วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553
Zhengrong Shi อายุ 43 ปี รวยอันดับที่ 350 ของโลก($2.2 Billions ) ด้วย “แสงอาทิตย์”!!!
นาย Zhengrong Shi เป็นคนจีน ไปศึกษาในออสเตรเลีย เรื่อง Solar cells แล้วกลับมาเมืองจีน ตั้งโรงงานผลิต “Solar Cells” ตอนนี้บริษัท Suntech Power จดทะเบียนในตลาด NASDAQ มูลค่า $5.5 Billions (ส่วนนาย Zhengrong Shi รวยถึง $2.2 Billions)…. “สร้างตัวเอง เป็น Billionaire ตั้งแต่อายุ 40 ต้นๆ”
หลายคนสงสัย ทำไมมันดู “ง่าย” แล้วทำไมมันไม่เกิดกับเราบ้าง… “ไปเรียนเมืองนอกแล้วกลับมารวยสุดๆ” ..บ้านเรามีแต่ไปเรียนเมืองนอก เสียเงินไปหลายล้าน กลับมาทำงานเมืองไทย ได้เงินหมื่นบาท ….หุ หุ หุ (แต่ไม่เป็นไรขอให้สู้ต่อไป ยังมีแสงที่ปลายอุโมงค์!!)
มาดูเรื่อง “พลังงานที่ใช้ในโลกกัน” --เราผลิตพลังงานประมาณ 19,000 เทราวัตต์-ชั่วโมง (เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป 81.5% ..พลังงานน้ำ16.5%..พลังงานทดแทนอื่นๆ 1.37%...พลังงานลม 0.68%...พลังงานแสงอาทิตย์ 0.02% )
…ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานความร้อนมายังโลก(ต่อชัวโมง) เท่ากับถ่านหิน 21,000 ล้านตัน --แต่ปัญหาคือ Solar Cells ยังแพงและมีประสิทธิภาพไม่สูง ( ในปี 1980 นักวิศวกรอเมริกัน ชื่อ โรแลนด์ ฮัลสตรอม ได้ทำการคำนวณว่า ถ้าวาง Solar Cells ครอบคุมพื้นที่เพียง 0.003 ของอเมริกา “ประมาณพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส 160 กิโลเมตร” จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้า ป้อนอเมริกาทั้งประเทศได้ ---แต่จนแล้วจนเล่า “พลังงานแสงอาทิตย์ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยนิดมากในปัจจุบัน”
ปัจจุบันเมืองจีน หันมาสนใจพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น โดยเน้นใช้ในการผลิตน้ำร้อน ตามบ้านเรือนในชนบท ซึ่งการเคลื่อนตัวของเมืองจีน ก็ส่งผลให้เกิด Economic of Scale ทำให้บริษัท Suntech ของ Zhengrong Shi กลายเป็น บริษัทที่ผลิต Solar Cells ต้นทุนต่ำ อันดับต้นๆของโลก …อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจีนยังพึ่ง พลังงานจากถ่านหินเป็นหลัก เนื่องจาก Supply ของถ่านหินมีเหลือ มากที่สุด เมื่อเทียบกับ พลังงานคาร์บอนอื่นๆอย่างน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ (ซึ่งเหลือไม่ถึง 100 ปีแล้ว) …ท้ายสุด โลกเราก็ต้อง Shift จาก “พลังงานคาร์บอน” มาเป็น “ พลังงานทดแทน” ภายใน ศตวรรษนี้อย่างแน่นอน (ขึ้นอยู่ที่เวลาเท่านั้น!!)
จริงๆแล้วโลกเรา เพิ่งเจอ วิกฤต “พลังงานแพง” เมื่อปี 1980 แต่เนื่องจาก การเกิดขึ้นของ อุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่ใช้น้ำมันน้อยลง รวมทั้งการค้นพบ Supply ที่เพิ่มขึ้น จากประเทศต่างๆ ส่งผลให้ “ราคาน้ำมันตกต่ำลง” หลังจากปี 1980 จึงเกิดภาวะน้ำมันราคาตกต่ำอีกครั้ง …ดังนั้น เทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่เกิดก่อนในช่วงน้ำมันแพงในตอนนั้น เป็นอันต้องหยุดชะงักลง ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าที่ GM ผลิตออกมาขายในเวลานั้น ต้องปิดตัวไป --จากนั้นโลกก็กลับมา “ติดน้ำมันเหมือนเดิม” จนในปี 2004 เป็นต้นมา “น้ำมันก็มีราคาสูงขึ้น สูงขึ้น จนมาสูงที่สุดในปี 2008 อีกครั้ง ก่อนจะมาอยู่ที่ประมาณ 70 กว่าๆ(ต่อ บาร์เรล)ในปัจจุบัน
สิ่งที่ผมเห็นคือ การกลับมาแพงของราคาน้ำมันอย่างถาวร “การมุ่งสู่พลังงานทดแทน กับการก้าวขึ้นเป็นผู้นำของเอเชีย จึงเป็นสิ่งคู่กัน ที่ไม่สามารถหลีบเลี่ยงได้ ดังนั้น “ความมั่งคั่งใหม่ในอนาคต จึงต้องมีพลังงานทดแทนเป็นส่วนหนึ่งในนั้น” ..พลังงานแสงอาทิตย์ จึงเป็นส่วนหนึ่งของความมั่งคั่ง อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
….ประเด็นคือ เอามาเล่าให้ฟังเฉยๆ "รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม"....หุ หุ หุ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
7 ข้อ ทำไมมนุษย์เรา ถึงแย่มากๆ ในการจัดการเงิน ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เราทำนายอนาคตได้แย่มากๆ …สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าจะดี มันจะแย่ …แต่...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
เรื่องนี้เป็นประเด็นสอนใจ Brand ระดับโลกอย่าง Starbucks ที่เข้าไปบุกแดนจิงโจ้ ..ในที่สุด กระอัก “ไม่รุ่ง” ด้วยเหตุที่ Australia นับเป็นหนึ่ง...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
ตลาดหุ้น จะแบ่งออกเป็น ตลาด Bull & Bear Market Bull Market ก็คือช่วงที่นักลงทุน มองว่าเศรษฐกิจดี และ โอกาสที่หุ้นจะขึ้นมีเยอะ ทำให้ทุ...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น