วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553
ยุโรปกับอเมริกาใครกำลังจะรุ่ง...
วันนี้ผมอ่านบทความของ Newsweek เขาพูดถึง การฟื้นตัวเปรียบเทียบระหว่างยุโรปกับอเมริกา คือ กลายเป็นว่าตอนนี้ทั่วโลกมองว่า ยุโรปแย่มากๆไหนจะปัญหา Greece ที่จะล้มไม่ล้มแหล่ในตอนนี้ ส่งผลให้ตลาดยุโรปทรุดตัวกว่าอเมริกา แต่ถ้าเทียบการทำกำไรของ บริษัท ปรากฏว่าบริษัทยุโรปดีกว่า ซึ่งส่งผลให้ Dividend Yield ของตลาดยุโณปอยู่ที่ 3.4% ในขณะที่อเมริกาอยู่ที่1.9%
..จะเห็นได้ว่า ยุโรป ถูกมองในแง่ลบมากเกินไป --ซึ่งจุดนี้กลายเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนนั่นเอง ..มาดูบ้านเรายิ่งดีใหญ่เพราะ Dividend Yield เราเกือบ 5% แต่หุ้นดันถูกสุดๆ --ยิ่งตอนนี้โดน"เทขาย" ให้ถูกอย่าง"คงเว้นคงวา" ดังนั้นที่Newsweek แนะนำให้ลงทุนในยุโรป --ผมกลับ แนะนำว่า"ลงทุนบ้านเรา...ดีที่สุด" --เงินทองไม่รั่วไหล แถมโอกาสรวยสูงสุด ฮิ ฮิ ฮิ...
(อยากอธิบายเพิ่มเติมของข้อแตกต่างระหว่าง ยุโรป กับ อเมริกา อีกข้อที่สำคัญ คือ คนยุโรป จริงๆมองอะไรค่อนข้างลบ ดังนั้น เศรษฐกิจจะเป็นแบบ Conservative ต่างจากอเมริกาที่เน้น Innovation จึงมีอะไร"หวือหวา" ให้เราได้Surprise อยู่ตลอดเวลา อย่างวิกฤตคราวก่อนสมัย Bill Clinton เป็นผู้นำ ก็เจอวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ ที่ใครๆก็มองว่า อเมริกา"ตกดิน"แน่ ปรากฏ Silicon Valley ก็สร้างปรากฏการณ์ Dot com bubble -- "New Economy" ที่บูมสุดๆก่อนที่จะ Bubble เมื่อปี 2000
ซึ่งตั้งแต่นั้นมา ก็ยังไม่มีปรากฏการณ์อะไรใหม่ๆกว่าสิบปีแล้ว ซึ่งไม่แน่คราวนี้ "อาโน..ผู้ว่ารัฐนักกล้าม" อาจสร้าง California Valley-"New Energy" ขึ้นมาเป็น Bubble ลูกใหม่ก็ได้ (เพราะถ้านับเวลา Bubble แต่ละลูกของอเมริกา การทิ้งช่วงมา สิบปีก็เป็นสัญญาณ การเกิด Bubble ลูกใหม่ ก็เป็นได้)..เราไม่ควรมองอะไรด้านลบหรือบวกมากเกินไป)
วันนี้เห็นข่าว นโยบายรัฐบาลที่จะออกมาเตรียมช่วยเหลือ "ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากม๊อบ" ซึ่งผมเห็นข่าวนี้ยิ่งทำให้ผมรู้สึก "ดี" กับเศรษฐกิจ เพราะการที่รัฐช่วยเอกชน มันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีกว่า การใช้จ่ายของรัฐบาล เช่น สร้างถนน ไฟฟ้า น้ำ มาก ..เพราะในเงินจำนวนเท่ากัน เอกชน สามารถที่จะเปลี่ยนเป็น"มูลค่าทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงาน ผลผลิต ที่เกิดประโยชน์ ได้สูงกว่ารัฐบาลมาก"
ดังนั้น "ความช่วยเหลือ"ดังกล่าว ถือเป็น "ข้ออ้าง"อันดี ในการแจกเงินให้"เอกชน"ในทางอ้อม ซึ่ง"ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี" ดังนั้น แม้"ม๊อบเสื้อแดงจะยืดเยื้อ" ก็ไม่น่าจะกระทบผู้ประกอบการมาก เพราะรัฐบาลยินดีให้ความช่วยเหลือ--ซึ่งเป็นไปได้สูง ถ้าเมืองไทย สามารถก้าวผ่าน เหตุการณ์รุนแรงนี้ไปได้ ในระยะเวลาสั้น (สัก1-2เดือน)
ผมเชื่อว่า เศรษฐกิจรวม ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด ---"ในมุมกลับ" หากรัฐบาล ไม่สามารถแก้ปัญหา"เสื้อแดง"นี้จบภายใน 2 เดือน ..ผลลัพธ์น่าจะออกมา"น่ากลัว" --แต่ผมคิดว่า "ผลลัพธ์น่าจะออกมาในรูปแบบแรกที่กล่าวมากกว่า ..ทำให้ช่วงนี้ผมเริ่มลงทุนเต็มๆ อีกครั้ง...
ในฐานะ"นักลงทุน"คนนึง ผมเชื่อว่า "ความเสี่ยงกับผลตอบแทนมันมาด้วยกัน " และ "วิกฤตกับโอกาสมันก็อยู่ด้วยกัน ..เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน คุณไม่อาจเอาเหรียญ"ด้านหัว" โดยไม่เอา "ด้านก้อย"ไปด้วย เช่นเดียวกับ โอกาส"ที่ Bottom ของ Bear Market..ในอีกด้าน มันก็คือ The Begining ของ Bull Market นั่นเอง...
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 สิ่ง ที่จะต้องดูในการเล่นหุ้นไทยขาขึ้น รอบใหม่ 1. ‘เด้งจากหุ้นใหญ่‘ …ในการเริ่มขาขึ้นรอบใหม่ จะเริ่มจากหุ้นใหญ่ เพราะ เม็ดเงินต่างๆ จะเข้...
-
"ฉันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว" นั่นคือ ความปรารถนาอันดับหนึ่ง จากการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ใช่!! ใครๆ ก็อยากเป็น ...
-
7 เรื่อง เบื้องลึกเบื้องหลังของคำว่า ‘เงิน’ ในโลกปัจจุบัน 1. ‘เงินในปัจจุบัน เป็นเงิน Fiat’ …เงิน Fiat สร้างจากหนี้ แปลว่า เงินในปัจจุบัน ไ...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
“อยากเอาเรื่อง Alpha มาเล่าให้ฟัง” ...ในทุกสิ่งมีชีวิต จะมีจ่าฝูง มีหัวหน้า เช่น ฝูงลิง ฝูงหมาป่า ก็จะมีจ่าฝูง ...เรื่องที่น่าสนใจก็คือ ไ...
-
8 ข้อต้องดู นักเล่นหุ้นสาย growth เดิมทีเล้นหุ้น value ก็ปันผลดีอยู่แล้ว ...แต่ยุคนี้ ควรคัดหุ้น growth เข้าพอร์ตด้วย เพื่อเร่งให้พอร์ตเราโ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
7 ข้อควรรู้ การลงทุนยาว กับ การเทรดสั้น อะไรรวยเร็วกว่ากัน 1. ‘การเทรดได้เงินเร็วกว่า’ …แต่ข้อเสียก็คือ เสียเงินเร็วพอๆ กัน ถ้าจับจังหวะไม่...
-
7 ความแตกต่างระหว่าง ลงทุนหุ้นไทย กับ หุ้นโลก 1. ‘Level Playground’ …เดิมทีคนที่สามารถไปลงทุนต่างประเทศต้องเป็นคนรวยมากๆ ใช้เงินเยอะ แต่ปัจ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...