วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553
เงินมากน้อยไม่สำคัญเท่า"อยู่ในที่ปลอดภัย"หรือเปล่า ..ต่างหาก
ช่วงสงกรานต์(ว่างมาก).. ผมจึงตะลุยอ่านหนังสือ และบทความต่างๆมากมาย (ซึ่งจะหมกมุ่น กับการลงทุนเป็นหลักฮิ ฮิ..)ยิ่งผมศึกษา ประวัติของระบบการเงิน และระบบทุนนิยม --ผมยิ่งรู้สึกถึงความ"เสียว" .."ความเสียว"ที่ว่า ก็คือ "ความไม่จีรัง" --คนส่วนใหญ่ที่"ยังไม่มีเงิน" มักมุ่งแสวงหาโดยไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เรียก Zero Base แต่พอคุณเริ่มมีเงิน..คราวนี้คุณจะเริ่มกลัวที่จะสูญเสียมากขึ้น อันนี้เรียกว่า คุณ "มีต้นทุน"เข้าให้แล้ว
ผมเชื่อว่า รุ่นลูก รุ่นหลาน ของคนที่ทางบ้าน พอจะมีกิจการ ให้สืบทอด จะกลัวการสูญเสียมากๆ --ผมมีเพื่อนคนนึง ตอนนี้ดูแลธุรกิจต่อจากพ่อ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีขนาดหลายร้อยล้านทีเดียว --สิ่งที่ผมพบ เมื่อคุยกับเพื่อนก็คือ "ความกลัว" .. จะว่าไปแล้ว คนที่"มีเงิน" ย่อมต้องกลัวสูญเสียเป็นธรรมดา ดังนั้น การตัดสินใจทั้งหมดจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการมองที่"แคบ"
ใช่แล้วครับ ...อารมณ์ "ความกลัว" กลายเป็นพื้นฐานหลักของการดำเนินธุรกิจ ของรุ่นที่ 2 และ 3 ในการสืบทอดกิจการ --ข้อดีของกิจการที่ได้รับสืบทอดคือ มีทรัพยากรที่มาก ทำให้การบริหารต่างๆทำได้ง่าย แต่ข้อเสียคือ การมองว่าทุกอย่างเป็น"ความเสี่ยง" ทำให้ธุรกิจ ตั้งแต่ได้รับสืบทอดมานั้น ไม่ได้เติบโตขึ้น กลับมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ (การที่ธุรกิจเรา ไม่โตขึ้น ก็เท่ากับเล็กลง โดยปฏิยาย เพราะเศรษฐกิจ และตลาดโตขึ้น ค่าเงินก็ลดลง ดังนั้น ถ้าเราได้เงินเท่าเดิม ก็คือ การเดินถอยหลังนั่นเอง)
การลงทุนก็เช่นกัน ตั้งแต่ผมกลับมาเมืองไทย ผมเริ่มเข้ามา"บริหารPort ของครอบครัวอย่างจริงจัง" ส่งแรกที่ผมเจอคือ ครอบครัวผม ไม่ได้บริหารให้เงินเพิ่มขึ้นเป็นเวลาหลายสิบปี ดังนั้น การที่ตลาดภายนอกโต ขึ้นก็เท่ากับว่า เราจนลง โดยที่เรา"อยู่เฉยๆ ไม่เสี่ยง เช่น ฝากธนาคาร หรือ การซื้อพันธบัตร รัฐบาล--- ด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้ผมทุ่มเท เวลาอย่างหนักในการศึกษาถึง Risk& Return ของ การลงทุนอย่างจริงจัง
หลังจากที่ศึกษาโอกาสในตลาดเมืองไทย พบว่า "ทางเลือกของนักลงทุนไทย"น้อยมาก.. แม้ตลาดหุ้นเองยังเล็กมากๆ คือ ทั้งตลาดเรายังเล็กกว่า บริษัทเดียวของจีนเลย (ขนาดว่า ตลาดเขาเกิดหลังเราตั้งนาน) นี่ยังไม่นับตลาดเพื่อนบ้านอย่าง อินโด มาเล ที่แซงเราไปไหนต่อไหนแล้ว (ไม่ต้องพูดถึงทางเลือกอื่นเลย อย่าง Commodity แทบไม่มีให้ลง)ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมทุกๆปี คนไทยจะ "จนลงเรื่อยๆ" แต่คุณ รู้ไหมมีคนอยู่กลุ่มนึง ที่"รวยขึ้นเรื่อยๆอย่างช้าๆ" เขาเรียกตัวเองว่า Value Investor
หลักการของพวกเขาคือ การมองหาหุ้นราคา"ถูก" จากนั้นก็ซื้อ "ไม่ขาย" จะขายอีกทีก็เมื่อราคามันสูงเกินไปแล้ว --คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นคนที่ร่ำรวยมาแต่เกิด เพียงแต่เขาลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น ดร.นิเวศน์ จากปี 1997 เขาลงทุนด้วยเงินไม่กี่ 10 ล้าน จนปัจจุบัน port เหยียบ 1,000 ล้านบาท
--คุณ คิดดูว่าแล้ว ลูกเศรษฐีที่สืบทอดกิจการใหญ่ๆของครอบครัว --มีเงินเท่าไหร่ (ทำได้อย่าง ดร.นิเวศน์ อ่ะเปล่า --"ไม่ได้") คุณรู้ไหมว่าทำไม ---(ถูกต้อง) --"ความเสี่ยง" นั่นเอง
..Value Investor โดยมากถือหุ้น 100% เกือบตลอดเวลา (ผมยังไม่กล้าทำเลย) ส่วนลูก เศรษฐี ส่วนมาก(ผมพนันเลย)ว่าเงินเขาส่วนใหญ่อยู่ในที่ปลอดภัยที่สุด คือ "เงินฝากธนาคาร หรือ พันธบัตรรัฐบาล" ..และที่ปลอดภัยที่สุด ฉะไหน!!! กลายเป็นที่ "ที่เสี่ยงที่สุด" ไปได้ (งง) ....(งง) ไปเลย
--นิทานเรื่องนี่มันสอนให้รู้ว่า "หากคุณกลัวสูญเสีย คุณจะยิ่งเสีย ... หากคุณไม่กลัวที่จะเสีย คุณกลับกลายเป็นเปิดโอกาสอันมหาศาลสำหรับตัวเอง" ปีที่ผ่านมา 2009 คนที่ซื้อหุ้นตั้งแต่ต้นปีแล้วไม่ขาย จะได้ผลตอบแทนสูงกว่า "คนที่ซื้อๆขายๆมาก" ประเด็นคือ คนนึงกล้าเสี่ยงที่จะ"ถือหุ้น" ในขณะที่อีกคน"ไม่กล้า--ขึ้นนิดก็กลัวตก รีบขาย!!"
ดังนั้น การ"ซื้อๆขายๆแบบ Trader" ไม่ได้แสดงว่าคุณ "ใจถึง" มันหมายถึงว่า คุณ"ไม่กล้าที่จะเสี่ยง"นั่นเอง ..ผลตอบแทนของ Trader จึงต่างจาก Value Investor อย่าง "ฟ้ากับเหว" --(ที่นี้คุณก็เข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่า Risk & Return มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร).........
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
-
7 ข้อควรรู้ ก่อนทุ่มเงินหนักๆ ซื้อหุ้นอเมริกา 1. หุ้นอเมริกาขึ้นแบบกระจุกตัว …แปลว่า เราเห็นดัชนีอเมริกาขึ้นดีมากๆ แต่เอาเข้าจริง มันกระจุก...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
5 ระดับ ความรวยที่เราควรเข้าใจ จนไปสู่เศรษฐีพันล้าน !! 1. ‘เงินแสนแรก’ …เราจะได้จากการทำงานหนัก 2. ’เงินล้านแรก‘ …เราจะได้จากทักษะ และ ความ...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...