วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
เตือน(เล็กๆ)เรื่อง"ทอง"
ช่วงนี้ผมว่าเข้าสู่ยุค"ตื่นทอง"อีกครั้งแล้วซินะ.. แต่จริงๆผมมีเกร็ดเล็กๆมาฝาก ..อย่างแรกเลยต้องเข้าใจว่าของคือ Commodity ชนิดหนึ่ง เหมือน เหล็ก ดีบุก น้ำมัน --ทำให้ธรรมชาติของทองมันมี Cycle ของการขึ้นลง(ไม่ใช่ขึ้นตลอด) แต่"ทอง"จะพิเศษกว่า Commodity อื่นๆตรงที่มันหวือหวากว่า(คนชอบเสี่ยงชอบ!!)
แต่ข้อเสีย มันอยู่ที่ว่า "ทอง"ถูกนำมาใช้เกิน Commodity ปกติ โดยเฉพาะปัจจุบันที่"นักลงทุน" ถือทองเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน (ถ้ามองในทฤษฎีก็ไม่ผิด เพราะ Commodity Cycle จะขึ้นลงสวนกับตลาดหุ้น ซึ่งปัจจุบัน Cycle ของ Commodity ก็ยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่) แต่สิ่งที่ทำให้ทอง"ยาก"กว่า Commodity อื่น เพราะจากการถือของนักลงทุน ทำให้ Demand ใน"ทอง"เกินกว่าความต้องการใช้จริงในตลาด(พูดภาษาชาวบ้านก็คือ ราคาจะบวก Bubble เข้าไปด้วย ทำให้ทองราคาสูงเกินไปกว่าความเป็นจริง) "แต่ ณ จุดนี้ผมไม่ได้บอกว่าทองสูงเกินไปแล้ว เพราะ Bubble ไม่มีจุดสูงสุด --มันจะหยุด Bubble ก็คือทางเดียวคือ ตลาด Crash เท่านั้น" ดังนั้น เป็นไปได้สูงมากที่ทองจะขึ้นต่อไปอีก
คำถามที่หลายคนสงสัยว่า"จุดสูงสุด"มันอยู่ที่ไหน ..ถ้าเทียบกับ Dow Index ตลาดหุ้นทองเคยยุค(ขาขึ้น)สามารถขึ้นไปแตะเท่ากับ Dow (ซึ่งตอนนี้ Dow อยู่ที่ 10,900 จุด แสดงว่า ทองอาจ Bubble ไปอีกได้ 8 เท่าจากราคาปัจจุบัน แต่พอตลาด Crash มันก็สามารถตกกลับไปเหลือ ไม่ถึง 10% ของราคาที่มัน peak(ตามสถิติในอดีต) "จะเห็นได้ว่ามันเสี่ยง ไม่ใช่ไม่เสี่ยง --"แต่มันก็น่าเสี่ยง" (อยู่ที่)ถ้าความกล้า..ถูกไหม"
อีกมุมนึงของทอง คือ มันคล้ายๆหุ้นที่มี"เจ้ามือ" ถามว่าใครคือ เจ้ามือ --ก็ธนาคารชาติของประเทศต่างๆ FED, IMF พวกนี้ถือทองไว้เยอะมาก ซึ่งถ้าเทียบสัดส่วนที่"พวกเรา"เล่นหมุนเวียนกันอยู่ ถือเป็นสัดส่วนที่"น้อยมาก" ดังนั้น หาก"เจ้ามือ" เหล่านี้ อยากล้มกระดานเมื่อไหร่ "เกมก็จบ" --อยากรู้ว่าต้นทุนของ"เจ้ามือ" เหล่านี้เท่าไหร่ ..คุณคิดเอาเองแล้วกัน พวกนี้ถือตั้งแต่ทองยังไม่ถึง 100 us ตอนนี้ 12,000 us (ธนาคารชาติของประเทศต่างๆกำไรไปเท่าไหร่แล้วจากราคาปัจจุบัน)
ที่ผมเขียนบทความนี้ ก็จะเตือนว่า "การลงทุนในอะไร คุณต้องรู้ประวัติความเป็นมา ไม่ใช่ใครแห่อะไร ก็วิ่งตาม จะซวยเอาง่ายๆ" --จากนี้ ผมฟันธงว่า ทองจะวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่เศรษฐกิจยัง"ผันผวน" แต่ถ้าเศรษฐกิจมีสัญญาณ"ดี"เมื่อไหร่ "ทิ้งทันที" -- เมื่อนั้นคนถือทองอยู่ได้"หนาว" ... "โชคดีครับ"
*อีกนิด!! เวลาทอง"ไม่วิ่ง"มันนิ่งได้ถึง 20 ปี (คือ พูดง่ายๆว่าตอนมันวิ่งมันวิ่งสุดๆ แล้วพอมันหยุดวิ่ง มันสามารถนิ่งได้ถึง 20 ปี) --(Cycle รุ่นคุณปู่เราเล่น)..หยุดที่ 400 ต่อบาท เกือบ 20 ปี --(Cycle รุ่นคุณพ่อเราเล่น) ..หยุดที่ 4,000 ต่อบาทเกือบ 20 ปี --( Cycle เราเล่นนี่ ตอนนี้ราคา 18,000 ต่อบาท ช่วยกันคิดซิครับว่ารอบนี้ จะไปหยุดที่ราคาไหนอีก 20 ปี.... เอ้า!! ช่วยกันคิดครับ....)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
6 เรื่องที่ AI ทำได้ดีกว่ามนุษย์ อย่างเรา การปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ผ่านมา …ทำให้อาชีพสังคมเกษตรกรรม หายไป และเกิดงานใหม่ใน โลกอุตสาหกรรม …งาน...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...