วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
การลงทุนก้าวต่อไป เป็นทางเดิน “บนธารน้ำแข็ง”(จริงหรือ?? )
วันนี้การเมืองในผิวเผินอาจดูสงบ แต่ความจริงจะสงบหรือไม่ (มันไม่ได้ขึ้นกับคุณ …จริงมั๊ย!!) การก่อการร้ายต่างๆ ล้วนต้อง “ใช้เงิน”เป็นตัวขับเคลื่อนทั้งสิ้น …ดังนั้น มันอยู่ที่ “เจ้าของเงิน”ที่จะให้เป็นตามที่เขาต้องการ ---โอกาสของ “ความวุ่นวาย”ที่อาจปะทุขึ้นอีกครั้ง เป็นไปได้มากที่ จะใช้ “ภาคอีสาน และ ภาคเหนือ เป็นตัวขับเคลื่อนกลยุทธ์ (ม๊อบล้อมเมือง) ..เหมือน(ป่าล้อมเมืองที่ทำสำเร็จอย่างยิ่งยวด โดย 7-11)
ก่อนหน้าที่ “มีการปะทะที่ ราชประสงค์” ผมมองว่า การบริโภคภายในของไทย กำลังจะเข้าสู่ “ขาขึ้น” อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ “มันได้เปลี่ยนไปแล้ว” …ที่ว่าเปลี่ยน คือ “Trend การบริโภคภายใน ขาขึ้น ยังคงอยู่” --แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือ “เวลา”ต่างหาก …..นับจากนี้ เราอาจพบกับ After Shock จาก “ราชประสงค์” ทำให้สร้างความขัดแย้งขึ้นใหม่ ใน “ภาคเหนือ และภาคอีสาน” ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริง ย่อมหมายถึง “ความวุ่นวาย หรือ การหยุดชะงัก ด้านการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว” ซึ่งก่อนหน้านี้ CPN , BIG C , TESCO, 7-11 และธุรกิจอีกมากมายได้ ไปบุกเบิกตลาดในพื้นที่ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น “หากเกิดความขัดแย้งรุนแรง” ย่อมจะส่งผลกระทบต่อ ผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ … (แต่จุดนั้น ผมกลับมองว่าเป็น โอกาส ที่จะลงทุน ในกิจการที่ได้รับผลกระทบ) …ดังนั้น ตราบใดที่ “ธุรกิจ”ในพื้นที่นั้นๆ ยังวุ่นวาย ก็ย่อม ส่งผลกระทบต่อ “ราคาหุ้น” ….เป็นโอกาสให้เราซื้อ กิจการที่ดี ในจังหวะที่ไม่แน่นอนนั่นเอง (เพราะหากมองภาพรวมแล้ว พื้นที่เสี่ยง ถือเป็นสัดส่วนเล็กๆในบริษัทใหญ่ และนั้นคือ จุดที่เราสนใจนั่นเอง)
ส่วนธุรกิจที่จะได้ รับผลดี จากเหตุการณ์ราชประสงค์ ก็คือ “ก่อสร้าง , วัสดุก่อสร้าง , ผู้รับเหมา พูดง่ายๆว่า “ความเสียหายต่างๆ” ย่อมนำมาซึ่ง การ บูรณะ เปลี่ยนของที่เสียหาย ซึ่งทั้งหมด เป็นการกระตุ้นให้เกิด Demand ที่ไม่เคยมี ทำให้ กิจการที่เกี่ยวข้อง ได้เงินมีการหมุนเวียน Stock ส่งผลที่ดีต่อ เศรษฐกิจโดยรวม …เมื่อวันก่อน เห็นข่าว การ “ลดภาษี” ให้บริษัทฝรั่งที่จะมาลงทุนในไทย ซึ่งผมมองว่าเป็นนโยบายที่ดีมาก ที่จะทำให้ “การลงทุนจากต่างชาติ”ฟื้นในเวลาอันรวดเร็ว
ในส่วนของ “การลงทุน” ผมเห็น สัญญาน Over-Sold คือ ขายหุ้นจำนวน มากเกินไป(ในเวลาอันรวดเร็ว) เพราะหากดูตั้งแต่ต้นปี ถึงเวลานี้ เห็นได้ชัดว่า “การลงทุนของปีนี้ของนักลงทุนต่างชาติ ติดลบเกือบ หมื่นล้านแล้ว” แต่ SET ไม่ได้ตก “รุนแรง”อย่างที่หลายคนคาด …นี่เป็นสัญญาณที่ บอกได้ว่า “คนไทยมีความเชื่อมั่นในประเทศ” ดังนั้น ถ้า “นักลงทุนต่างชาติ” หยุด Panic Sell เมื่อไหร่ ตลาดน่าจะวิ่งไปเกินกว่า 900 จุด(อย่างแน่นอนครับ)
ดังนั้น การลงทุนบนธารน้ำแข็ง ต้องอาศัยความเข้าใจ และมอง “ความจริง” ผ่าน “อารมณ์ที่แปรปรวน” จึงจะสามารถ เห็นสิ่งที่ “คนอื่นไม่เห็น” ….. ผมว่าวันนี้ผม “ตาสว่างแล้ว” แล้วคุณล่ะ (สว่างไหม !!)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
6 ข้อ ใสใส VI รุ่นใหม่ ควรต้องรู้ ขึ้นชื่อว่า ‘นักลงทุนคุณค่า’ ก็แปลว่า เราต้องข้ามผ่าน ’ราคา’(Price) แล้วพุ่งไปที่แก่นของมันคือ ‘มูลค่า’ (...
-
7 ข้อ ที่คนปกติเขาไม่ทำกันในตลาดหุ้น 1. ’หมกมุ่นอยู่ในจุดที่คนอื่นบอกไม่มีอนาคตแล้ว‘ …ตลาดหุ้นไทยไม่มีอนาคตแล้ว ไปตลาดอื่นเถอะ 2. ’ซื้อหุ้น...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ คุณ สุระ ผู้ก่อตั้ง Com7 เจ้าของ ร้านในเครือ Banana IT ..เดี๋ยวนะ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการมาเชียร์หุ้น แต่จะมาเล่ามุ...
-
ในหนังสือ สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ ...มีอยู่บทนึงที่พูดถึง การหาตัวตนของเราให้เหมาะกับงาน ...ซึ่งก็คือ การรู้ว่า "จริตการทำงาน" ขอ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...