วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
เริ่มทำงาน ยิ่งเด็ก ยิ่งดี
เริ่มทำงาน ยิ่งเด็ก ยิ่งดี ...อันนี้จริง !! ...คุณไปดูเลย เศรษฐี หรือ เจ้าสัว คนเหล่านี้ต้องทำงานตั้งแต่ยังเด็กทั้งนั้น ...ดังนั้น ในอดีตใครเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบ
ลองมาดูยุคนี้บ้างว่า ต่างกันอย่างไร ?
"ไม่ต่างครับ..เหมือนเดิม" ...เพราะ อะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่า โลกนี้ไม่มีใครเก่งมาแต่เกิด ...เวลาชีวิตก็มีเท่าๆกัน ..ดังนั้น การที่คนนึงจะแตกต่าง กับ อีกคน อย่างมากมาย ก็แปลว่า คนๆนั้น ต้องฝึกมาแตกต่าง ...ใช้เวลาทุ่มไปในเรื่องที่แตกต่าง จริงไหม ?
ผมเคยตั้งคำถามเสมอว่า "การเรียนในระบบ ให้อะไร" คำตอบที่ได้ ก็คือ ให้ความรู้ที่ทุกคนควรรู้ ...คำถามคือ สิ่งที่ทุกคนรู้จะทำให้เราแตกต่างได้อย่างไร ...ผมก็เคยคิดว่า ถ้าอย่างนี้ไม่เรียนคือ คำตอบใช่หรือไม่ ? ..ก็ไม่ใช่ ...เพราะ ถ้าไม่เรียนนี่กลายเป็นโง่ไปเลย ...555
ประเด็นมันอยู่ที่ "เป้าหมาย" ..คนเก่ง มัก จะมุ่งไปหมายไปที่ การได้ "ความรู้" แต่คนส่วนใหญ่จะมุ่งที่ "เกรดและใบปริญญา" ...อันนี้แหละ ที่ทำให้คนทั้งสองแตกต่างกันมาก
ในโรงเรียน เขาสอนให้เราได้รู้สิ่งเบื้องต้นที่จำเป็น แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด เพราะ บางอย่างก็ไม่จำเป็น และ การทดสอบ ก็ทำให้เราหลงประเด็น ..การสอบวัดความจำ เราจึงคิดว่า โลกจริงๆ ตัดสินคนจากความจำ ...ผลก็คือ "พัฒนา Skill ผิดจุด"
ลองสังเกตเด็กเก่ง เอาทั้ง Steve Jobs , Bill Gates และ Mark Zuckerberg ทุกคนเรียนหนังสือหมด แต่สังเกตให้ดีว่า เขาไม่ได้สนใบปริญญา เขาเรียนเอาแต่ความรู้ ...พอโอกาสมาปั๊บ ก็วิ่งเข้าใส่เลย ...แต่นั่นเป็น Case สุดโต่ง ดังนั้น สิ่งทีทุกคนควรเอาเป็นแบบอย่างคือ "สนใจที่ความรู้" แต่ต้องเรียนให้จบเพื่อมีใบปริญญา แต่ไม่ต้องไปสนใจเกรดมากมาย ...ให้ใช้เวลาที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หาโอกาสให้มากที่สุด
โอกาสในที่นี้ ก็คือ "ทำงานให้เร็ว ...ยิ่งเริ่มเด็ก ยิ่งดี" ...เพราะ เด็กมีจินตนาการ มีความคิดนอกกรอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจในยุคนี้ขาดอย่างมาก ...ขืนรอให้จบปริญญาแล้วค่อยเริ่ม มันช้าไป เพราะ เวลานั้น คุณหมดจินตนาการแล้ว
ผมยังคิดสนุกๆ ว่า "ทำไมเด็ก ไม่วัดผลการเรียน จากการทำธุรกิจจริงๆ ล่ะ ...ทำไมไม่วัดผลที่ผลลัพธ์จริงๆของโลก ...ทำไมไปวัดกันที่ข้อสอบ ...ถ้าเด็กคิด Website แล้วกลายเป็น Google ไม่ดีกว่าหรือ ? ...ผมว่ายุคนี้ผู้ปกครองต้องคิดใหม่ ...เราต้องยอมรับว่า เรามีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่เท่าเด็กๆ ...เราต่างหาก ต้องถามเขาว่า โลกต่อไปจะเป็นอย่างไร ...ธุรกิจในอนาคต อะไรจะมา"
ใช่!! "เด็ก" คือ คนที่กำหนด Trend ของโลกอนาคต ..แทนที่จะเอาเขามาล้างสมองให้คิดและทำเหมือนๆ กัน เราต้อง ถามเขาต่างหากว่า ..."ต่อไปธุรกิจต้องคิดและทำอย่างไร ?"
ฝึกให้ทำงานตั้งแต่เด็ก เขาจะเห็นในสิ่งที่เราไม่เห็น ...เรียนไป ทำงานไป ..ไม่ผิดครับ ...ดีด้วย ..."อยากให้ลูกเก่ง ลองให้เขามาช่วยคิดงานให้เราซิ ...ใช้เด็ก ไม่ใช้ไปใช้แรงงานเด็ก แต่ที่ต้องใช้คือ สมองเด็ก ...เพราะ สมองเขาคิดนอกกรอบเก่งกว่าเรา"
ส่งเสริม พัฒนาให้ถูกจุด แล้ว เด็กรุ่นใหม่จะได้เก่งกว่าพวกเราครับ !!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
5 ข้อควรรู้ ‘การคิดเผื่อคนอื่น‘ ทำไมทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น 1. ’คน Gen ก่อน โดยรวมรวยกว่าคน Gen ใหม่ เพราะ เขาคิดสร้างใ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ตอนนี้แนวทางที่พิสูจน์ตัวเอง ได้สวยในระยะยาวก็เห็นจะเป็นแนว Value Investor (จริงๆแนวอื่นก็สวย แต่เผอิญนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก คือ Warren B...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น