แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ภาวะตลาด"เรื่องเก่าเล่าใหม่"


ภาวะตอนนี้ กลับแย่ลงกว่าเดิม ตอนนี้เท่าที่ดูตัวเลข ต่างชาติออกไปเยอะมาก เหลือ ติด Port แค่ 21,000 ล้านบาท ..ถ้าให้วิเคราะห์ผมมองว่า ต่างชาติน่าจะขายใกล้ถึงจุด"สุด"แล้ว ..ถ้าจะทิ้งต่อก็"ไม่น่าจะมาก" ...แต่สังเกตไหมครับว่า พอฝรั่งขาย --รายย่อยกับสถาบันก็วิ่งมารับ (ซึ่งถ้ามองย้อนไปตอนดัชนีที่แล้วตอนต้นปี2010 ช่วงที่ รายย่อยกับสถาบัน วิ่งออก ดัชนีอยู่แค่ 600 ปลายๆ ) ..ช่วงนี้ 700 ปลายๆ รายย่อยกัยสถาบันกลับเข้ามารับจากต่างชาติ

--พูดง่ายๆคือ รอบนี้ สถาบันกับรายย่อยเข้ามาซื้อ"แพงขึ้น" (งง..ไหมครับว่า --ทำไมไม่ Make Sense เลย) อย่างไรก็ตาม หาก "การเมือง"เดินต่อได้ ก็"กลับรูปเดิม" คือ ต่างชาติที่ทิ้งช่วงนี้(ที่ 700 ปลายๆ) ก็จะกลับมารับ ..คราวนี้สถาบันกับรายย่อยก็จะขาย

--จากนั้นพอขึ้นไปถึงจุดนึงเช่น 800 ปลายๆ คราวนี้ต่างชาติอาจออก จากนั้น สถาบันกับรายย่อย ก็จะมารับต่อ ไปเรื่อยๆ --จะเห็นได้ว่า ตราบใดที่ นักลงทุน แต่ละกลุ่ม มีความเห็นไม่ตรงกัน ก็จะเกิด"คนนึงขาย อีกคนซื้อ วนไปเรื่อยๆ พร้อมกับ ดัชนีที่สูงขึ้นเรื่อยๆ" ..จุดนี้เขาเรียกว่า"หุ้นมันกำลัง Climb Wall Of Worry(ปีนกระไดความวิตก)"

แล้วถ้าถามว่า "มันจะหยุดปีนกระไดเมื่อไหร่" ก็เมื่อ นักลงทุนทุกกลุ่ม"เห็นตรงกัน" ...คือ ถ้าถึงจุดที่เห็นตรงกันว่า"ดี" ตลาดก็จะ"พุ่งแรง จนเกิด Bubble ในที่สุด" ...แต่ในทางตรงกันข้ามหาก ทุกคนเห็นตรงกันว่า "แย่" ตลาดก็จะ"ร่วงสุดๆ" นั่นเอง --จริงๆ"ตลาดหุ้น"ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มันเป็นเพียง"เกมเดาใจ" แต่กลายเป็นว่า คนที่เดาถูกมันคือ"คนส่วนน้อย"นั่นก็ชี้ให้เห็นว่า " Majority ของตลาดคิดอย่างไร ..คุณก็ควรจะไปอีกทาง " ..คำถามคือ "คุณว่าคนส่วนใหญ่ในขณะนี้คิดอะไร"...

คนส่วนใหญ่คิดว่า "ตอนนี้เสี่ยง ขายหุ้นทิ้งเก็บเงินสด รอให้หุ้นตกมากๆ เดี๋ยวจะมาช้อนตอนถูกสุดๆ --ผมถามคุณหน่อยว่า เมื่อคนส่วนใหญ่คิดอย่างนี้เขาก็ย่อมขายหุ้นออกมาเพื่อถือเงินสด.. ตลาดหุ้นมันก็จะ"ถูก"คุณควรจะซื้อหุ้นตอนนี้(ซึ่งถูก) หรือ คุณควรรอให้ ทุกคนคิดว่า"อยากซื้อ" แล้วเข้ามาซื้อตอนแพง...."

คุณคิดไหมว่า(ผมพยายามอธิบาย หลัก Common Sense ง่ายๆ แต่คนส่วนใหญ่"รู้--แต่พอเอาเข้าจริงทำไม่ได้")"เซียนหุ้นตัวจริง"มันไม่ใช่คนที่"นั่งอยู่หน้าจอคอมดูราคา" ของจริง..มันนอนอยู่"ชายหาดโน้น" ปีนึงอาจซื้อขาย ครั้งเดียว อะไรประมาณนั้น...ไอ้พวกซื้อขายทุกวัน...ที่สุด 99.99%ไปติดบนดอย "ไม่ได้นั่งทะเลกับเขาหรอก..หุ หุ --มันบอก(ก็กูชอบที่สูงนี่หว่า!!)"

## จริงๆหุ้นขึ้นลง มันไม่ได้เกี่ยวเลยว่า คุณรวยขึ้นหรือจนลง "หากคุณยังไม่ได้ขาย" ..หากคุณจ้องราคาขึ้นลง ผมพนันเลยว่า "คุณไม่มีทางทน(ไม่ขายได้)--หากหุ้นขึ้นแรงๆ" ดังนั้น คุณจะเล่นแบบ "ขี่ช้างจับตั๊กแตน"-- คือ ใช้เงินก้อนใหญ่เล่นเอากำไรนิดๆ แต่พอติดนี่ "ระทม"-- "เคล็ดลับ" มันอยู่ที่ "ปันผล"ต่างหาก เพราะหาก "ปันผล" ดีและเป็นกิจการที่มั่นคง คุณถือไปสัก ห้าปี สิบปี "คุณมีแต่ได้กับได้" อย่างแรกเช่น รับปันผล 5% ต่อปี(สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลที่แย่งกันซื้อ) พอตอนที่เราจะขายก็ "ไปขายตอนเศรษฐกิจดี" ผมถามหน่อยมันเสี่ยงตรงไหน

(อย่าง PTT (ตอนนี้ Book Value ประมาณ 150 บาท)ตอนที่ดี P/BV จะประมาณ 3 เท่า ตอนห่วยปี 2008 P/BV มันลงไป 1 เท่า ตอนนี้อยู่เท่ากว่าๆ --สมมุติผมซื้อตอนนี้ รับทันทีปันผล(สูงกว่าพันธบัตร)ไปเรื่อยๆ พอเศรษฐกิจดี ผมก็ขาย ..สมมุติสิบปีข้างหน้า PTT โตขึ้นตาม GDP - Book Value ก็เพิ่มสมมุติเป็น 200 บาท เผอิญเศรษฐกิจดี P/BV จะประมาณ 3 เท่าอีก ก็เท่ากับว่า หุ้นตอนนั้นจะเป็น 600 บาท....แค่ปันผลอย่างเดียวก็เยี่ยมแล้ว นี่ผมได้ Capital Gain อีกตรึม ) แต่บางคนแย้งผมว่า อ้าว..ถ้ามัน"รบกัน" ราคาตก ทำไง.."ก็ไม่เห็นต้องทำอะไร" คุณก็ถือไปรับปันผลไปเรื่อยๆ "เดี๋ยวท้ายสุดมันก็ต้องหยุดรบ และใช่ว่าการรบ ไม่ต้องใช้น้ำมันนิ..." ...คิดดีคิดบวก ก็"รวย"ได้นะครับ....

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ