วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553
เมื่อใดจะวัดได้ว่าคุณเก่ง(เมื่อฝึกครบ 10,000 ชั่วโมง)
ผมอ่านหนังสือ "Outliners - ของ Malcolm Gladwell" เขาพูดถึงเรื่อง ความเก่งหรือ การเป็นมืออาชีพ ได้อย่างน่าสนใจมาก เขายก "กฎของ 10,000 ชม." คือ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เช่น เล่นดนตรี เล่นกีฬา เต้น ร้องเพลง คือ ทั้งหมดนี้มีเส้นแบ่งระหว่าง"มือสมัครเล่น" กับ "มืออาชีพ" ก็คือ 10,000 ชั่วโมงแห่งการซ้อมนี่แหละ -- ในระบบการเรียน คือ ใครจะเป็น Doctor ได้ต้องเรียน 3 -5 ปี ขึ้นไป ซึ่งถ้านับก็ประมาณ 10,000 ชั่วโมง นั่นเอง
ผมอ่านประวัติ นักร้อง หน้าตาธรรดาคนหนึ่งที่ชื่อ "Rain" คือหน้าตา สุดธรรมดา "ไอ้ตี๋ดีๆนี่เอง--แต่สาว กรี๊ดสลบ..." พออ่านก็รู้สึกนับถือ ในความมุ่งมั่นที่เขาทุ่มเทชีวิตในวัยรุ่นทั้งหมดให้กับการเต้นและร้องเพลง (ซึ่งถ้านับก็ประมาณ 10,000 ชั่วโมง นั่นเอง) ทำให้เขากลายเป็น นักร้องที่ดังสุดๆ
-- ผมมองว่า การที่เราจะประสบความสำเร็จ ยิ่งต้องเกิดจากการ ((--ย่น 10,000 ชั่วโมง ให้ถึงเร็วที่สุด !!!)) คือ ถ้าเราฝึกได้วันละ 15 ชัวโมง ต่อวัน(ไม่มีหยุด 365 วัน) เราจะต้อง อุทิศ 2 ปี เต็มๆให้กับการฝึก
--ยิ่งถ้าการฝึก..มีครูที่ดีด้วย เช่น เราเต้นโดยมีอาจารย์ที่เก่ง หรือ ไปฝึกกับพวก นิโกร อยู่กิน เต้น แร็พ ตลอดสองปี "คุณอาจเป็น Rain!!! ก็ได้" ฮ่า ฮ่า...
(ผมชักอยากเป็น Rain แล้วซิ ...แต่ไม่รู้จะอึดได้ 15 ชั่วโมงต่อวัน ตลอด 2 ปีเต็มได้หรือไม่ "น่าคิดจริงๆ") แต่จริงๆ ก็อยากเป็น Tiger Woods เหมือนกัน แต่คงยากเพราะ Tiger Woods เขาโดนพ่อทรมานมาตั้งแต่ 2 ขวบ ฝึก 10 ชั่วโมงต่อวัน ตลอด 20 ปี ไม่มีวันหยุด เท่ากับว่าตอนนี้ ชั่วโมงการฝึกสะสมของ Tiger ได้เกิน 80,000 ชั่วโมงไปแล้ว --นั่นเท่ากับว่า ไม่มีใครในโลกที่จะฝึกได้เท่ากับ Tiger ในอายุที่เท่ากัน และนี่จึงทำให้ Tiger เป็นที่หนึ่งของโลก
-- วิธีที่จะทำให้ได้แบบ Tiger คือ คุณต้องเริ่มทรมานลูกคุณตั้งแต่ 1 ขวบ (ก่อน Tiger 1 ปี) และบังคับให้ลูกคุณตีกอล์ฟ วันละ 10 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา 20 ปี (ห้ามมีวันหยุด ..ถ้าหยุดเอาแซ่ฝาดหลัง !!!!)... ดังนั้นเมื่อลูกคุณอายุ 21 ปี เขาก็จะมีชั่วโมงการซ้อม 73,000 ชั่วโมง ผมเชื่อแน่ว่าด้วยชั่วโมงการซ้อมขนาดนี้ ไม่ว่าคุณ เลือกให้ลูกคุณเป็นอาชีพอะไร เขาก็จะเป็นที่หนึ่งของโลก ในอาชีฟนั้นๆอย่างแน่นอน
ผมเขียนมาถึงจุดนี้ เริ่มรู้สึกว่าโลกนี้มัน"บ้า...บ้า...บ้า" คือ ไม่มีอะไรที่ได้มา โดยที่เราไม่เสียอะไร จริงไหม --- ทุกอย่างล้วนแลกมาด้วยอีกสิ่งที่เสียไป
.... ดังนั้น ชีวิตแต่ละคนจึงต่างกัน อยู่ที่คุณเลือกเอง (แต่ใน Case ของ Tiger พ่อเขาเลือกให้เขา ตั้งแต่ 2 ขวบ จากนั้นเมื่อเขาโตขึ้น เขาก็เลือกที่จะทำมันต่อ และนี่เป็น The Making of Champion
--- ดังนั้น "เราๆท่านๆ ไม่ต้องเสียใจหรอกครับ ที่ไม่ได้เป็นที่หนึ่งของโลก ในด้านใด เพราะนั่น หมายถึงความทุกข์ระทม ขมขื่น ขาดชีวิต ที่คนปกติมี )......ผมถามว่า จากนี้ คุณจะเลือกอะไร -- และคุณจะเลือกอะไรให้ลูกคุณ ??? ...น่าคิด....
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
6 หลักการ คัดหุ้นปันผลดีเติบโตแล้วเลี้ยงเราได้ไปยาวๆ หลักการนี้สำหรับ คนชอบซื้อแล้วถือ กินปันผลยาวๆ 1. ‘หุ้นมี Market cap ขนาดใหญ่‘ …หุ้น...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
6 ข้อ มาคุยกันเรื่อง Why Nations Fail ? สิงค์โปร์ไม่ทีทรัพยการเลย ทำไมรวย …เวเนซุเอลา มีน้ำมันมากที่สุดในโลก ทำไมจน ..แล้วสวิส ประเทศเล็กๆ...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 ข้อ เศรษฐกิจและการลงทุนยุค Trump 2.0 1. ‘นโยบาย American First’ …Trump จะทำทุกอย่างให้อเมริกาได้ประโยชน์ เน้นในเรื่องของเศรษฐกิจ 2. ‘Dere...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...