แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

การมองราคาหุ้น(เป็น 3 ช่วง) - "ควรซื้อขายช่วงใด"


ผมว่าทุกคนที่เล่นหุ้นมีปัญหา คือ "ซื้อช้าเกินไป(ซื้อหุ้นแพง)และ ขายเร็วเกินไป(ขายหมู)" นั่นเอง --สาเหตุหลักมาจาก"ความกลัว" คือ ใช้อารมณ์ตัดสินใจ แทนที่เหตุผลและข้อมูล ...การมองหุ้นเป็น 3 ช่วง จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของราคาได้ดีขึ้น

ช่วงแรก (1) - ช่วงหุ้นตก เป็นจังหวะที่ธุรกิจมีปัญหา เราเรียกช่วงนี้ว่า "ช่วงหุ้นถูก" ซึ่งโอกาสที่จะสามารถซื้อหุ้นถูก ก็เมื่อ บริษัทประสบปัญหา หรือ ตลาดโดยรวมมีปัญหา เช่น "วิกฤตต้มยำกุ้ง", "วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์" ดังนั้น การที่จะสามารถซื้อช่วงนี้ได้ "คุณต้องวิเคราะห์ให้แน่ใจว่า วิกฤตนั้นๆจะผ่านไปได้ --ที่สำคัญ คุณ ต้อง"ใจถึง" ---(ปัญหาของคนที่ซื้อหุ้นในช่วงนี้ มักจะขายเร็ว คือ พอมีกำไรเล็กน้อยก็ขายไปแล้ว ถือเป็นการเสียโอกาสอย่างมาก)

ช่วงสอง(2) - ช่วงราคาหุ้น "ไม่ถูกไม่แพง" ช่วงนี้คือ วิกฤตต่างๆเริ่มคลี่คลาย ทำให้ราคาหุ้นเริ่มขึ้น มาจากจุดต่ำสุด (ช่วงนี้แหละ คือ "ช่วงขายหมู" (คนที่ซื้อในช่วงแรกมักขายไปในช่วงนี้ซึ่งเสียโอกาสมากๆ ---ปัจจุบันปี 2010 ตลาดกำลังอยู่ในช่วงนี้)

ช่วงสาม(3) - ช่วงราคาหุ้น"หุ้นแพง" ช่วงนี้เป็นช่วงที่ วิกฤตต่างๆ ได้ผ่านไปหมดแล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ดูดี --สดใสไปหมด (ช่วงนี้เป็นช่วงที่ แมลงเม่า เข้าตลาด คือ "มองว่า ทุกอย่างดูดี ไม่น่าเสี่ยงจึงตัดสินใจซื้อหุ้น" ..ช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่ราคา "วิ่งขึ้นมาก" คือ "Bubble" ... ดังนั้น ช่วงนี้ควรเป็นช่วงที่น่าขายหุ้นมากที่สุด

ดังนั้น ถ้ามองช่วงราคาเทียบกับตลาดในประเทศไทย ช่วงแรก คือ ปี 2009 ช่วงที่สอง ก็คือ ปี 2010(ตลาดตอนนี้) ส่วนช่วงสาม ก็คือ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป (ซึ่งจริงๆ ช่วงสาม โดยปกติจะเป็นช่วงที่กินเวลานานที่สุด อย่างน้อย ควรจะ 2 -3 ปี ขึ้นไป)...สรุปคือ ถ้าคุณ ซื้อหุ้นมาในช่วงแรก และช่วงที่สอง ควรจะใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อน ปล่อยให้หุ้นไต่ราคาขึ้นก่อน แล้วค่อยขาย จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ มากกว่า วิ่งเข้าวิ่งออก........

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ