นิตรสาร FORTUNE จัดอันดับ บริษัท "FORTUNE 500" (บริษัทที่ใหญ่ที่สุด 500 บริษัทในอเมริกา) ปีนี้ที่ 1 คือ Wal-mart(ยอดขาย 408,214 ล้านเหรียญ) ซึ่งทวงแชมป์กลับมาจาก EXXON MOBIL ที่ 1 ปีที่แล้ว...คือปีนี้ EXXON ยอดขายลดลง 35% ในขณะที่ Wal-mart ยอดขายเพิ่มขึ้น 0.6% 
...มาคุยเรื่อง Wal-mart กันนึดนึง บริษัทนี้ก่อตั้งโดย Sam Walton เมื่อ 48 ปีที่แล้ว เริ่มจากร้านขายของชำ แบบเบ็ดเตล็ดในรัฐ Arkansas เดิมตลาดค้าปลีกผูกขาดโดย SEAR, ROBUCK ซึ่งคล้ายๆห้างเซ็นทรัลในอีต ซึ่งรูปแบบ Discount Store ของ WAL-MART ได้เข้ามา เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคอเมริกาไปอย่างสิ้นเชิง--หลายคนมอง WAL-MART ว่าเป็น ผู้ทำลายค้าปลีกอเมริกา จนกระทั่งเสียดุลการค้าต่อจีนมหาศาล( WAL-MART นำเข้าสินค้าจากจีน เยอะกว่า ประเทศบางประเทศด้วยซ้ำ --คิดดู..บริษัท ใหญ่กว่าประเทศ ..)
  FORTUNE 500 ในปีนี้ มีตัวเลขที่น่าสนใจคือ กำไรของบริษัทต่างๆ เพิ่มขึ้น ในขณะที่ยอดขายลดลง (ซึ่งกำไรปีนี้ เพิ่มเกือบเท่าปี 2003 ที่ตลาดหุ้น Boom มากๆ ต่างกันตรงที่ปี 2003นั้นกำไรเพิ่มพร้อมกับยอดขายที่เพิ่ม แต่ในปี 2009 กำไรเพิ่มในขณะที่ยอดขายลดลง)
--จุดนี้เป็นผลมาจากการลดต้นทุน เช่น ปลดคนงานออก ของบริษัทใหญ่ๆ ในปี 2008 ประกอบกับเศรษฐกิจค่อยๆฟื้น ทำให้ ต้นทุนลดลงรวดเร็ว ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิต ของบริษัทดีขึ้น (แต่ในภาพรวม ไม่ค่อยดี เพราะ การลดคนงานของบริษัทต่างๆ ส่งผลให้ Unemployment Rate ของอเมริกา สูงเกือบแตะ 10% ..ทำให้ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคหยุดการใช้จ่ายทันที พร้อมกับเริ่มเก็บออมมากขึ้น สวนทางกับ Saving Rate ที่ติดลบมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา)..คำถามที่เกิดขึ้นคือ (แล้วนี่หมายความว่าอะไร)
---สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น คือ"ประเทศที่รับวิกฤตเต็มๆ"อย่างอเมริกา กำลังแสดง การเติบโตที่ค่อนข้างดี เริ่มจากบริษัทต่างๆกลับมามีกำไรดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้กลับมาจ้างงานเพิ่ม ..แสดงให้เห็นถึงการค่อยๆฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แท้จริง ประกอบกับ การคงดอกเบี้ยต่ำ ทำให้"เงิน"ไหลเข้ามาในตลาดทุน เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้น เมื่อหุ้นกลับมาดี มันก็เริ่มดึงให้กิจการค่อยๆฟื้นตัว ..สรุปได้ว่า "เป็นสัญญาณบวก ค่อนข้างชัดเจน"
 ..ผมเชื่อว่า เมื่อสัญญาณการฟื้นตัวเริ่มชัดเจนเช่นนี้แล้ว นักลงทุนที่เก่ง จะมองข้าม Shot ไปที่ ในอนาคตนั่นหมายความว่า ณเวลานี้เป็นต้นไป เป็นเวลาที่กอบโกย สำหรับ Bull Market ที่เริ่มขึ้นใหม่ พร้อมกับมองหาจุด Peak ที่เราจะต้อง"วิ่งออก" ในรอบต่อไป(ไม่ใช่มานั่งจมกับว่า ตลาดจะไปต่อ หรือตก เพราะมันผ่านจุดนั้นมานานแล้ว)....
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
- 
ทำไม ‘จุดที่กำไรสูงสุด‘ กับ ’จุดติดดอย‘ มันใกล้กันนิดเดียว ? 1. ’จุดที่กำไรสูงสุด‘ แปลว่า คนที่อยากจะซื้อหุ้นนั้น หรือสินทรัพย์นั้น ได้ซื้อ...
- 
ทำไมคนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจการรอซื้อเมื่อถูก ? ‘ซื้อแพงตลอด เมื่อไหร่จะซื้อถูกเป็นล่ะ !!’ 1. คนที่จะรอซื้อเมื่อถูก ต้องเข้าใจภาพใหญ่ก่อน ….ต้...
- 
เงินที่เรามีมันเสื่อมค่าได้ยังไง แล้วเราจะป้องกันยังไง ? 1. เงินเสื่อมค่า คือ เงินเรามูลค่าลดลง ซื้อของได้น้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป …คิ...
- 
สรุป 8 จุดเสี่ยง เศรษฐกิจโลกเวลานี้ด้วย AI จัดมา!! Economic risks are influenced by a variety of factors that can impact global and nationa...
- 
หนึ่งในสี่ ของคนบนโลกในปี 2050 จะอายุเกิน 65 อะไรคือโอกาสลงทุนแห่งอนาคต ? จากงานวิจัยของ April 24, 2025 by Dr. Damien Ng, Research Analys...
- 
หุ้นดีต้องมีตำหนิ …ถ้าไร้ที่ติ เราอาจซื้อในราคาที่ไม่ดี !! 1. หุ้นที่ไร้ที่ติ แปลว่า ราคาที่เราซื้ออาจเป็นราคาที่ไร้ที่ติ คือแพงเกินไปนั่นเ...
- 
ฉันควรทำอย่างไร เมื่อตลาดหุ้นไทยกลับตัวแล้ว !!! 1. ‘เริ่มด้วยซื้อหุ้นใหญ่ปันผลดี’ …ตอนนี้หุ้นใหญ่ปันผลดี ราคาลงมาจนแค่ซื้อแล้วถือกินปันผลยา...
- 
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
- 
การลงทุนอะไร ที่ผู้เล่นทุกคนกำไรหมด รวยหมด ? 1. ‘เรายังถือสินทรัพย์นั้นไม่นานพอ’ …เพราะทุกอย่างถ้าถือนานพอ จะเข้าสู่วัฏจักร ’เกิดขึ้น-ตั้งอ...
- 
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
- 
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
- 
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
- 
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
- 
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
- 
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
- 
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
- 
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
- 
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
- 
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
- 
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
