วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
Demographic for Business “รู้คน..ชนะเกมธุรกิจ” (ตอนที่ 2)
--- Generation Y (เกิดช่วง 1980 -2000) ปัจจุบันมีอายุน้อยกว่า 30 ปี (คือ วัยที่กำลังเริ่มต้นทำงาน ในระดับ”เริ่มต้น” จึงยังไม่ได้รับผลจากเศรษฐกิจมากเท่า Gen X (ที่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารที่ต้องตัดสินใจ)
…กลุ่ม Gen Y จะเติบโตขึ้นมาพร้อม Computer และ Internet ทำให้คนกลุ่มนี้ สามารถเข้าถึงข้อมูลมหาศาล ทำให้คนกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มแรงงานที่มี Productivity สูงที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา (นักวิชาการให้ชื่อคนกลุ่มนี้ว่า “Millenium”) …ในด้านประชากรกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกของ Baby Boomer ทำให้คนกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์อย่างดีต่อ Baby Boomer(ไม่ใช่ในเชิงความเข้าใจ แต่ในเชิงความสัมพันธ์ แบบ “พ่อกับลูก อะไรประมาณนั้น” … (หลายคนมองว่า Gen X ถูกวางตัวให้เป็นพี่เลี้ยงของ Gen Y ซึ่งเป็นผู้สืบทอดกิจการตัวจริงของ Baby Boomer)
…ในด้านการตลาด เนื่องจากยุคการผลิตอย่างเข้มข้น จาก Baby Boomer ถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ ตลาดเกิด “Demand มากกว่า Supply อย่างมหาศาลเป็นครั้งแรก” (จุดนี้ทำให้ ราคาใน Asset ลดลงอย่างมาก) ..เนื่องจาก Gen Y ส่วนใหญ่ยังไม่ได้อยู่ใน วัยแรงงาน จึงไม่มีรายได้มาก ส่งผลให้ Demand ตาม Supply ไม่ทัน ก่อให้เกิดการ “ตกต่ำ”ของกิจการต่างๆทั่วโลก
…อย่างไรก็ตาม หากเราเข้าใจประชากรอย่างลึกซึ้ง เราจะมองเห็นว่า Gen Y (แม้จะเป็นกลุ่มที่ไม่ใหญ่ “เพราะ Baby Boomer มีลูกน้อยลง” แต่ด้วยการที่ Gen Y เป็นกลุ่มที่มี Productivity สูง(แม้กลุ่มคนจะน้อย แต่ประสิทธิภาพการผลิตน่าจะพอๆกับ Baby Boomer) ..จุดนี้จะส่งผลให้ การ “บริโภคที่จะสูงตามการผลิต” ทำให้ เมื่อ Gen Y เข้าสู่วัยทำงานส่วนใหญ่ จะทำให้ Demand กลับมาเติบโตอีกครั้ง) ….ดังนั้น เป็นไปได้อย่างสูงว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า โลกเรากำลังจะเข้าสู่ “ขาขึ้น” อีกครั้งทั้งเศรษฐกิจ และ การลงทุน
---- หากเราเข้าใจ การ “เปลี่ยนแปลง” ของประชากร เมื่อเอามา Match กับ Asset อย่าง ที่ดิน , หุ้น และ ทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ไม่น่าแปลกใจ ที่เราเริ่มเห็น ปรากฏการณ์ Commodity Boom (ที่เริ่ม “บูม”มาหลายปีแล้ว) …ในด้านลึกของธุรกิจต่างๆในปัจจุบัน เรากำลังเริ่มเห็นการปรับเปลี่ยนในด้านธุรกิจ คือ ธุรกิจจากอิทธิพลของ Computer ทำให้กิจการต่างๆ ปรับเปลี่ยน ลดต้นทุน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น (ในอนาคต กิจการต่างๆ ก็จะใช้คนน้อยลง ใช้ทรัพยากรน้อยลง ในขณะที่ผลิตได้เพิ่มขึ้น ..และนั้นย่อมหมายถึง คุณภาพชีวิตของคนในยุคต่อไปจะดีมากขึ้นนั่นเอง)
แต่ระหว่างนี้ “เราจะเห็นถึงความตกต่ำของธุรกิจ ขาดทุน หุ้นตก ราคาบ้านลด คนกลัว” ซึ่งให้เรามองในแง่ดีได้เลยว่า “ในช่วงเปลี่ยนผ่านย่อมต้องมีการปรับฐานปรับตัว” จากนั้นเมื่อทุกอย่างเข้าที่ เราก็จะเห็น กิจการต่างๆเข้าสู่ยุครุ่งโรจน์มากกว่า ยุคของ Baby Boomer เสียอีก
--- จุดนี้เองหากใครมองออกว่า ควรลงทุนใน”กิจการ หรือ สินทรัพย์ ใด “ ย่อมหมายถึง ความมั่งคั่งที่จะเกิดกับคนที่”มองภาพออก” (จริงมั๊ย) จุดนี้ก็ฝากให้ช่วยคิดกัน เพราะใครที่คิดได้คุณก็จะต้อง”รวยสุด” อย่างแน่นอน………. “โชคดี!!” …..อิ อิ อิ…….
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
ในหนังสือ สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ ...มีอยู่บทนึงที่พูดถึง การหาตัวตนของเราให้เหมาะกับงาน ...ซึ่งก็คือ การรู้ว่า "จริตการทำงาน" ขอ...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
เข้าใจกลไกเศรษฐกิจที่ซับซ้อน แบบง่ายๆ ใน 6 ข้อ 1. ‘เงินเฟ้อ คือ ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดในระบบทุนนิยม‘ …เงินเฟ้อแปลว่า เงินที่เราหาได้เก็บสะส...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น