วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
"ความดัง" มีประโยชน์และให้โทษอย่างไรในปัจจุบัน
"ความดัง" มีประโยชน์และให้โทษอย่างไรในปัจจุบัน ?
ผมว่า หลายๆคน พยายามหาคำตอบตรงนี้ ว่า ประโยชน์ได้อะไร และ โทษคืออะไร
"ผมเองผ่านมาทั้งช่วงที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีใครรู้จัก และ ก็มาถึงปัจจุบัน ที่มีชื่อเสียงและมีหลายๆคนรู้จัก ...มันต่างกันอย่างไร"
ใช่!! ทุกคนเกิดมาตอนเริ่มแรก ก็ย่อมไม่มีชื่อเสียง ...ซึ่งสมัยก่อน การทำงานมันไม่ต้องอาศัยชื่อเสียงก็ได้ อาศัยแค่เรียนสูงๆ ทำงานหนักๆ เพราะ คนส่วนใหญ่ไม่ได้พยายามมากมาย สมัยก่อน จะสำเร็จจึงอยู่ที่ความพยายาม !!
แต่เดี๋ยวนี้ทุกคนพัฒนาตัวเองเก่งขึ้น ก็แปลว่า คู่แข่งในการทำงาน ทำธุรกิจของคุณเก่งขึ้นตาม ..ไม่แปลกที่ยุคนี้ เก่งอย่างเดียวไม่พอแล้ว ...หรือ เรียนมหาวิทยาลัยดัง ก็ไม่พอเช่นกัน
วันนี้คนที่เป็นที่ต้องการ ในธุรกิจ ก็คือ คนที่มีลูกค้า !!
ฟังดีๆนะครับ "คนที่ได้เปรียบในปัจจุบัน ก็คือ คนที่มีลูกค้าในมือ!!"
คุณทราบไหมว่า บริษัทใหญ่ยอมจ่ายเงิน จ้างผมเงินเดือนแพงๆ ..ไม่ใช่เพราะผมเก่ง , นามสกุลดัง หรือ จบอะไรมา แต่เขาจ้างเพราะผมมีลูกค้าอยู่ในมือ -- นี่แหละ ที่เขาจ้าง เพราะ เขาต้องการลูกค้าในมือผมนั่นเอง ...จะเห็นว่า บริษัทสมัยนี้ ไม่ได้โง่อีกต่อไป ที่จ้างคนเพราะ เรียนสูง หรือ Profile ดี โดยไม่รู้เลยว่า คนเก่งคนนั้น จะสามารถหาลูกค้าสร้างเงินให้ธุรกิจได้หรือไม่ ต้องจ้างแล้วลุ้น ...โคตรเสี่ยงเลย !!
แต่อย่างจ้างผม ซึ่งมีฐานลูกค้านักลงทุนในมือ ...กลับเป็นเรื่องที่เสี่ยงน้อยกว่า ...
คำถามคือ คุณลองสำรวจตัวเอง ว่า คุณจะสร้างฐานลูกค้าในมือได้อย่างไร ?
ผมใช้ Facebook , หนังสือ , สัมมนา , หนังสือพิมพ์ , นิตยสาร , งาน Event และ Internet ซึ่งสื่อส่วนใหญ่ที่ผมใช้ติดต่อกับลูกค้าของผม มันฟรี!! ในการสร้างฐานลูกค้า โดย โจทย์ในการสร้างลูกค้าของผม คือ "ผมต้องแก้ปัญหา และ สร้างประโยชน์ให้คนที่ติดตามเป็นฐานลูกค้าของผม ...ซึ่งในกรณีของผม คือ ผมต้องเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนชีวิต และ การเงินของลูกค้าที่ตามผม นั่นแหละ คือ ข้อสอบในชีวิตจริงที่ผมต้องตอบ"
ความดัง และ เงิน คือ ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนชีวิตของคนที่ติดตามเรา ...แก้ปัญหาและสร้างประโยชน์ให้คนมากเท่าไหร่ เรายิ่งดังและรวยเท่านั้น ....แล้วถ้าผมทุ่มทั้งชีวิตเพื่อเปลี่ยนชีวิตคนรอบข้างให้มากที่สุด ...ยิ่งดัง และ ยิ่งรวย
แปลกไหม .... Give "ผู้ให้" รวยโคตรๆ ทุกคน ...คิดดีๆ ซิครับ จริงไหม ?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
6 ข้อ ใสใส VI รุ่นใหม่ ควรต้องรู้ ขึ้นชื่อว่า ‘นักลงทุนคุณค่า’ ก็แปลว่า เราต้องข้ามผ่าน ’ราคา’(Price) แล้วพุ่งไปที่แก่นของมันคือ ‘มูลค่า’ (...
-
7 ข้อ ที่คนปกติเขาไม่ทำกันในตลาดหุ้น 1. ’หมกมุ่นอยู่ในจุดที่คนอื่นบอกไม่มีอนาคตแล้ว‘ …ตลาดหุ้นไทยไม่มีอนาคตแล้ว ไปตลาดอื่นเถอะ 2. ’ซื้อหุ้น...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ คุณ สุระ ผู้ก่อตั้ง Com7 เจ้าของ ร้านในเครือ Banana IT ..เดี๋ยวนะ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเชียร์หุ้น แต่จะมาเล่ามุ...
-
ตลาดหุ้น จะแบ่งออกเป็น ตลาด Bull & Bear Market Bull Market ก็คือช่วงที่นักลงทุน มองว่าเศรษฐกิจดี และ โอกาสที่หุ้นจะขึ้นมีเยอะ ทำให้ทุ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น