แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ตำรา"การตลาดยุคใหม่" ล้าสมัยไปแล้ว(เข้าสู่ Product is King)


ตั้งแต่ Internet แพร่หลายจนตอนนี้ ทำให้"การตลาด"แทบต้องฉีกตำราทิ้ง ..การเข้าถึงข้อมูลอย่างมหาศาลในเวลารวดเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในการ"ตัดสินใจซื้อ" ..สมัยก่อน"โฆษณา"นับว่ามีอิทธิพลต่อการซื้อสูง แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่า"บอกต่อ" แรงกว่า.. "เดี๋ยวนี้จะซื้ออะไร ต้อง Search Internet ดู Comment ของสินค้านั้นๆ ..ผมว่าระบบของ Google ถือว่าเป็น เครื่องมือ "ช่วยเหลือผู้บริโภคที่ดีมาก" เช่น เราอยากรู้ว่า "รถยนต์"ที่เราสนใจ มี Comment จากคนที่ใช้แล้ว ก็แค่ Search ... จุดนี้มันเปลี่ยนมุมมองของ"การตลาด"ไปอย่างสิ้นเชิง

ผลกระทบโดยตรงก็คือ "สื่อ"ได้รับผลกระทบสูง เพราะอำนาจตกกลับไปสู่"ผู้บริโภค" ..ยิ่งปัจจุบัน การบริการต่างๆยิ่ง"ฟรี"มากขึ้นเรื่อยๆ --แต่ก่อนถ้าจะโฆษณาต้องสร้าง Website ซึ่งมี"ค่าใช้จ่าย"ไม่น้อย ..ปัจจุบันไม่ต้องเลย แค่เปิด Facebook ก็ได้แล้ว ..แถมได้ Feedback ซึ่งก็คือ Market Research ดีๆนี่เอง.. ได้ง่ายๆ ไม่เสียเงิน --อย่างการเมืองผมชอบเข้าไปดูของ คุณ อภิสิทธิ์ กับ คุณ ทักษิณ

..เราจะเห็นเลยว่า ตอนนี้ใครโดนด่า โดนชม ต่างกันอย่างไร ..ถ้ามอง Facebook ผมว่าคนที่ใช้ ต้องเป็น"ชนชั้นกลาง"ขึ้นไป ซึ่งเห็นๆว่า ส่วนใหญ่ คุณ อภิสิทธิ์ จะได้ใจกว่า คุณทักษิณ แต่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่"คนกลุ่มใหญ่ของประเทศ"(ซับซ้อนๆ) ..เอาเป็นว่า การเข้าใจ"สื่อ"จะทำให้เราเห็นภาพต่างๆได้กว้างขึ้น (เสมือนมี poll ส่วนตัว ..หากเรารู้จักใช้) --ดังนั้น ตอนนี้ ผมแค่ดู Facebook ของทั้งสองคน ผมอ่านเกมออกเลยว่า กลุ่มไหนมีใครสนับสนุน และพอจะเห็นภาพคร่าวๆว่า ทั้งเหลือง และ แดง จะเดินอย่างไร

จะว่าไปแล้ว Facebook สามารถทำให้ทุกคนมี"หน้าร้าน" ได้อย่างง่าย และ สามารถ "จับกลุ่ม"คนที่มีความคิดเหมือนกัน ตั้งเป็นประเด็น ซึ่งน่าสนใจมาก..ประเด็นนี้อย่าง Obama ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จ ในการใช้สื่อสมัยใหม่ ร่วมกับ Facebook ทำให้สามารถเป็น"ประธานาธิปดี"--"สุดยอด"

ดังนั้น "การตลาด"ในอนาคต หากไม่รู้จัก เอาเครื่องมือใหม่เหล่านี้มาใช้ จะเกิดได้ยากมากๆ เพราะ การที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายดายนี่เอง มันยิ่งทำให้ การสื่อสารยากขึ้น ..เพราะผู้บริโภคจะ"ปิดตัวเอง"มากขึ้น ดังนั้น "โฆษณา" จะได้ผลน้อยลงเรื่อยๆ

-- ช่วงนี้"กีฬาสี"ที่เกิดขึ้น นับว่า "สื่อใหม่อย่าง Internet" เข้ามามีบทบาทอย่างมาก โดยเฉพาะ Facebook เพราะสามารถเข้าทาง"มือถือ"ได้ ..ซึ่งถ้ามองไปในอนาคตอันใกล้ โอกาสที่"มือถือ"เป็นล้านเครื่องจะสามารถเข้า Internet และ Facebook ก็เป็นหนึ่งใน App ที่เกือบทุกคน"ต้องใช้"

--กระแสนี้ปลุกโดย AIS ที่ใช้ Celebrity Marketing ตามด้วย TRUE และก็ DTAC ซึ่งทุกค่ายหนีไม่พ้น Facebook เป็นหลัก ..ดังนั้น อนาคตผมมองว่า Facebook จะกลายเป็น"สื่อ"ที่แรง และ"สำคัญ"มาก ขึ้นอยู่กับความสามารถในการใช้ นั่นเอง...

ความสำเร็จของ Product ในอนาคต น่าจะอยู่ที่ตัว Product เป็นหลัก --อย่าง Apple ถือเป็น"ต้นแบบความสำเร็จ" ..สินค้าที่ดี ในอนาคต แทบไม่ต้องเสีย"งบโฆษณา"เลย --เพราะผู้บริโภคจะค้นหาสินที่เหมาะกับตัวเอง มากกว่า "การยัดเยียดโดย นักการตลาด และ โฆษณา เหมือนอย่างแต่ก่อน"

หรือ อย่างหนัง "AVATAR" ถือเป็นอะไรที่สอนฮอลลีวู๊ด ..เพราะช่วงหลังๆมานี่ ถ้าหนังทำเงินได้ หลักร้อยล้าน ก็ถือว่าแจ๋วแล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับสมัยก่อน เช่น Titanic , Jurasis Park รายได้เกินพันล้าน ..แต่ AVATAR กลับทำรายได้ 2 พันล้าน เรียกได้ว่า "ทุกคน(งง)"

จุดนี้มันชี้ให้เห็นว่า ยุคต่อจากนี้ไป Product is King คือ "สินค้า" จะกลับมาสำคัญอีกครั้ง หาก"สินค้า"คุณไม่ได้ตอบสนอง"ความต้องการของลูกค้า"ก็พับเสื่อเก็บไปได้เลย... อย่างไรก็ตาม"สินค้าที่ดี"ก็ต้องอาศัย "New Media" ที่ดีควบคู่ จึงจะประสบความสำเร็จได้ ..(แต่ก่อนการรู้เยอะ คือ คนเก่ง แต่ปัจจุบันการรู้เยอะ ไม่มีประโยชน์เพราะทุกคนก็รู้เยอะเหมือนกัน"อยากรู้อะไรเข้า net ก็รู้แล้ว" ปัจจุบันต้อง"รู้ให้น้อย แต่รู้ให้ลึก"ถึงจะชนะ พูดง่ายทำยาก ไม่เชื่อไปถาม Tiger woods เขาจะช่วย"ไขความกระจ่าง"รู้น้อยแต่ลึก มันรวยยังไง)...

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ