ในโลกแต่ละยุค มีปัจจัยสู่ความสำเร็จที่ไม่เหมือนกัน "Different Key Success Factor"
ยุค Industrial ยุคก่อน คือ ยุคการผลิต ใครก็ตามที่เก่งเรื่องการผลิตจะชนะ ..ผลิตให้มาก ผลิตให้เร็ว ผลิตให้ถูก ...ดังนั้น Skill หรือ ทักษะที่จำเป็นในอดีต ก็คือ ต้องเรียนให้เก่ง เพราะ การผลิตต้องรู้จักกลไกของเครื่องมือ และ วิธีการต่างๆ เพื่อที่เราจะได้เป็น Manager ผู้จัดการที่ดี ในการคุมการผลิตครั้งนี้
แต่ปัญหามันเกิดก็เมื่อ "สินค้า" ที่ผลิต ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดอีกต่อไป เช่น Nokia , Kodak และ สินค้ามากมายที่ตกยุคไป ...แต่คนเก่งคนนั้น ก็ยังคงยึดมั่นในสินค้าที่ตัวเองคิดว่าดี สิ่งที่ตัวเองเคยถนัด ก็คือ ผลิตให้มากขึ้น ผลิตให้เร็วขึ้น และ ผลิตให้ถูกลงไปอีก ...แต่สินค้าก็ยังคงขายไม่ได้ แถมต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ผู้จัดการ Manager ท่านนี้ ขุดหลุมฝังตัวเองลึกขึ้นเรื่อยๆ ...
"คุณว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการท่านนั้น คืออะไร ?"
ไม่ใช่เรื่องความเก่ง เพราะ เขาเก่งอยู่แล้ว แต่มันคือ เรื่อง Mindset ที่ตัวเขาเอง ไม่สามารถก้าวผ่าน ความสำเร็จเดิมๆ ที่วันนี้หมดความสำคัญลง ..เขายังยึดติดกับสิ่งที่ในอดีตเคยทำสำเร็จ แล้วยังคิดว่า วันนี้ก็ต้องสำเร็จซิ หากทำเหมือนเดิม
ใช่!! โลกยุคนี้ คือ Information Age โลกแห่งข้อมูลข่าวสาร ที่ การผลิตเป็นเรื่องที่กำไรไม่ได้ เพราะ การผลิตยุคนี้จ้างใครผลิตก็ได้ โรงงานทั่วโลกแข่งขันรับจ้างผลิตในราคาที่แข่งกันถูก แข่งกันตาย ...ยุคนี้ผู้ผลิต แข่งกันฆ่าตัวตาย เพราะ ตัดราคาแข่งกัน แย่งลูกค้ากันเอง เพียงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
ปัญหาของเจ้าของโรงงานผลิตเหล่านี้ ก็ไม่ต่างจากปัญหาของผู้จัดการบริษัทที่ผมยกตัวอย่างมา ..ก็คือ ทุกคนติดกับดัก Mindset เดิมๆ ...ไม่สามารถก้าวผ่าน Mindset ที่เคยทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้
ทางแก้คือ อะไร ?!!?
ทางแก็ก็คือ เข้าใจว่าโลกยุคใหม่ ยุค Information Age ...ความสำเร็จขึ้นกับ ความสามารถในการทำลายกรอบความคิดเดิม "คนเก่งเสียเปรียบ คนกล้าคิดนอกกรอบ" ...เพราะ ยุคนี้ทุกคนถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเครื่องจักรที่คิดในกรอบ คิดเหมือนๆกัน ทำเหมือนๆกัน ..ทุกคนถูกฝึกให้เรียนหนังสือแบบท่องจำทำตาม แบบนกแก้วนกขุนทอง ..ข้อสอบวัดผลที่ความจำ ไม่เคยวัดที่ความคิด ..ทุกคนถูกฝึกให้เป็นเครื่องจักรในโรงงาน เครื่องจักรในบริษัทที่ทำเหมือนเดิมทุกวัน --- Skill ที่จำเป็นที่สุดในการไปสู่ความสำเร็จในยุคนี้คือ
การก้าวผ่านความกลัว ...ทำลาย Mindset เดิมๆ ...กล้าก้าวผ่านความสำเร็จเดิม ...
ในเชิงสัญลักษณ์ ก็คือ คนที่กล้าฉีกใบปริญญาของตัวเองนั่นแหละ !!
การเรียนทั้งหมดในระบบ ตั้งแต่เด็กจนจบปริญญา มันสอนให้เราพัฒนาจากคนชั้นล่าง มาเป็นคนชั้นกลาง(แค่นั้น) ..คนที่มีกินมีใช้ พออยู่พอกิน ...ถ้าใครเพียงพอ พอใจในจุดที่เป็น ก็ไม่ต้องทำอะไร ทำเหมือนเดิมต่อไป
ส่วนคนที่สงสัยว่า จะเปลี่ยนจากคนชั้นกลาง แล้วก้าวขึ้นมาเป็นคนข้างบน ต้องคิดและทำอย่างไร ...ก็เริ่มจาก การท้าทายข้อจำกัดของตัวเอง ...ท้าทาย Mindset เดิมของตัวเอง ...ท้าทายกรอบสังคมและคนส่วนใหญ่ (ในเชิงสร้างสรรค์ ไร้ความรุนแรง)
...ในยุคนี้การกล้าคิดนอกกรอบ คือ สิ่งที่ต้องได้รับการฝึกฝน เพื่อให้คุณก้าวสู่จุดดีที่สุดในจุดที่ยืน ของตัวเองให้ได้ !!
ที่เล่ามาคือ Passion ของผม "ภาววิทย์ กลิ่นประทุม" ...ผมต้องการเป็น อาจารย์ (ผมเป็นอาจารย์ในตลาดหุ้น คนสอนนักลงทุนรุ่นใหม่) ต้องการเป็นคนสอนให้คนกล้าคิดนอกกรอบ บนแนวทางที่ไม่ทำร้ายใคร เพราะ มันเริ่มจากตัวเอง ...หลายคนอาจจะไม่ชอบผม ที่ชอบท้าทายกรอบความคิดต่างๆ ของสังคม ของคนส่วนใหญ่ ...แต่มันก็แนวทางที่จำเป็น ที่จะสร้างปัจเจกชน ...คนที่มีสำนึก ทำในสิ่งที่ดี โดยไม่ต้องอาศัยกฏหมายบังคับ เพราะ เรามี Common Sense ในสิ่งที่ดี ชีวิตเราเจริญ เพราะ เราทำงานที่ยิ่งให้ ยิ่งได้ ...การเลือกคนเป็นศิษย์ ก็สำคัญพอๆ กับ ศิษย์เลือกคนเป็นอาจารย์ ...ทุกอย่างล้วนเกี่ยวเนื่องและพึ่งพากันและกัน
คนที่มาอยู่ในจุดเขายืน "ไม่มีฟลุ๊ค" เพราะ มันคือ ผลลัพธ์ของความคิด ผลลัพธ์ของปัญญา และ ผลลัพธ์จากประโยชน์ที่เขาได้สร้างให้คนอื่น
...นี่คือ จุดยืนของผม!! ...อาจไม่ต้องเก่งที่สุด แต่ขอดีที่สุด ในจุดที่ผมเลือกยืน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น