ถึงวันนี้ต่างชาติ เทขาย อย่างต่อเนื่อง แต่บาทยังแข็ง แสดงว่า"เงินยังไม่ออก(แต่สลับไปมาเพื่อลดความเสี่ยง)"--จุดนี้ ผมตั้งข้อสังเกตว่า ต่างชาติ น่าจะคาดว่า "ตลาดต้อง อ่อนตัวลงมาก่อน" จึง "ปล่อยของบ้าง เพื่อรอเก็บที่ต่ำกว่า" แต่กลายเป็นว่า ยิ่งปล่อย "รายย่อย"ยิ่งรับ เพราะอย่างที่ผมบอก คือ ช่วงที่ผ่านมา รายย่อยกับสถาบัน ปล่อยหุ้นออกมาเยอะ ..โดยตอนนั้น"ตื่นตูม" ลืมนึกไปว่า พอขายไปถือเงินสด กลับอยู่ใน ภาวะที่แย่กว่า (เพราะผลตอบแทน ดอกเบี้ย สุดต่ำ) ตอนนี้พวกที่ปล่อย"ของออก" ไปก่อนหน้านี้ เลยพยายามตั้งตา รอเก็บ"ของคืน" ทำให้ ตลาดไม่ค่อยๆตก ..รอบนี้"ฝรั่งติดเต็มๆ" ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ
จุดนี้ถ้าถามผมว่า ตลาดถูกไหม ผมว่า"ถูก" แต่ถ้าดูจากเหตุการณ์ต่างๆ มันมีสิทธิ"ถูกได้อีก" อย่างตัวผมเอง ถือหุ้นกว่า 70% ของ Port ก็ถือว่า ผมมอง + มากกว่า - แต่ยังไงผมก็ยังมี Room ให้ช้อนต่อ "หากสถานการณ์ผลิก" วันนี้ผมมองว่า ต่างชาติที่เงินนิ่ง (น่าจะวาง Position ของ Port คล้ายๆผม) ดังนั้น เป็นไปได้สูงว่า Bottom ปีนี้ จะไม่ต่ำกว่า 650 จุด..(คือ ถ้าตลาดเข้าใกล้ 650 จุด ผมว่า "เทหมดหน้าตัก"..
ภาวะตอนนี้ เรียกได้ว่า ไม่ปกติ เพราะโดยมาก ถ้าตลาด Commodity ดี หุ้นจะไม่ค่อยดี... แต่กลับเป็นช่วงนี้ รัฐบาลทั่วโลกกระตุ้น และ ใช้นโยบายเงินผ่อนคลาย ส่งผลให้ "ตลาดหุ้นกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยปกติ" --ประกอบกับ(ในระยะยาว)เงิน US ต้องอ่อนอย่างแน่นอน นั่นยิ่งส่งผลให้เงินไหลออกจากอเมริกา มาสร้าง Bubble ในตลาดหุ้นเอเชีย(อย่างแน่นอน)ตอนนี้ นักลงทุนสถาบันกำลังจับตัวเลขของ การOver Bought ที่สูงเกินไป แต่จริงๆผมว่า เขาลืมมองว่า แท้จริงแล้ว เงินที่เข้ามาในหุ้นตอนนี้ มันไม่ใช่ทุกคน(มองบวก) เพราะเม็ดเงินส่วนใหญ่ยังจ้องรอที่จะเข้าเมื่อตลาดหุ้นตก --คุณคิดดู อย่างนี้หุ้นจะตกแรงได้อย่างไร!!.. ไอ้พวกที่รอ "double Dip" รอไปเลย.."ไม่ได้กิน" ผมมองว่า พวกที่เดาถูกตอนปี 2008 และออกก่อน ก็จะมี Attitude ที่ลบมากๆ ดังนั้น "พวกที่ออกทันตอนปี 2008 จะตกรถไฟปี 2009 ที่หุ้นขึ้นแรงเกือบทุกคน --พวกนี้ถามว่าตอนนี้ (ทำอะไร) ก็คือ รอ Double Dip จะได้เข้า ..สรุป คุณ คิดดูละกัน Sub prime ที่ผ่านมาผมว่า "ตบหน้าทุกคน" เพราะคนที่ออกทัน ก็จะเข้าไม่ทัน ..ส่วนคนที่ออกไม่ทัน ตอนนี้ก็ยังไม่กำไร.. ดังนั้น ไม่แปลกที่นักลงทุนส่วนมาก "ลังเล และคิดค่อนไปทางลบ" --ตามทฤษฎีผม "ชาวสวน" มาแน่...คุณรอดู!!! ---(((( Bottom ปีนี้ไม่น่าต่ำกว่า 650 จุด จากนั้น "พุ่ง" หายห่วง..เที่ยวนี้ รอรับ"เศรษฐีใหม่" กันได้เลย ...อาจเป็นคุณ!! จริงป่ะ))))....................
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
‘The Law of Diminishing Returns.. ในตลาดหุ้น ..ทำไมทำงานหนักขึ้น แต่ผลลัพธ์แย่ลง‘ 1. การเทรด …การเทรดเร็วขึ้น ในช่วงแรกก็มีโอกาสได้เงินมาก...
-
ถ้าใครรู้จัก ดร.นิเวศน์ จะรู้ว่า เขาคือ Value Investor "พันล้าน"..โดยหลัก Value Investor จะซื้อหุ้นเมื่อ "ถูก" แล้วก็จะข...
-
10 ข้อเสีย ของลูกคนรวย เดี๋ยวนี้เราเห็นชีวิตคนรวยมากขึ้น จาก Social ..ส่วนใหญ่ก็มักจะปลอม ..ไอ้มีจริงๆ ไม่ค่อยโชว์ ..แต่ทั้งหมด เรา...
-
8 ข้อ ‘ถ้าคนเรามีอายุยืนยาวขึ้น เราจะรวยขึ้นรึเปล่า ?’ ช่วงร้อยปีที่ผ่านมา อายุขัยของมนุษย์เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เพราะ การแพทย์และสุขอนามั...
-
8 เรื่องอะไร ที่ AI ยังไม่เหนือเรา ‘คุยกับเพื่อนเรื่อง AI มันเก่งจนทำให้คนตกงาน’ …แล้วอนาคตจะเหลืองานอะไรให้คนทำอยู่ ? เครื่องจักรในอดีตมาท...
-
6 สิ่งลวง ในตลาดหุ้นที่นักลงทุนต้องรู้ 1. ‘การการันตีผลตอบแทน’ …ยิ่งช่วงเศรษฐกิจไม่ดี คนยิ่งมองหาการลงทุนที่การันตีผลตอบแทน …ส่วนมากจะไม่จร...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...