่หยุดเรียนรู้และสอนคนในเรื่องการลงทุน
5. "การได้ร่วมงานกับผู้ใหญ่ ที่เชื่อมั่นในตัวเรา มันโคตรดีบอกเลย" ..ตัวผมไม่เคยมองตัวเองเป็นลูกจ้าง เพราะผมทำงานไม่ใช่เพราะต้องทำ แต่ทำเพราะผมอยากทำ "กรูรวยอยู่แล้ว แต่ 'งาน' มันคือ การอธิบายตัวตนของผม และ ผมจะไม่เคยหยุดอธิบายตัวตนผ่านสิ่งที่ผมทำ (เงินน่ะเอา ไม่ใช่ไม่เอา ..55 -- แต่งานที่ใช่ ผมว่าสำคัญกว่าครับ)" ...ที่หลักทรัพย์บัวหลวง ผมได้เจอผู้บริหารรุ่นใหม่ที่โคตร Open พูดชื่อ ก็ไม่น่ามีปัญหานะ เสี่ยโบ๊ และ ป๋าเนส ..ที่แห่งนี้ผมได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ผมไม่คิดว่าองค์กรอย่างนี้จะกล้าทำ ...โคตรมันส์ -- คุณลองดูนวัตกรรมต่างๆ ที่บัวหลวงออกมาบริการลูกค้าซิ ตั้งแต่เอา Robot มาบริหารเงินให้ลูกค้า , ให้รายย่อยใช้ Robot เองอย่าง iAlgo หรือ เครื่องวัดฝีมือเล่นหุ้นอย่าง iTracker ที่เอามาวิเคราะห์และเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุน เหมือนมีหมอมาวิจัยว่า คุณต้องปรับปรุงอะไร , ไหนจะโครงการ Stock Master ที่สอนลูกค้าเล่นหุ้นใช้เงินจริง (ในวันที่เราเริ่ม บอกเลย โคตรบ้า..ใครกล้าทำ?) ..องค์ความรู้ที่ห้านี้คือ ผมว่าเราต้องเปิดใจ ..บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็เป็นไปได้ ..ผมว่า แค่เรากล้า ชนะความกลัว เราก็เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ได้แล้วครับ
ก็ 5 ข้อ จุดยืน ...ซึ่งผมจะเดินต่อไป ...จะทำ Passion นี้ ให้มันยิ่งใหญ่ ...เพราะ ผมไม่เคยหยุดเดิน !!
กรูสู้ ...กรูบอกเลย ..555
(ซึมไปหนึ่งวัน อิ อิ ..ผมอ่าน Comment นึงก็เข้าใจเลยว่า บางคนเขาไม่ได้อ่านสิ่งที่ผมถ่ายทอดเพื่อเอาประโยชน์ แต่เขาอ่านเพื่อจับผิด ..อันนั้นก็เกินความควบคุมน่ะครับ -- ยังไงผมก็ยังเสนอจุดยืนของผมตรงๆแบบนี้นะ ใครไม่ชอบผม อย่ามา Follow เพื่อจับผิดผมเลย ..การที่ผมวางตัวถ่ายทอดความรู้และมุมมองในโลกที่เปลี่ยนแปลง ย่อมมีหลายๆ คนที่เสียประโยชน์ ก็ว่ากันไปครับ)...555
สิ่งที่เปลี่ยนไปในวันนี้ ผมเชื่อว่า โลกเรากำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า "สินค้าบางอย่างที่เคย ขายได้ดี วันนี้อาจจะขายไม่ได้" , "สื่อเดิม ที่เคยมีอำนาจในการตัดสินใจ กลับกลายเป็นวันนี้แทบไม่มีอำนาจ" , "สื่อใหม่อย่าง Social Media มีพลังจริง แถมฟรีอีกต่างหาก แต่ปัญหาคือ ไม่สามารถควบคุมได้เลย" ..ทั้งหมดที่ว่ามา มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
หนังสือในช่วงที่ผ่านมาของผม ล้วนแล้วแต่เป็นการใช้ตัวผมเองนี่แหละ เป็นหนูทดลองในเรื่องราวใหม่ๆ ...แล้วลองผิดลองถูก จากนั้นก็ถ่ายทอดบทเรียนผ่าน Facebook และ ก็รวมเล่มเป็นหนังสือ หลายๆ เล่มใน SE-ED ...
ผมรวมเป็นแนวคิดสั้นๆ เบาๆ วันนี้ 5 เรื่องครับ
1. ยุคนี้เส้นแบ่งระหว่างลูกจ้าง กับ นายจ้าง ไม่ชัดแล้ว ..เพราะ ลูกจ้างยุคนี้สามารถเริ่มธุรกิจส่วนตัว ที่สามารถทำหลังจากเวลางาน เป็นแนว Part-time Passion เหมือนอย่างที่ผมทำ ..ผมทำ ธุรกิจหนังสือ และ การสัมมนา นอกเวลางาน , ผมทำ Start-Up ธุรกิจเล็กๆ เกี่ยวกับ Robot ...ผมพบเลยว่า ใครเข้าใจแก่นของยุค Information Age คุณสามารถ 'เริ่มธุรกิจ ใช้เงินนิดเดียว แต่โอกาสมหาศาล' ...ใช่ ธุรกิจ Start-up ใช้เงินทุนต่ำกว่าเปิดร้านกาแฟเสียอีก แต่โอกาสทำเงินมหาศาล ...อันนี้เป็นหนึ่งในองค์ความรู้ที่ผมอยากนำเสนอคนรุ่นใหม่เรื่องที่หนึ่ง "คือ คุณรวยได้ ไม่ต้องเริ่มที่เงินนั่นแหละ"
2. การสร้าง Connection หรือ เส้นสายในยุคใหม่ ไม่ได้แบ่งด้วยตระกูล แบบยุคก่อน ...เดี๋ยวนี้สังเกตไหมครับ เรามีสังคมต่างๆ เช่น สังคมนักลงทุน , สังคมของคนที่สนใจเรื่องต่างๆ ...พวกนี้คือ Connection ชั้นดี ของคนที่สนใจเรื่องต่างๆ มารวมตัวกันด้วย "งานอดิเรกที่รัก" ..จากนั้น คนเหล่านี้แหละที่เปลี่ยน งานอดิเรกให้ทำเงิน ...อย่างเล่นหุ้นนี่ ผมเป็นหนึ่งใน Founder ของชุมชน Stock2morrow ร่วมกับ คุณป้อม ปิยพันธ์ ...มันเริ่มจากคนไม่กี่คนที่รักการลงทุน จนกลายมาเป็นสังคมนักลงทุนรายย่อย ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ซึ่งวันนี้ขยายไปสู่การพัฒนาตัวเองด้านต่างๆ ...ยุคนี้ไม่มีชนชั้นที่แบ่งจากตระกูล แต่มันแบ่งจากความชอบ หรือ Passion ต่างหาก ...ผมว่า คนสุดยอดของแต่ละอุตสาหกรรมในยุคต่อไป ก็เริ่มจาก Passion นี่แหละครับ ...อันนี้เป็นเรื่องที่สองที่ผมนำเสนอ คือ "หาเพื่อน" หาคนเดินด้วย ที่มี Passion คล้ายๆ คุณ คนเหล่านี้แหละคือ เพื่อนร่วมเดินทางสู่ฝันของคุณ
3. ยุคนี้ชีวิตเปลี่ยนเมื่อเปลี่ยนความคิด ...ผมได้มีโอกาสรู้จักกับ ดร.ต้อง ผู้เชี่ยวชาญด้านศักยภาพมนุษย์ ...สิ่งที่น่าสนใจคือ เราทุกคนล้วนวิ่งมาเจอปัญหาหรือทางตันในชีวิต ไปต่อไม่ได้ ..ดร.ต้อง ทำให้ผมรู้ว่า การข้ามความกลัวตรงนั้น มันคือ การ Change Mindset ..ภาษาวิชาการเรียกว่าการ Re-define ..พูดแล้วเหมือน ตลก แต่อันนี้ของจริง คือ คนที่ Re-define ตัวเองได้ ชีวิตจะพุ่งขึ้น 10 เท่า ...ถ้าดูจากเงินในกระเป๋า ก็คือ จะรวยขึ้นได้ 10 เท่า ทุกครั้งที่ยอมเปลี่ยน "ชุดความคิด" ...อันนี้เป็นหนึ่งในองค์ความรู้ ที่ผมเขียนหนังสือ ร่วมกับ ดร.ต้อง ..วันนี้มาถึงเล่มที่ 3 "สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ" ..คนเราเปลี่ยนง่ายนิดเดียว Change Mindset ..จากนั้นที่เล่นหุ้นเจ๊งจะพลิกเป็นกำไร ..ผมทำเห็นผลกับคนหลายๆ คนจริง มันน่ามหัศจรรย์มาก
4. "คนเราไม่มี Limit หรอกครับ" อันนี้ผมร่วมเดินทางกับ หยง ...ผมกับหยงรู้จักกันเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตัวผมยังไม่มีอะไร ..ตัวหยงก็เทรดหุ้นเจ๊งอย่างหนัก ...เรามาเจอกัน เหมือนคนที่มันโดนกัน คือ "กรูกับมึงเจ๊งเหมือนกันเลย" ..ผมเลือกเดินสาย ลงทุนระยะยาว ส่วนหยงเลือกเดินสายเทรดเดอร์มืออาชีพ ..เราร่วมกันเขียนหนังสือ Freedom Trader ..จากวันนั้นถึงวันนี้ Port ส่วนตัวของพวกเราโตเป็นสิบเท่า จริงๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น เพราะหลายๆคนในตลาดมีเก่งกว่าพวกเราเยอะ ...แต่พวกเรามี Passion อย่างนึง ระหว่างผมและหยงที่ตรงกัน คือ "เราชอบสอนคน เราชอบเป็นอาจารย์" ...วันนี้ผมกับหยงกำลังจะออกหนังสือ Freedom 2 ซึ่งมันเป็นการฟันธงตลาดหุ้นแบบโคตรตรง เพราะพวกผมไม่เชื่อฝรั่ง ไม่เชื่อใคร ..องค์ความรู้ที่เรามี เราเรียนตรง ล้มลุกจากเลือด แผลเต็มหลัง ดังนั้น นี่คือ ความเชื่อของพวกผม ซึ่งไม่ได้บังคับให้ใครเชื่อตาม ดีก็รับไป ไม่ดีก็ทิ้งไว้ตรงนี้ ...อันนี้เป็นองค์ความรู้เรื่องที่สี่ ผมและหยงเชื่อว่า เราทุกคนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่เราไม่หยุดเรียนรู้ และ ถ่ายทอดในเวลาเดียวกัน -- พูดแล้วแมร่งดูหล่อ แต่ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ ผมและหยงจะไม่หยุดเรียนรู้และสอนคนในเรื่องการลงทุน
5. "การได้ร่วมงานกับผู้ใหญ่ ที่เชื่อมั่นในตัวเรา มันโคตรดีบอกเลย" ..ตัวผมไม่เคยมองตัวเองเป็นลูกจ้าง เพราะผมทำงานไม่ใช่เพราะต้องทำ แต่ทำเพราะผมอยากทำ "กรูรวยอยู่แล้ว แต่ 'งาน' มันคือ การอธิบายตัวตนของผม และ ผมจะไม่เคยหยุดอธิบายตัวตนผ่านสิ่งที่ผมทำ (เงินน่ะเอา ไม่ใช่ไม่เอา ..55 -- แต่งานที่ใช่ ผมว่าสำคัญกว่าครับ)" ...ที่หลักทรัพย์บัวหลวง ผมได้เจอผู้บริหารรุ่นใหม่ที่โคตร Open พูดชื่อ ก็ไม่น่ามีปัญหานะ เสี่ยโบ๊ และ ป๋าเนส ..ที่แห่งนี้ผมได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ผมไม่คิดว่าองค์กรอย่างนี้จะกล้าทำ ...โคตรมันส์ -- คุณลองดูนวัตกรรมต่างๆ ที่บัวหลวงออกมาบริการลูกค้าซิ ตั้งแต่เอา Robot มาบริหารเงินให้ลูกค้า , ให้รายย่อยใช้ Robot เองอย่าง iAlgo หรือ เครื่องวัดฝีมือเล่นหุ้นอย่าง iTracker ที่เอามาวิเคราะห์และเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุน เหมือนมีหมอมาวิจัยว่า คุณต้องปรับปรุงอะไร , ไหนจะโครงการ Stock Master ที่สอนลูกค้าเล่นหุ้นใช้เงินจริง (ในวันที่เราเริ่ม บอกเลย โคตรบ้า..ใครกล้าทำ?) ..องค์ความรู้ที่ห้านี้คือ ผมว่าเราต้องเปิดใจ ..บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็เป็นไปได้ ..ผมว่า แค่เรากล้า ชนะความกลัว เราก็เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ได้แล้วครับ
ก็ 5 ข้อ จุดยืน ...ซึ่งผมจะเดินต่อไป ...จะทำ Passion นี้ ให้มันยิ่งใหญ่ ...เพราะ ผมไม่เคยหยุดเดิน !!
กรูสู้ ...กรูบอกเลย ..555
มีหนังสือคุณภาววิทย์เกือบทุกเล่มครับ 5555
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบผมสนับสนุนความคิดคุณครับ คุณตัวจริง
ตอบลบ