วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
จุดบอดของ"ความเชื่อ"
วันนี้สังคมถูกชี้นำโดย"ความเชื่อ"ที่มีอยู่ในทุกสังคมและทุกวงการอาชีพ แม้แต่ศาสนาก็ล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานของ"ความเชื่อ" ..ซึ่งในหลายๆเรื่องไม่สามารถ"พิสูจน์ได้" ผมเคยสงสัยว่า นักลงทุนอย่าง Warren Buffet รวมทั้งพวกที่ดังๆมากๆทำไม พอเขาพูดอะไร มันก็จะเป็นอย่างนั้น --ก็เพราะมีคน"เชื่อ"ในสิ่งที่เขาพูดนั่นเอง
..อย่างล่าสุด รถไฟฟ้า BYD บริษัท Noname สุดๆ แต่พอมีข่าว Warren Buffet ไปลงทุน 20% ในบริษัท "เท่านั้นเอง นักลงทุนต่างวิ่งเข้าไปซื้อจนหุ้นขึ้นมหาศาล" คือ จริงๆผมมองว่า มันไม่ได้อยู่ที่บริษัท แต่มันอยู่ที่"ความเชื่อ"ในตัว Warren Buffet ต่างหาก ..ตอนนี้ เจ้าของ BYD ถูกจัดอันดับเป็นคนที่รวยที่สุดในจีน....ในวงการทีวี Oprah นับเป็นคนที่คนให้"ความเชื่อ"สูงมาก ดังนั้นเมื่อ Oprah แนะนำ สินค้าอะไร กลายเป็นขายดีไปหมด ---ทำให้หลายๆคนให้ข้อสังเกต คน เหล่านี้ว่าเป็น "The King Maker"
ประเด็นคือ เราจะสร้าง"ความเชื่อ"มันไม่ใช่ ง่ายๆ เพราะมันต้องอาศัย เวลาที่ยาวนาน..เหมือนการสร้าง"สินค้า"ที่มีชื่อเสียงอย่าง "โค้ก"นั่นเอง...แต่ก็ใช่"ความเชื่อ"เป็นสิ่งที่ดี คือ ผมไม่เถียงหากคุณเป็น เจ้าของที่สร้างความเชื่อ เพราะไม่ว่า Warren หรือ Oprah ต่างก็ได้ประโยชน์เต็มๆ ...แต่คนที่"ซวย" มันกับเป็นคนที่"เชื่อ" นั่นเอง
อย่างการเล่นหุ้น ถ้าคุณเล่นตาม"ความเชื่อ" มันก็คือ "แมลงเม่า" และนี่เองที่เรียกว่า "จุดบอดแห่งความเชื่อ" ..มันมีประโยชน์ต่อเมื่อคุณเป็นคนสร้าง"ความเชื่อ" แต่มันจะเป็นโทษ หากคุณเดินตามมัน
หลายคนคงสงสัยว่า "ผมพูดอะไร..อย่างนี้แปลว่า ไม่ให้เชื่อในสิ่งใดเลยหรือ" (อันนี้ก็ไม่ใช่) ..หากแต่ การ"เชื่อ"ในสิ่งใด ..คุณต้อง"คิด"ก่อนว่า สิ่งที่คุณจะเชื่อนั่นมันมีเหตุผลหรือไม่ แต่ถ้าคุณเป็น"นักลงทุน" ผมฟันธงได้ว่า 100 ทั้ง 100 ของ"ความเชื่อ"ที่เกี่ยวกับการลงทุน มันนำทางไปสู่"ความย่อยยับ"ทั้งสิ้น ดังภาษิต ที่ว่า "จงกลัวในเวลาที่คนอื่นโลภ และจงโลภในเวลาที่คนอื่นๆกลัว"
ผมเชื่อว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คิดว่า"ตัวเองเก่ง สามารถชนะตลาด" แต่พอเอาเข้าจริงกลายเป็นมีคนไม่ถึง 10% ที่สามารถชนะตลาดในระยะยาวได้ --ดังนั้น ถ้ามองให้ดีว่า แท้จริงแล้ว "ใครกันที่รวยมหาศาลจากตลาดหุ้น" คุณจะเห็นได้ว่า คนที่รวยคือ เจ้าของกิจการ ไม่ใช่นักเล่นหุ้น
..ถามว่า"ทำไมเขาถึงรวย" ก็เพราะ ตั้งแต่เข้าตลาด เขาก็ยังคงถือหุ้น(ไม่ขาย)จนกิจการโตขึ้นเรื่อยๆจาก 100 เป็น 10,000ล้าน--และนี่แหละที่ทำให้เขารวย ไม่ใช่"ซื้อขาย ซื้อขาย"...(ถ้าอยากรวยคุณต้องนำบริษัทเข้าจดทะเบียน หรือ ไม่คุณก็ซื้อหุ้นในเวลาที่ตลาดตกต่ำ และก็ไม่เคยขายมันเลย........)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
6 หลักการ คัดหุ้นปันผลดีเติบโตแล้วเลี้ยงเราได้ไปยาวๆ หลักการนี้สำหรับ คนชอบซื้อแล้วถือ กินปันผลยาวๆ 1. ‘หุ้นมี Market cap ขนาดใหญ่‘ …หุ้น...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...