วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
"จำนวนคนโดดตึกตาย"--ดัชนีวัดความ Bubble ของตลาด
ไอเดียที่เสนอนี่อาจฟังดูแปลกๆ แต่ผมว่า"จำนวนคนโดดตึกตาย"มันสามารถชี้ได้ลึกๆ ถึงปัญหาว่า"กระทบถึงพื้นฐานที่แท้จริงเท่าไหร่" ผมจำได้ว่าตอนปี 1997 มีคน"โดดตึกฆ่าตัวตายมากมาย"--แสดงว่าตอนนั้นมัน"แรงจริงๆ" ..แต่มาเที่ยวนี้ตอน Sub-Prime Crash ไม่เห็นมีใครมาฆ่าตัวตายเหมือนอย่างปี 97
...จุดนี้มันชี้ให้เราเห็นว่า วิกฤตคราวนี้(เอเชีย)เราเจอแค่"หางๆ" แต่อเมริกากับยุโรปโดน"เต็มๆ"(อย่าง Greece ในตอนนี้เจอเหมือน"ต้มยำกุ้ง" ลองคิดดูซิครับว่า จะมีก็คนต้องโดดตึกตาย เพราะขนาดความเสียหายเขามากกว่าเรา 30 กว่าเท่า)
ดังนั้นตั้งแต่ปี 1997 ถึงปัจจุบันก็ปาเข้าไป 10 กว่าปีแล้ว..ที่ตลาดเรายังไม่ได้เจอ Bubble เลย ...ซึ่งโดยธรรมชาติ ในทุกๆ 15 ปีก็น่าจะมี Bubble ครั้งนึง --ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าเราใกล้สู่ Bubble อีกครั้ง ...ครั้งนี้ไม่รู้จะแรงไปถึงกี่"จุด"
หากย้อนดู Bubble ครั้งก่อนของตลาดบ้านเรา เริ่มจากปี 1986 ที่ประมาณ SET 130 จุด วิ่งไปสู่ Peak ของ Bubble ที่ 1,680 จุดในปี 1993 (เป็นเวลา 7 ปีเต็มที่ตลาดเราอยู่ในสภาวะ"Bubble"..เรียกได้ว่า ยุคนั้นก็ให้เกิดคนรวยมากมาย)--จากนั้นตั้งแต่ปี 1994 - 1998 จากจุด Peak ก็วิ่งลงมาแตะ 200 จุดในปี 1998 เป็นเวลาเกือบ 4 ปีที่ ทำให้คน"เจ๊ง"หมดตัวอย่างมากมายเช่นกัน ..แน่นอน ทุกคนอยากลงทุนก่อน Bubble และอยากออกก่อนที่จะ Bust (แต่ถ้าหากเรามัวแต่หลง"ระเริง"กับกำไรเล็กๆน้อยๆรายวัน สำหรับการ"ซื้อๆขายๆ" อาจเป็นกับดัก ที่ทำให้เราลืมภาพใหญ่ และลวงเราไปสู่"ดอยมรณะ"ในที่สุด)
คุณสังเกตุไหมว่าตั้งแต่ต้นปี 2009 เป็นต้นมา ..แทบไม่มีคนใดเลยในตลาดที่ขาดทุนตากการเล่นหุ้น .."ไม่แปลก!!" เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2009 เป็นต้นมาตลาดยังอยู่ใน"ขาขึ้น"นั้นเอง ..อีกจุดนึงถ้าใครสังเกตุจะเห็นว่า ทุกครั้งที่คุณขาย โอกาสที่ต้นทุนคุณจะสูงขึ้นเรื่อยๆเป็นไปได้สูง นั่นหมายความว่า (คนที่กำไรที่สุดในตลาดตอนนี้ ก็คือ ผู้ที่เข้าตั้งแต่ต้นปี 2009 และยังไม่ได้ขายนั่นเอง) ....เวลานี้เป็นยุค"โดดตึก"ของอเมริกาและยุโรป เพราะเรา"เคยโดด"กันมาก่อนแล้ว ..เราอย่าเผลอไป"โดด" ร่วมแจมกับเขาเพราะอารมณ์ร่วม...หุ หุ....
(("โวหารพาเพลิน"))--(ประเทศแต่ละประเทศย่อมมีวงจรการขึ้นลง แตกต่างกันไป ..บางครั้งภาพรวมอาจ สามารถสร้าง"ความกลัว"ที่ทำให้นักลงทุน"ตัดสินใจ ด้วยอารมณ์" ซึ่งทำให้ "ราคาหุ้น"เกิดความผันผวน(สุดๆ)..ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ..ซึ่ง"ช่วงเวลาดังกล่าว"หากใครสามารถ แยกแยะอารมณ์ออกจากการตัดสินใจได้ --เขาก็จะมีโอกาสได้ซื้อหุ้นในราคาที่"ถูกสุดๆ"นั่นแล...ดังภาษิต "หนึ่งชาย(ขายหมู) อีกหนึ่งชาย(ซื้อหมู)")
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
6 ข้อ ใสใส VI รุ่นใหม่ ควรต้องรู้ ขึ้นชื่อว่า ‘นักลงทุนคุณค่า’ ก็แปลว่า เราต้องข้ามผ่าน ’ราคา’(Price) แล้วพุ่งไปที่แก่นของมันคือ ‘มูลค่า’ (...
-
7 ข้อ ที่คนปกติเขาไม่ทำกันในตลาดหุ้น 1. ’หมกมุ่นอยู่ในจุดที่คนอื่นบอกไม่มีอนาคตแล้ว‘ …ตลาดหุ้นไทยไม่มีอนาคตแล้ว ไปตลาดอื่นเถอะ 2. ’ซื้อหุ้น...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ คุณ สุระ ผู้ก่อตั้ง Com7 เจ้าของ ร้านในเครือ Banana IT ..เดี๋ยวนะ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเชียร์หุ้น แต่จะมาเล่ามุ...
-
ในหนังสือ สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ ...มีอยู่บทนึงที่พูดถึง การหาตัวตนของเราให้เหมาะกับงาน ...ซึ่งก็คือ การรู้ว่า "จริตการทำงาน" ขอ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...