วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
“คุณคิดว่าสงคราม(ใช้สื่อ)ระหว่างรัฐบาลกับทักษิณแน่แล้ว”-- ไม่ใช่เลย “OBAMA เก๋ากว่าเยอะ” เขาถึงเป็นเบอร์ของ 1 ของโลกไง
ปัจจุบัน “สื่อ” นับว่าแย่ลงเรื่อยๆ ในการ “บิดเบือน”ข้อเท็จจริง …เห็นใครมาเป็น “รัฐบาล” สื่อก็ ยกย่อง สรรเสริญ (ผมจำได้เลยสมัยคุณ อภิสิทธิ์เป็นฝ่ายค้าน ไม่เห็นจะ”หล่อ”ขนาดนี้เลย แต่พอคุณ อภิสิทธิ์มาเป็น นายก..ปั๊บ “หล่อขั้นเทพ” --รักท่านนายกจังค่ะ “(ผม)ถึงกับ ..งง” ว่า “มนุษย์” เรามัน “ล้างสมองได้ง่ายถึงเพียงนี้เลยหรือ”) ดังนั้น ผมแนะนำเลยว่า ว่าใครก็ตามที่อยากก้าวเข้ามาใน “การเมือง” คุณจะต้อง ผูกขาด “สื่อ”
“การผูกขาดที่ผมพูดถึง ไม่ได้หมายความว่า คุณต้องเป็นเจ้าของ(แต่ถ้าเป็นเจ้าของยิ่งดี)” หากแต่คุณจะต้องสามารถ “ใช้สื่อ”ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเอง --ปัญหาที่เกิดความขัดแย้งในบ้านเรา ถูกกระตุ้นให้ แตกแยกแรงขึ้น แย่ขึ้น เร็วขึ้น ก็ด้วย”สื่อ”นี่แหละ ---คุณจะปั่นหัวใคร ทำให้ใครรัก เชื่อหลง ก็ต้องอาศัย การโน้มน้าวโดยใช้ “สื่อ”ทั้งสิ้น
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า คุณจะเลือกใช้สื่อ “แบบเสียเงินมาก แบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ก็ไม่ยาก …คุณเดินไปโฆษณาทีวีเลย” ผมไม่ได้ว่า ทีวี (ไม่ดี) …มันดี สำหรับกิจการใหญ่ (ถ้ากิจการเล็ก …ถามว่าคุณจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อสื่อทีวี) อย่างการเมือง ปัจจุบันเริ่มฉลาด เพราะเอา Social Network มาใช้ ทำให้เสียเงินน้อยแต่ เข้าถึงคนมาก ---คนที่ใช้ New Media ที่เทพสุดๆคนนึงในโลกก็นาย Obama นี่แหละ ที่ Raise Fund ผ่าน Facebook ได้เงินสนับสนุนเป็นร้อยล้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในขณะที่นาง คลินตัน Raise Fund ผ่านงาน กาลาดินเนอร์ ที่ได้ทีละ ไม่เท่าไหร่ แถมเสียค่าจัดงานอีก … หรือ อย่างนโยบายของ Obama เขาไม่ต้องพิมพ์แจก เขาพิมพ์หนังสือขาย ชื่อ Audacity of Hope ขายดีเป็นล้านๆเล่ม สรุปคนเสียเงินซื้อก็ต้องอ่าน (จริงป๊ะ) ฉลาดโคตร!!!
การใช้สื่อ New Media อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องใช้การวางแผนที่ “เป็นระบบ” อย่างเช่น ร้านอาหารเล็ก อาจมี Facebook ติดต่อกับลูกค้า ตอนนี้ Starbuck , คุณ กรณ์ , คุณ อภิสิทธิ์ และ คุณ ทักษิณ ทุกคนทำหมด (แต่ละคนจะได้ Feedback จากลูกค้าโดยตรง โดยเฉพาะสองคนหลังที่ผมยกตัวอย่าง Feedback แบบจุใจเลย) …
กลับมาที่ Marketing การเมือง อย่างที่ผมบอกต้องเริ่มจาก Product ที่สุดยอด นั่นก็คือ นโยบาย …อย่าง Obama ใช้เวลามากมาย ลงไปคุยกับ “ชาวบ้าน” ทั่วอเมริกา จึงทำให้ Audacity of Hope ของเขาเป็นอะไรที “ใช่เลย” (คู่แข่งที่เป็นมหาเศรษฐีใช้เงินหว่านเท่าใดก็ไม่สามารถสู้ Product ที่ดีได้)….ถึงเวลาแล้ว ที่นักธุรกิจ รวมทั้งนักการเมืองต้องกลับมานั่งคิดใหม่ ว่าก้าวใหม่ที่เดิน ต้อง “มีทิศทาง” --ไม่ใช่เปะปะไร้จุดหมายอย่างปัจจุบัน !!
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
6 เรื่อง Stupid that make you Rich !! 1. ‘Start a Business’ …เริ่มจากปัญหาที่เราอยากจะแก้ …ถ้ามือใหม่เริ่มจากแก้ปัญหาเล็กๆ 2. ’ลงทุนในสิ่ง...
-
7 ข้อคิด ของปัญหาที่นักลงทุนต้องผ่านให้ได้ 1. ‘ทุกปัญหามีอายุของมัน‘ …ปัญหาทุกอย่างมีอายุ มีเวลาของมัน …พอเวลาผ่านไป ปัญหาก็จะผ่านไปเช่นกัน...
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
7 สิ่ง ที่ต้องเตรียมก่อนที่เราจะเกษียณแล้วอยู่สบายๆ 1. บ้านที่ไม่มีหนี้ …คุณจะมี Property กี่แห่งก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องมีบ...
-
5 ระดับ ความรวยที่เราควรเข้าใจ จนไปสู่เศรษฐีพันล้าน !! 1. ‘เงินแสนแรก’ …เราจะได้จากการทำงานหนัก 2. ’เงินล้านแรก‘ …เราจะได้จากทักษะ และ ความ...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
7 ข้อควรรู้ ก่อนทุ่มเงินหนักๆ ซื้อหุ้นอเมริกา 1. หุ้นอเมริกาขึ้นแบบกระจุกตัว …แปลว่า เราเห็นดัชนีอเมริกาขึ้นดีมากๆ แต่เอาเข้าจริง มันกระจุก...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...